journalfront

กีฬา

รัฐบาลจัดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ปีหน้าและกีฬาอาเซียนพาราเกมส์

2024-12-02

ในวันนี้ (2 ธันวาคม 2567) เวลา 13.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ สำนักงานรัฐบาล ได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ได้เข้าร่วม. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สรุปสาระสำคัญดังนี้. นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ. การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาไม่ใช่เพียงงานของกระทรวงการเที่ยวและกีฬา แต่เกี่ยวข้องกับหลายกระทรวงและภาคส่วน เช่นด้านสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข และด้านการท่องเที่ยว. สิ่งสำคัญการกีฬาเป็นการสร้างมิตรภาพและความสัมพันธ์ดีระหว่างประเทศ ซึ่งเป็น soft power ของประเทศไทย. รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการจัดการแข่งขันในทุกมิติให้สำเร็จตามเป้าหมายและสร้างความประทับใจกับนักกีฬาและผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกมิติให้กับประเทศ.

คณะกรรมการสำนักงานเลขานุการและประสานงานระหว่างประเทศ

ด้านการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้แต่งตั้งผู้ว่าการเป็นประธาน. นายกรัฐมนตรียังกล่าวว่าการจัดแข่งขันจะมีผลต่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย. การจัดแข่งขันจะเป็นโอกาสที่ดีเพื่อสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ.

คณะกรรมการบริหารการจัดการแข่งขัน

รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหาร ได้เป็นประธาน. การจัดแข่งขันจะต้องมีแผนการจัดการที่ดีและเป็นไปตามมาตรฐาน. นายกรัฐมนตรียังเชื่อว่าการจัดแข่งขันจะช่วยเพิ่มความรู้และความสามารถของนักกีฬาในประเทศไทย.

คณะกรรมการฝ่ายสนับสนุนและบริการ

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เป็นประธาน. การสนับสนุนและบริการจะเป็นสิ่งสำคัญในการจัดแข่งขัน. นายกรัฐมนตรียังเชื่อว่าการสนับสนุนและบริการจะช่วยเพิ่มความสนใจและความสนับสนุนจากผู้เข้าร่วมการแข่งขัน.

คณะกรรมการฝ่ายเทคนิค

รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา ได้เป็นประธาน. การใช้เทคนิคและวิทยาศาสตร์ในการจัดแข่งขันจะช่วยเพิ่มความแม่นยำและความมั่นคงของการแข่งขัน. นายกรัฐมนตรียังเชื่อว่าการใช้เทคนิคและวิทยาศาสตร์จะช่วยเพิ่มความรู้และความสามารถของนักกีฬาในประเทศไทย.ที่ประชุมรับทราบชนิดกีฬาจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จำนวน 50 ชนิดกีฬา 569 รายการ และกีฬาสาธิต 3 ชนิดกีฬา และรับทราบชนิดกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ณ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 20 ชนิดกีฬา. รับทราบกรอบงบประมาณและแหล่งงบประมาณดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 จำนวน 2,055,000,000 บาท. ประเทศไทยกำหนดจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม 2568 ณ กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20 – 26 มกราคม 2569 ณ จังหวัดนครราชสีมา. นายอนุกูล กล่าวว่าการจัดแข่งขันจะเป็นโอกาสที่ดีเพื่อสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและช่วยเพิ่มเศรษฐกิจของประเทศไทย.

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่ห้องตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเอลีอุด คิปโชเก้ (Mr. Eliud Kipchoge) นักวิ่งมาราธอนโลก แชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย ชาวเคนยา เข้าพบ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี. นายกฯ ได้เปิดทำเนียบและรับคิปโชเก้ นักวิ่งมาราธอนโลกมาเป็นทูตด้านการท่องเที่ยว กีฬา และวัฒนธรรมของไทย 3 ปี. นายกฯ แสดงความขอบคุณให้คิปโชเก้ ที่มาร่วมกิจกรรม “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2024” และเชื่อว่ากีฬาจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันไม่ว่าจะต่างทางด้านวัฒนธรรม และด้านภาษาที่แตกต่าง. นอกจากนี้, นายกฯ เชื่อว่าถือเป็นโอกาสดีที่จะมีการแลกเปลี่ยนให้นักกีฬาไทยไปฝึกซ้อมที่เคนยา ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกให้กับนักกีฬาได้เรียนรู้ว่านักกีฬาประเทศอื่นๆ มีการฝึกฝนกีฬาอย่างไร เพราะกีฬาประเภทเดียวกันแต่วิธีการฝึกอาจไม่เหมือนกัน.

ขอบคุณและความเชื่อมโยง

นายกฯ ยังกล่าวขอบคุณ คิปโชเก้ ที่ตอบรับเป็นทูตด้านการท่องเที่ยวกีฬาและวัฒนธรรมของไทยเป็นระยะเวลา 3 ปี. รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่. นายกฯ กล่าวว่า คิปโชเก้ ได้ช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างประเทศเคนยาและประเทศไทย. การทำหน้าที่ของคิปโชเก้ จะเป็นประโยชน์มากสำหรับการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ. คิปโชเก้ ได้แสดงความสนใจและความร่วมมือในการพัฒนาการท่องเที่ยว, กีฬาและวัฒนธรรมของไทย.

ความประทับใจของคิปโชเก้

ด้าน เอลีอุด คิปโชเก้ กล่าวกับนายกฯว่า ขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้เชิญเขามาเป็น “ทูตด้านการท่องเที่ยว กีฬา และวัฒนธรรม” ของประเทศไทย เป็นระยะเวลา 3 ปี. เมื่อได้มาประเทศไทยครั้งนี้, คิปโชเก้ รู้สึกประทับใจในการท่องเที่ยว, การกีฬาและวัฒนธรรมของไทยอย่างมาก. คิปโชเก้ คาดหวังว่า การทำหน้าที่ของตนจะได้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศเคนยา – ประเทศไทย มากยิ่งขึ้น. คิปโชเก้ ได้พบความแตกต่างและความมีคุณค่าในวัฒนธรรมไทยและเคนยา.

การมอบของและรูปภาพ

จากนั้น, นายกฯ ได้มอบของที่ระลึกเป็นเนคไทผ้าไหมรูปช้าง สัตว์สัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองของไทย และเข็มที่ระลึกอะเมซิ่งไทยแลนด์. รวมถึงผ้าคลุมไหล่ลายผ้าขาวมามอบให้ภรรยาคิปโชเก้. ขณะที่ คิปโชเก้ มอบเสื้อวิ่งและเสื้อกีฬาพร้อมลายเซ็นให้นายกรัฐมนตรีเป็นที่ระลึก. โอกาสนี้ยังได้ถ่ายภาพร่วมกัน บริเวณบันไดโถงกลางตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนจะเดินลงมา ถ่ายภาพคู่อีกครั้งบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า. รูปภาพนี้ได้เป็นที่นิยมและได้รับความสนใจจากผู้ร่วมกิจกรรมและผู้ดูร่วม.

นายกฯอิ๊งค์ ได้เปิดทำเนียบและรับ ‘คิปโชเก’ ซึ่งเป็นการสำคัญสำหรับงานและการดำเนินงานของเขา. นายกฯอิ๊งค์เชื่อว่าการรับ ‘คิปโชเก’ นี้จะเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับประเทศไทยและการท่องเที่ยว, กีฬาและวัฒนธรรมไทย.

ขอบคุณร่วมกิจกรรม

นายกฯอิ๊งค์เปิดทำเนียบและรับ ‘คิปโชเก’ ขอบคุณร่วมกิจกรรม อะเมซิ่งไทยแลนด์ มาราธอนแบงค็อก 2024. นายกฯอิ๊งค์เชื่อว่ากีฬาจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรมต่างภาษา. นายกฯอิ๊งค์ยังเชื่อว่าถือเป็นโอกาสดีที่จะมีการแลกเปลี่ยนให้นักกีฬาไทยไปฝึกซ้อมที่เคนยา ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกให้กับนักกีฬาไทยได้เรียนรู้ว่านักกีฬาประเทศอื่น ๆ มีการฝึกฝนอย่างไร เพราะกีฬาประเภทเดียวกันแต่ก็มีวิธีการฝึกอาจจะไม่เหมือนกัน.

รับ ‘คิปโชเก’ ขอบคุณร่วมกิจกรรม

การท่องเที่ยว, กีฬาและวัฒนธรรมไทย

‘คิปโชเก’ ได้มาเป็นทูตด้านการท่องเที่ยว, กีฬาและวัฒนธรรมไทยของไทยเป็นระยะเวลา 3 ปี. เขาเชื่อว่าการท่องเที่ยว, กีฬาและวัฒนธรรมของไทยเป็นสิ่งที่ประทับใจมาก. เขาเชื่อว่าการทำหน้าที่ของตนจะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศเคนยา-ประเทศไทย มากยิ่งขึ้น. ‘คิปโชเก’ ก็ได้บอกนายกรัฐมนตรีว่า ขอบคุณรัฐบาลไทย ที่เชิญเขามาเป็นทูตด้านการท่องเที่ยว, กีฬาและวัฒนธรรมของประเทศไทย.

การมอบของและร่วมกิจกรรม

นายกรัฐมนตรีมอบของที่ระลึกเป็น เนกไทผ้าไหมรูปช้าง สัตว์สัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองของไทย และเข็มที่ระลึก อะเมซิ่งไทยแลนด์ รวมถึงผ้าคลุมไหล่ลายผ้าขาวมามอบให้กับภรรยาคิปโชเก. ด้านคิปโชเก ก็มอบเสื้อวิ่งและเสื้อกีฬา พร้อมลายเซ็นให้นายกรัฐมนตรีเป็นที่ระลึก. โอกาสนี้ยังได้ถ่ายภาพร่วมกัน บริเวณบันไดโถงกลางตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนจะเดินลงมา ถ่ายภาพคู่อีกครั้งบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า.