สัตว์เลี้ยง
กรุงเทพฯ ออกข้อบัญญัติใหม่ควบคุมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยในเมืองหลวง
2024-11-03
กรุงเทพมหานครได้ออกข้อบัญญัติใหม่เพื่อควบคุมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง โดยกำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงที่อนุญาตให้เลี้ยงตามขนาดพื้นที่ และบังคับให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องฝังไมโครชิปเพื่อระบุตัวตน นอกจากนี้ยังมีการควบคุมพิเศษสำหรับสุนัขบางสายพันธุ์ที่มีความดุร้าย

ข้อบัญญัติใหม่ช่วยสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยในเมืองหลวง

กำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงตามขนาดพื้นที่

กรุงเทพมหานครได้กำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงที่อนุญาตให้เลี้ยงได้ตามขนาดพื้นที่ของที่อยู่อาศัย โดยสำหรับอาคารชุดหรือห้องเช่าที่มีพื้นที่ 20-80 ตารางเมตรขึ้นไป สามารถเลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว หากเกินจะเลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว สำหรับที่ดินที่มีเนื้อที่ไม่เกิน 20 ตารางวา สามารถเลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว ที่ดินขนาด 20-50 ตารางวา เลี้ยงได้ไม่เกิน 3 ตัว ที่ดิน 50-100 ตารางวา เลี้ยงได้ไม่เกิน 4 ตัว และที่ดิน 100 ตารางวาขึ้นไป เลี้ยงได้ไม่เกิน 6 ตัว

ต้องฝังไมโครชิประบุตัวตนสัตว์เลี้ยง

นอกจากการกำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงแล้ว ข้อบัญญัติใหม่ยังกำหนดให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องนำไปฝังไมโครชิปเพื่อระบุตัวตน โดยต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ทราบเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่น

ควบคุมพิเศษสำหรับสุนัขบางสายพันธุ์

ข้อบัญญัติใหม่ยังกำหนดให้สุนัขบางสายพันธุ์ที่มีความดุร้าย เช่น พิทบูลเทอร์เรีย บูลเทอร์เรีย สเตฟอร์ดเชอร์บูลเทอร์เรีย รอทไวเลอร์ ฟิล่าบราซิเลียโร รวมถึงสุนัขที่มีประวัติทำร้ายคน เมื่อออกนอกสถานที่เลี้ยงต้องใส่อุปกรณ์ครอบปาก ใช้สายจูงที่มั่นคงแข็งแรง และจับสายจูงห่างจากคอสุนัขไม่เกิน 50 เซนติเมตรตลอดเวลา เพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้อื่น

ช่วยลดปัญหาสัตว์จรจัดและสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย

ข้อบัญญัติใหม่ยังกำหนดให้สำนักอนามัยกรุงเทพมหานครมีหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการทำหมันสัตว์จรจัดในแต่ละพื้นที่ เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัด และในส่วนของสุนัขที่มีความดุร้ายสร้างความเดือดร้อน จะถูกนำไปไว้ที่ศูนย์ควบคุมและพักพิงสุนัขของกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะช่วยสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยในเมืองหลวง

ผู้เลี้ยงสัตว์เกินจำนวนไม่ต้องกังวล

สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์เกินจำนวนที่กำหนด นายนภาพล จีระกุล ประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ได้ให้ข้อมูลว่า ไม่ต้องกังวล เพียงแจ้งจำนวนสัตว์เลี้ยงที่แท้จริงให้กรุงเทพมหานครทราบ หลังจากนั้นก็ให้นำสัตว์เลี้ยงทุกตัวมาฝังไมโครชิปและทำหมันฟรี โดยทางกรุงเทพมหานครจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

ข้อบัญญัติใหม่ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ

นายนภาพล ยังระบุว่า การกำหนดจำนวนสัตว์เลี้ยงตามขนาดพื้นที่นั้น ไม่ได้เขียนโดยลอยๆ แต่เป็นการเชิญองค์กรกว่า 50 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม รวมถึงสัตวแพทย์ มาร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้สัตว์มีสวัสดิภาพที่ดีขึ้น และลดปัญหาที่จะกระทบต่อส่วนรวม เช่น มลพิษทางเสียง กลิ่น เป็นต้น

ข้อบัญญัติจะมีผลบังคับใช้ในอีก 1 ปี

ข้อบัญญัติใหม่นี้จะถูกเสนอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในอีก 360 วันนับจากวันที่ประกาศ เพื่อให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงมีเวลาปรับตัวและปฏิบัติตามข้อบัญญัติใหม่
กรุงเทพฯ เตรียมเปิดตัวข้อบัญญัติใหม่ควบคุมการเลี้ยงสัตว์ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและน่าอยู่
2024-11-03
กรุงเทพมหานครเตรียมประกาศใช้ข้อบัญญัติใหม่เกี่ยวกับการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาสัตว์เลี้ยง สัตว์จรจัด และสัตว์ดุร้ายที่อาจสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน และช่วยให้กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น

ข้อบัญญัติใหม่ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและปลอดภัยสำหรับทุกคน

การกำหนดขนาดพื้นที่ขั้นต่ำสำหรับการเลี้ยงสัตว์

ร่างข้อบัญญัติฉบับนี้มีหลักการสำคัญในการกำหนดขนาดพื้นที่ขั้นต่ำสำหรับการเลี้ยงสัตว์แต่ละประเภท เพื่อลดปัญหามลภาวะ เช่น กลิ่นไม่พึงประสงค์และเสียงรบกวน โดยกำหนดให้พื้นที่อาคารชุดหรือห้องเช่าตั้งแต่ 20-80 ตารางเมตรขึ้นไป สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ไม่เกิน 2 ตัว และเนื้อที่ดินขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ไม่เกิน 6 ตัว เป็นต้น มาตรการนี้จะช่วยลดปัญหาที่เกิดจากการเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่จำกัด

นอกจากนี้ ร่างข้อบัญญัติยังกำหนดให้สุนัขและแมวทุกตัวต้องได้รับการฝังไมโครชิปเพื่อเป็นการบันทึกข้อมูลและระบุเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจน มาตรการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยง ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาสัตว์จรจัดในอนาคต หากสัตว์เลี้ยงใดก่อให้เกิดปัญหาหรือรบกวนผู้อื่น เจ้าหน้าที่สามารถติดตามและตักเตือนหรือดำเนินการตามกฎหมายได้

การจัดการกับสัตว์ดุร้ายและสัตว์จรจัด

สำหรับสัตว์ดุร้ายที่อาจเป็นภัยต่อสาธารณชน หน่วยงานกรุงเทพมหานครจะดำเนินการย้ายสัตว์ไปยังศูนย์ควบคุมและพักพิงสุนัขกรุงเทพมหานครที่ตั้งอยู่ในเขตประเวศ และในส่วนของการจัดการกับสัตว์จรจัด กรุงเทพมหานครยังมีหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการทำหมันสัตว์ในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัดในชุมชน

การรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ในการพิจารณาร่างข้อบัญญัตินี้ คณะกรรมการวิสามัญได้จัดประชุมหลายครั้ง รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผ่านระบบออนไลน์ และจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมปศุสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพฯ คณะสัตวแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และองค์กรช่วยเหลือสัตว์หลากหลายแห่ง เพื่อให้ร่างข้อบัญญัตินี้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

การบังคับใช้และการผ่อนผัน

หลังจากข้อบัญญัติฉบับนี้ประกาศใช้ ผู้เลี้ยงสัตว์จะต้องจดแจ้งจำนวนสัตว์เลี้ยง และกำหนดให้มีระยะเวลาผ่อนผัน 360 วัน เพื่อให้ผู้เลี้ยงสัตว์มีเวลาปรับตัว ก่อนเริ่มบังคับใช้บทลงโทษตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 หากมีการฝ่าฝืน ทั้งนี้ในกรณีของผู้ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์เพื่อการผสมพันธุ์หรือประกอบธุรกิจ ก็สามารถยื่นขออนุญาตเพิ่มเติมได้ตามกฎหมาย

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

เมื่อข้อบัญญัติฉบับนี้ประกาศใช้ จะช่วยแก้ไขปัญหาสัตว์เลี้ยง สัตว์จรจัด และสัตว์ดุร้ายในกรุงเทพมหานครอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เมืองมีความปลอดภัยมากขึ้นและมีสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับประชาชน โดยจากการสำรวจพบว่า ในปี 2567 มีสุนัขและแมวในกรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น 198,688 ตัว ซึ่งรวมทั้งสุนัขและแมวที่มีเจ้าของและสัตว์จรจัด

See More
แมว: สัตว์เลี้ยงที่มีเสน่ห์และความมหัศจรรย์ในมิติที่หลากหลาย
2024-11-03
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่เป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักและเป็นเพื่อนคู่ใจ แต่ยังปรากฏตัวในวรรณกรรม ภาพยนตร์ และดนตรี อีกทั้งยังมีความสามารถพิเศษที่น่าทึ่งทางวิทยาศาสตร์ ในบทความนี้เราจะสำรวจความมหัศจรรย์ของแมวจากมุมมองที่หลากหลาย

ค้นหาความมหัศจรรย์ของแมวในวรรณกรรม ภาพยนตร์ และดนตรี

แมวในวรรณกรรม: จากนิทานสู่ตัวละครที่มีชีวิต

แมวเป็นตัวละครที่ปรากฏในวรรณกรรมมานานแล้ว ตั้งแต่นิทานเรื่อง "Puss in Boots" ของชาลส์ เพอรอลต์ ที่เล่าเรื่องราวของแมวเจ้าเล่ห์ที่ช่วยเจ้าชายให้ประสบความสำเร็จ จนกลายเป็นตัวละครหลักในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง "Puss in Boots" ที่ทำรายได้มหาศาล นอกจากนี้ ยังมีแมวเชสเชียร์ในเรื่อง "Alice's Adventure in Wonderland" ของลูอิส คาร์รอล ที่มีบทบาทสำคัญในการผจญภัยของอลิซ และยังได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษ

แมวในดนตรี: จากบทกวีสู่ละครเพลง

นอกจากในวรรณกรรม แมวยังปรากฏตัวในวงการดนตรีอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น บทกวีเรื่อง "Old Possum's Book of Practical Cats" ของ ที.เอส. เอเลียต ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของวรรณกรรมเกี่ยวกับแมว และถูกนำมาดัดแปลงเป็นละครเพลงเรื่อง "Cats" โดยแอนดรูว์ ลอยด์ เวบเบอร์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ชมทั่วโลก โดยเฉพาะเพลง "Memory" ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเพลงที่สะท้อนถึงความรู้สึกของแมวได้อย่างลึกซึ้ง

แมวในภาพยนตร์: จากตัวละครสู่ความสามารถพิเศษ

ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง "Puss in Boots" ได้สร้างความนิยมให้กับตัวละครแมวเจ้าเล่ห์ที่มีความสามารถพิเศษ โดยเฉพาะการยืนบนขาหลังได้เหมือนมนุษย์ ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความสามารถพิเศษของแมวในการยืดตัวและทรงตัวได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่พบว่า แมวสามารถทำตัวเป็นของเหลวได้ในบางสถานการณ์ และสามารถลงจากที่สูงโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นความสามารถที่น่าทึ่งและน่าศึกษาอย่างยิ่ง

แมวในวัฒนธรรม: จากสัตว์เลี้ยงสู่สัญลักษณ์ของประเทศ

แมวไม่เพียงแต่เป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะแมวเชสเชียร์ในเรื่อง "Alice's Adventure in Wonderland" ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษ และได้ปรากฏบนแสตมป์ของประเทศอังกฤษถึงสองครั้ง นอกจากนี้ แมวพันธุ์บริติชขนสั้นยังเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในหลายๆ วรรณกรรมและภาพยนตร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความภูมิใจของชาวอังกฤษในแมวพันธุ์นี้

ความมหัศจรรย์ของแมวในมุมมองวิทยาศาสตร์

นอกจากความนิยมในวรรณกรรม ภาพยนตร์ และดนตรีแล้ว แมวยังมีความสามารถพิเศษที่น่าทึ่งทางวิทยาศาสตร์ ยกตัวอย่างเช่น ความสามารถในการยืดตัวและทรงตัวได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นผลมาจากโครงสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อที่พิเศษ นอกจากนี้ แมวยังสามารถทำตัวเป็นของเหลวได้ในบางสถานการณ์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้ใช้หลักการทางฟิสิกส์สาขาพลศาสตร์ของไหลมาพิสูจน์ และได้ให้ศัพท์ว่า "liquid cat" ขึ้น นอกจากนี้ ความสามารถในการลงจากที่สูงโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ก็เป็นอีกหนึ่งความสามารถพิเศษของแมวที่น่าทึ่งไม่แพ้กันดังนั้น แมวจึงเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความมหัศจรรย์ไม่เพียงแต่ในมุมมองของวรรณกรรม ภาพยนตร์ และดนตรี แต่ยังมีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจและน่าศึกษาอย่างยิ่ง ซึ่งทำให้แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีเสน่ห์และเป็นที่รักของผู้คนทั่วโลก
See More