journalfront

รถ

สลด รถพยาบาล สปป.ลาว ชนรถพ่วง 18 ล้อ ผู้ป่วยเสียชีวิต ส่วนหมอ-ญาติบาดเจ็บ

2024-12-05

ในช่วงเวลา 13.50 น. วันที่ 5 ธันวาคม 67 พ.ต.ต.ไพบูลย์ เนตรแสงศรี สว., สภ.ท่าลี่ จ.เลย ได้รับแจ้งเกี่ยวกับเหตุรถพยาบาลชนกับรถพ่วง 18 ล้อ. มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย บนถนนสาย 2099 บริเวณสามแยกวัดลาดปู่ หรือพระธาตุสัจจะ บ้านท่าลี่ อ.ท่าลี่.

ความรุนแรงของเหตุ

เมื่อรับแจ้งประสานไปยังแพทย์ รพ.ท่าลี่ กู้ภัยฯ เดินทางไปที่เกิดเหตุ พบรถพยาบาลฉุกเฉินของโรงพยาบาลบ่อแตน แขวงไชยะบุลี สปป.ลาว ชนประสานงากับรถพ่วง 18 ล้อ จนพังยับเยิน. ภายในรถพบผู้เสียชีวิตชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 80 ปี เป็นผู้ป่วย. พร้อมกับนั้นพบผู้บาดเจ็บเป็นหมอและญาติผู้ป่วยที่นั่งรถตู้พยาบาลมาด้วย. กู้ชีพฯ รีบช่วยเหลือนำส่ง รพ.ท่าลี่ ห่างออกไปพบรถพ่วง 18 ล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียนตัวแม่ 81-8170 เลย ทะเบียนตัวพ่วง 81-8171 เลย. สภาพตัวพ่วงพลิกคว่ำตะแคงซ้าย จนเพลาล้อรถหลุดออกมา. มีคนขับชายอายุ 40 ปี ไม่ทราบชื่อ รอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ.จากการสอบสวน เราได้เข้าใจว่า รถตู้พยาบาลจากโรงพยาบาลบ่อแตน แขวงไชยะบุลี สปป.ลาว พาผู้ป่วยเป็นชายอายุประมาณ 80 ปี มารักษาตัวที่ รพ.ท่าลี่ โดยมีหมอและญาตินั่งมาด้วย 4 คน. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นทางสามแยก มีรถพ่วง 18 ล้อขับตรงมาเพื่อไป อ.ท่าลี่. รถพยาบาลเบรกไม่ทันพุ่งชนตัวพ่วงของรถบรรทุกจนล้อรถพ่วงกระเด็นออกมา. ส่วนรถตู้พยาบาลพังยับเยิน จนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต. ส่วนหมอและญาติบาดเจ็บ. พนักงานสอบสวนได้เก็บหลักฐานและนำตัวคนขับรถพ่วงมาสอบปากคำที่ สภ.ท่าลี่ เพื่อหาสาเหตุต่อไป.

ผลกระทบและความเสียหาย

ในเหตุการณ์นี้ สมชายอายุประมาณ 80 ปี เสียชีวิต. ส่วนหมอและญาติผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บ. เหตุการณ์นี้ได้สร้างความรุนแรงและความเสียหายในชุมชน. เราต้องระวังและระมัดระวังในการใช้ถนนและยืนยันความปลอดภัยเสมอ.

การสอบสวนและการหาสาเหตุ

พนักงานสอบสวนได้ทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อเก็บหลักฐานและหาสาเหตุ. การสอบสวนเป็นประโยชน์ในการเข้าใจเหตุการณ์และช่วยให้ได้รับคำช่วยเหลือที่เหมาะสม. เราต้องยึดมั่นและมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาและลดความเสียหายในอนาคต.

ในช่วงปัจจุบัน, บริษัทขนส่งที่มีชื่อเสียงได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับลักษณะของรถกระบะตู้ทึบและความผิดพลาดของพนักงานในกระบวนการขับรถ. ความเร็วและอันตรายที่เกิดขึ้นจากการขับรถดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกและความกังวลให้กับผู้ใช้รถและผู้ที่อยู่ในชุมชน.

บริษัทขนส่งดัง: แจ้งความผิดพลาดและขออภัย

การปาดรถกระบะตู้และอันตรายทางถนน

จากกรณีโลกออนไลน์วิจารณ์คลิปรถกระบะตู้ทึบของบริษัทขนส่งชื่อดังแห่งหนึ่ง, การขับขี่รถด้วยความเร็วมากได้เป็นสาเหตุของความอันตรายบนถนน. รถกระบะตู้ทึบนั้นได้ขับปาดไปมากกับรถเก๋งคันหนึ่ง, ซึ่งสร้างดรามาและทำให้ผู้ใช้รถและผู้ที่อยู่ในชุมชนตื่นตระหนกอย่างมาก. บริษัทได้ขอโทษพร้อมเผยไล่ออกพนักงานรายดังกล่าวเพื่อแจ้งความผิดพลาดและความรับผิดชอบของบริษัท.

การขับรถด้วยความเร็วมากไม่เพียงแต่สร้างอันตรายทางถนน แต่ยังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและเสียหายทางการเงินและความมั่นคงของผู้ใช้รถ. บริษัทได้ระบุความรับผิดชอบของตนเองและขอโทษที่เกิดความผิดพลาดในกระบวนการขับรถ.

การพ้นสภาพเป็นพนักงานและปรับปรุง

วันนี้ (5 ธ.ค.), เพจ “ปอลอ เอ็กเพรส Porlor express” ได้ออกแลถงการณ์ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว. บริษัทได้ประกาศว่าพนักงานขับรถดังกล่าวได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัทแล้ว, โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป.

ด้วยความตระหนักของฝ่ายผู้บริหาร, บริษัทจะปรับปรุงและอบรมพนักงานอย่างเข้มงวดมากขึ้น. บริษัทต้องการสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรและสนับสนุนการเป็นพลเมืองดีที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม. การอบรมและปรับปรุงจะมีจุดประสงค์เพื่อให้พนักงานมีความรับผิดชอบและดีใจในงานของตนเอง.

ความรับผิดชอบและการเป็นพลเมืองดี

บริษัทปอลอ เอ็กซ์เพรส ได้ขออภัยอย่างยิ่งสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น. บริษัทรู้สึกว่าความผิดพลาดของพนักงานในกระบวนการขับรถเป็นการกระทำที่ก้าวร้าว, ร้ายแรง และอันตรายต่อสาธารณชน. บริษัทจะดูแลมาตรฐานการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงมากขึ้นต่อไปเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในองค์กรและสนับสนุนการเป็นพลเมืองดีที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม.

การเป็นพลเมืองดีและรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับบริษัท. บริษัทจะทำความดีในทุกด้านเพื่อสร้างความมั่นคงและความสุขของผู้ใช้รถและผู้ที่อยู่ในชุมชน.

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 5 ธันวาคม 2567 ร.ต.อ.สมศุกดิ์ ขอเทียม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตภายในรถยนต์ หน้าโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี บริเวณสวนชมน่านฯ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก แพทย์เวรมหาวิทยาลัยนเรศวร และ เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พิษณุโลก ได้รวมมือกันในการตรวจสอบและสำรวจสถานที่เกิดเหตุ.

ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต

ผู้เสียชีวิตชาย

ชายอุดม แก้วแจ้ง อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/141 หมู่ 4 ตำบลหัวรอ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก. เขาเสียชีวิตที่นั่งด้านคนขับในรถกระบะ อีซูซุ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บบ 6943 พิษณุโลก. บริเวณด้านซ้ายของรถมีรอยชน และยางรถยนต์หน้าด้านซ้ายแตก. เขาเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง. เขาเสื้อแขนสั้นสีดำ และกางเกงขาสั้นสีเทา. เขามีโรคประจำตัว คือโรคความดัน เบาหวาน.

ภรรยาผู้เสียชีวิต

นางอรรจนา แก้วแจ้ง อายุ 55 ปี. เธอได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ. นายอุดม (ผู้เสียชีวิต) ได้ออกจากบ้านเมื่อเวลา 5.00 น เพื่อออกมาทำงานและเข้าเวรที่ประตูน้ำวัดใหม่อภัยยาราม (หลังโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี).

เพื่อนผู้ตาย

นายบัณฑิต สุขล้ำเลิศ อายุ 52 ปี. เขาได้กล่าวว่า นายอุดม (ผู้เสียชีวิต) ได้มาหาตนเองเมื่อเวลา 06.00 น และได้นั่งดื่มสุราขาวด้วยกันกับเพื่อนอีก 2 คน จนถึง 07:00 น. นายอุดม (ผู้เสียชีวิต) ได้ขอตัวออกมาเข้าเวรที่ประตูน้ำวัดใหม่อภัยยาราม และไม่ได้ติดต่อกันจนกระทั่งรู้ว่านายอุดมเสียชีวิตภายในรถยนต์ในตอนเย็น.

ผลการตรวจสอบ

จากการชันสูตรเบื้องต้นจากแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้เสียชีวิตไม่มีร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด. ร่างผู้เสียชีวิตได้ให้เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพ พิษณุโลก นำร่างไปจากชีวิตชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่นิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ก่อนมอบให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปเป็นกุศลตามประเพณีทางศาสนา.