ในช่วงบ่ายวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ณ ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีและผู้บริหารสูงสุดของบริษัทมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ซึ่งเป็นบริษัทรถยนต์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อสนับสนุนแผนการขยายการลงทุนในการพัฒนารถยนต์ไฮบริดในประเทศไทย การประชุมครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทมาสด้ามีแผนที่จะลงทุนมากกว่า 5,000 ล้านบาทเพื่อสร้างฐานการผลิตที่ครบวงจรในประเทศไทย

การเยือนของผู้บริหารมาสด้าและแผนการลงทุนใหม่

ในช่วงบ่ายของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ณ ทำเนียบรัฐบาล มาซาฮิโระ โมโระ ประธานและผู้บริหารสูงสุดของบริษัทมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน จากประเทศญี่ปุ่น เข้าพบกับนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร โดยมีนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเข้าร่วมหารือด้วย

การประชุมนี้เน้นไปที่การสนับสนุนการลงทุนของมาสด้าในการพัฒนารถยนต์ไฮบริดในประเทศไทย ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะลงทุนเกิน 5,000 ล้านบาท สำหรับการสร้างฐานการผลิตที่ครบวงจร รวมถึงการประกอบรถ การพัฒนาระบบเกียร์ การพัฒนาแบตเตอรี่ และระบบปฏิบัติการอื่นๆ นอกจากนี้ การลงทุนนี้ยังช่วยยกระดับความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย

นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับแผนการลงทุนนี้และยืนยันว่ารัฐบาลยินดีที่จะสนับสนุนและสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมไฮบริดและ EV ให้สามารถเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตยานยนต์สมัยใหม่ได้อย่างราบรื่น ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญต่อไป

หลังจากการประชุม นายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความทางโซเชียลเพื่อแสดงความยินดีและขอบคุณมาสด้าที่เลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิต

การลงทุนนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำของโลกที่มีต่อประเทศไทย ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศในอนาคต

นักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศสมีประสบการณ์ที่ไม่คาดคิดเมื่อเขาต้องการเดินทางไปยังเกาะเต่า แต่กลับถูกพาไปที่ดอยเต่า นอกจากนี้เขายังลืมกระเป๋าเงินไว้ที่ร้านอาหารตามสั่ง โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจไทย ซึ่งได้ประสานงานเพื่อพาเขากลับไปเอากระเป๋าและจัดเตรียมการเดินทางใหม่ให้กับเขา จนสามารถเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย

ความผิดพลาดในการเดินทางและการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่

นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสวัย 22 ปี เดินทางมาเยือนไทยครั้งแรก เพื่อไปยังเกาะเต่า แต่เกิดความเข้าใจผิดระหว่างการสื่อสารกับคนขับรถ ทำให้ถูกพาไปที่ดอยเต่าแทน เมื่อรู้ว่าเดินทางผิดเส้นทาง เขาได้โบกรถบรรทุกผักเพื่อขอความช่วยเหลือในการเดินทางต่อ

ขณะที่กำลังเดินทาง เขาได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พร้อมจะช่วยเหลือ โดยเฉพาะ ส.ต.ท.ธีรพัฒณ์ และเพื่อนๆ ซึ่งได้ประสานงานเพื่อพาเขากลับไปที่ร้านอาหารเพื่อเอากระเป๋าเงินที่ลืมไว้ หลังจากนั้น พวกเขายังได้จัดเตรียมที่พักให้กับนักท่องเที่ยวเป็นเวลาหนึ่งคืน ก่อนที่จะพาเขาไปขึ้นรถโดยสารเพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะเต่า

การประสานงานและการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

เมื่อพบว่ามีการลืมกระเป๋าเงิน ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับตำรวจท้องที่เพื่อสกัดรถบรรทุกผักที่นักท่องเที่ยวเคยนั่ง และพาเขาไปที่ร้านอาหารเพื่อเอากระเป๋าคืน เจ้าหน้าที่ยังได้ประสานงานเพื่อจัดเตรียมที่พักให้กับนักท่องเที่ยวเป็นเวลาหนึ่งคืน

การประสานงานอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที แม้ว่าเขาจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ เขาก็สามารถเดินทางต่อไปยังเกาะเต่าได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความเอื้อเฟื้อของคนไทยต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ