Denza N9 รถ SUV ขนาดใหญ่จาก BYD เริ่มออกสู่สายการผลิตในประเทศจีนแล้ว โดยเตรียมจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคมปีนี้ มีขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดและรุ่นไฟฟ้าล้วนที่กำลังจะเปิดตัวในอนาคต การผลิตจำนวนมากของ Denza N9 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ BYD ในตลาดยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในประเทศจีน และกำลังขยายไปยังตลาดยุโรปและเอเชียกลาง
ด้านการออกแบบภายนอก Denza N9 นำเสนอสไตล์ที่แข็งแกร่งและหรูหรา พร้อมมิติตัวรถที่กว้างขวาง ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น หน้าจอ LCD หลายจอสำหรับความบันเทิงและการควบคุมระบบต่างๆ รวมถึงที่นั่งแถวที่สองที่มีโต๊ะพับเก็บได้และตู้รักษาอุณหภูมิ ทำให้ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายและปลอดภัย นอกจากนี้ ระบบช่วงล่างถุงลมยังช่วยเสริมความมั่นใจในการขับขี่
Denza N9 เป็นตัวอย่างที่ดีของนวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมยานยนต์ พลังงานสะอาดและประสิทธิภาพที่โดดเด่นของยานยนต์นี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในภาคอุตสาหกรรม ไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ยานยนต์ในอนาคต
ตามรายงานล่าสุดจากประเทศญี่ปุ่น ผู้นำองค์กรของมาสด้าได้พบกับนายกรัฐมนตรีไทย เพื่อประกาศแผนการลงทุนใหม่ในประเทศไทย มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท การลงทุนนี้จะเน้นไปที่การพัฒนาและการผลิตรถยนต์ประเภท MHEV โดยเฉพาะรุ่น B-SUV ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในอนาคตอันใกล้ พร้อมทั้งนำเสนอภาพสเก็ตช์รถต้นแบบให้สาธารณชนชมด้วย
เมื่อไม่นานมานี้ ในช่วงเวลาที่อบอวลไปด้วยความหวังทางเศรษฐกิจ ผู้บริหารระดับสูงของมาสด้ามอเตอร์คอร์ปอเรชั่นได้เข้าเยี่ยมคารวะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ณ ทำเนียบรัฐบาล เขาได้นำเสนอแผนการลงทุนใหม่ในประเทศไทย มูลค่า 5,000 ล้านบาท สำหรับการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ MHEV กำลังการผลิต 100,000 คันต่อปี เพื่อจำหน่ายในตลาดภายในประเทศและส่งออกทั่วโลก รวมถึงญี่ปุ่น
ในการพบกันครั้งนี้ มาสด้ายังเปิดเผยภาพสเก็ตช์ของรถต้นแบบ B-SUV ที่จะผลิตในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายฐานการผลิตหลักของรถยนต์ประเภทนี้ในภูมิภาค รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดในประเทศไทย เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ประเภทอื่น ๆ ในอนาคต
การลงทุนนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของมาสด้าในศักยภาพของประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตที่สำคัญ และแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระยะยาว
การลงทุนนี้ไม่เพียงแต่เป็นข่าวดีสำหรับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงความสนใจของบริษัทต่างชาติในการใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างงานและการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถของประเทศไทยในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลก รวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตของยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีใหม่ ๆ
ผู้บริหารระดับสูงของมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เข้าพบนายกรัฐมนตรีไทย เพื่อประกาศแผนการลงทุนใหม่ในประเทศไทย โดยจะมีการเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ประเภท MHEV พร้อมกับเปิดเผยภาพรถต้นแบบ B-SUV xEV ที่เตรียมผลิตในประเทศ รวมถึงแผนการขยายธุรกิจและการส่งออกทั่วโลก
มาสด้าได้ตัดสินใจเพิ่มการลงทุนในประเทศไทยด้วยเงินจำนวนกว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ B-SUV แบบ Mild Hybrid ซึ่งจะเริ่มจากการผลิตรถยนต์ MHEV ในปริมาณ 100,000 คันต่อปี เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงญี่ปุ่น
การลงทุนนี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มกำลังการผลิตเท่านั้น แต่ยังจะทำให้มาสด้าสามารถสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ครอบคลุมทั้งกระบวนการผลิต ตั้งแต่การออกแบบจนถึงการผลิต เพื่อรองรับการพัฒนาและผลิตรถยนต์ประเภทอื่นๆ ในอนาคต นอกจากนี้ การลงทุนนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของมาสด้าในการใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตสำหรับตลาดโลก
การเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีไทยโดยผู้บริหารระดับสูงของมาสด้า สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักของบริษัท การลงทุนใหม่นี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและสร้างงานให้แก่คนไทย รวมถึงเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้ มาสด้ายังได้เปิดเผยภาพสเกตช์ของรถต้นแบบ B-SUV xEV ที่เตรียมผลิตในประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีสะอาดในอนาคต ขณะเดียวกัน การลงทุนนี้ยังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดของมาสด้าในประเทศไทย ทำให้สามารถรองรับการผลิตรถยนต์ประเภทอื่นๆ ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ