“บังกัส” ไม่ใช่แค่ตัวละคร แต่เป็น “จุดพักใจ” ที่ช่วยให้ผู้ชมรู้สึกคลายลงในช่วงเวลาที่ผู้ชมมีประสบการณ์ดูภาพยนตร์. มันเป็นดั่งสายลมเย็นที่พัดผ่านในท่ามกลางความโกรธแค้นและความทรมานของชีวิตในคุก. เมื่อ “บังกัส” ก้าวเข้ามา มันเป็นเหมือนแสงสว่างในอุโมงค์มืด ซึ่งช่วยเพิ่มความหวังขึ้นมาในชีวิตในคุก.
ถ้าไม่มี “บังกัส” ในภาพยนตร์ “วัยหนุ่ม 2544” ความอึดอัดของหนังอาจจะมากขึ้นมาก. แต่ด้วย “บังกัส” นี้หนังกลายเป็นประสบการณ์ที่ผู้ชมสามารถหายใจได้สะดวกขึ้นและชื่นชมถึงความซับซ้อนของชีวิตในคุก. “บังกัส” ไม่เพียงแค่ช่วยลดความอึดอัดของหนัง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและมิตรภาพ ที่แฝงอยู่ในชีวิตในคุก.
“จ๋าย อิชณน์กร” ได้แสดงที่สมดุลระหว่างหนัก-เบาความสำเร็จของ “บังกัส” ในฐานะตัวละคร. เขาเป็นนักแสดงที่สามารถสลัดภาพ “จ๋าย ไททศมิตร” นักดนตรีออกไปได้อย่างสิ้นเชิง. เขากลายเป็นนักแสดงที่เข้าถึงบทบาทอย่างยอดเยี่ยม และถ่ายทอดทั้งความเข้มข้น ความหนักแน่น และเสน่ห์แบบน่าเอ็นดูในตัวละครเดียวกัน.
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคมผ่านมา, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอที่ประชุม ครม. ซึ่งประชุมได้เห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ 9,000 บาท และอนุมัติงบฉุกเฉินเพิ่มเติมในแต่ละจังหวัดที่ประสบอุทกภัยจาก 20 ล้านบาทเป็น 50 ล้านบาท. ในกระทรวงแรงงานหลังน้ำลดแล้ว, ก็ได้นำถุงยังชีพ 4,000 ชุดจากสนับสนุนจากหน่วยงานและสถานประกอบการ.
นายพิพัฒน์และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกกรมได้ลงมาเพื่อช่วยเหลือเยียวยาให้กำลังใจกับพี่น้อง 7 จังหวัดภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย. เช่น, จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบหมายนายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีและกระทรวงแรงงาน, จังหวัดสงขลา, พัทลุงและสตูล ตนได้ลงพื้นที่เอง. ในจังหวัดปัตตานีและยะลา ได้มอบหมายให้นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงานลงพื้นที่และมอบหมายให้นายนัจมุดดีน อูมา ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีและกระทรวงแรงงานลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส.
กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะตั้งศูนย์ซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า, รถจักรยานยนต์ที่ถูกน้ำท่วม โดยระดมทีมช่างประมาณ 300 คน. เข้ามาช่วยซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้า, อุปกรณ์ทำงาน, บ้านเรือน, รถจักรยานยนต์ที่จมน้ำและเครื่องยนต์เล็กทางการเกษตร เพื่อให้กลับมาใช้งานได้. ใน 7 จังหวัดคาดว่าจะมีรถจักรยานยนต์ที่เสียหายจากน้ำท่วมไม่น้อยกว่า 1,000 คัน. ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้, กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะคิกออฟ “ศูนย์ ซ่อม สร้างสุข” และขอรับการสนับสนุนจากบริษัทห้างร้านต่างๆ.
นอกจากนั้น, มีมาตรการลดเงินสมทบสำหรับลูกจ้าง, นายจ้าง เหลือ 3 % เป็นระยะเวลา 6 เดือน. มมาตรการดังกล่าวเหมือนกับผู้ประสบภัยทั้งภาคเหนือ, ภาคอีสานและภาคกลาง. ผมจึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนสำหรับพี่น้องท่านใดที่เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหายก็ขอให้แจ้งลงทะเบียนมา หรือติดต่อสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506.