journalfront

รถ

Wuling Hongguang Mini EV รถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู เปิดจองในจีนแล้ว

2024-12-12

วูลิงได้ประกาศว่าปรับปรุงและเปิดจองรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตูของวูลิงฮ่องกวางมินีเอวีในประเทศจีนอย่างเป็นทางการ. รุ่นนี้เป็นการพัฒนาขึ้นจากรุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2020 ซึ่งเคยทำยอดขายได้มากกว่า 1.4 ล้านคันในประเทศจีน.

ทักษะและคุณลักษณะของรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู

รถแฮทช์แบ็ก 5 ประตูของวูลิงฮ่องกวางมินีเอวีเป็นรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม Tianyu S ใหม่. มีให้เลือกทั้งรุ่น 3 ประตูและ 5 ประตู โดยทั้ง 2 รุ่นมีมิติตัวถังเท่ากัน ความยาว 3,256 มม., ความกว้าง 1,510 มม., ความสูง 1,578 มม. และระยฐานล้อ 2,190 มม. ใช้ล้อขนาด 13 นิ้ว. รุ่นใหม่นี้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นแรกมาก โดยรุ่นแรกมีความยาว 2,064 มม., ความกว้าง 1,493 มม., ความสูง 1,641 มม. และระยะฐานล้อ 2,010 มม.

ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นในรุ่นใหม่นี้ทำให้ห้องโดยสารกว้างขวางขึ้น. ภายในมาพร้อมกับโทนสีครีมคาเราเมล ใช้สีน้ำตาลอ่อนเป็นสีหลักในด้านหน้าและเบาะเป็นสีครีม. โดดเด่นด้วยหน้าจออินโฟเทนเมนต์กลาง และมีแผงหน้าปัดขนาดใหญ่สำหรับคนขับ. ปรับปรุงดีขึ้นจากรุ่นเดิมเป็นแผนหน้าปัดแบบดิจิทัล.

สีภายนอกและการสร้างเอฟเฟกต์

สีภายนอกมาพร้อมคอนเซปต์ Fantasy high definition มีให้เลือก 3 สี ด้วยกัน ได้แก่ Puffed blue, Bubble green และ Sweet coffee. ใช้กระบวนการเคลือบ 7 ชั้น เพื่อสร้างเอฟเฟกต์การเปลี่ยนสีที่สวยงาม.

การสร้างเอฟเฟกต์จากสีและกระบวนการเคลือบทำให้รถแฮทช์แบ็ก 5 ประตูมีลักษณะที่แตกต่างและโดดเด่น. สีแตกต่างนี้ทำให้รถนี้ดูมีความเป็นเอกลักษณ์และแสนสวยงาม.

ระบบส่งกำลังและความเร็ว

สำหรับระบบส่งกำลังของวูลิงฮ่องกวางมินีเอวี รุ่นใหม่นี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า TZ155XZ230 ให้กำลังสูงสุด 30 kW ความเร็วสูงสุดที่ 100 กม./ชม. ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ขนาด 16.2 kWh ให้ระยะทางสูงสุด 205 กม.

ระบบส่งกำลังและความเร็วของรถนี้เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ในชีวิตประจำวัน. สามารถใช้ในการเดินทางในเมืองหรือในท้องถิ่นใกล้เคียงได้ดี.

แคมเปญมอบของขวัญและประกัน

วูลิงจูงใจลูกค้าในจีนด้วยแคมเปญมอบของขวัญมูลค่า 10,000 หยวน (47,000 บาท) ให้ลูกค้าที่สั่งซื้อล่วงหน้า. ของขวัญที่สำคัญที่สุดคือ การรับประกันระบบส่งกำลังตลอดอายุการใช้งานและเครื่องชาร์จ 3.5 kW.

แคมเปญมอบของขวัญและประกันจากวูลิงเป็นประโยชน์สำหรับลูกค้า. ลูกค้าสามารถใช้รถนี้ได้心安และมีความมั่นคงในระยะยาว.

กูร์เมต์ มาร์เก็ต พรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ตระดับเวิลด์คลาสในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้เปิดตัว “Gourmet Market Smart Cart” ซึ่งเป็นนวัตกรรมรถเข็นช้อปปิ้งอัจฉริยะเจ้าแรกในประเทศไทย. สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่และขยันขึ้นเป็นสมาร์ทซูเปอร์มาร์เก็ตที่รู้ใจผู้บริโภคด้วยฟีเจอร์หลายอย่าง.

ทักษะและประโยชน์ของรถเข็น Gourmet Market Smart Cart

พลอยชมพู อัมพุช ผู้อำนวยการใหญ่บริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า รถเข็น Gourmet Market Smart Cart สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตของลูกค้าหลายด้านมากขึ้น. ไม่ว่าจะเป็นด้านความสะดวกสบายในการค้นหาสินค้า ราคา และโปรโมชันต่าง ๆ แบบเรียลไทม์. ยังสามารถชำระสินค้าด้วยตัวเองผ่านเครื่อง Smart Cart Self Check Out ได้เช่นกัน.

ด้านเทคโนโลยี ปัจจุบันลูกค้ามีความสอดคล้องกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากขึ้น เช่นมีการนำ AI มาใช้เป็นต้น. ด้านเพอร์ซันนอลไลเซชั่น (Personalization) หรือการนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่เฉพาะตัวมากขึ้น ผ่านการเก็บข้อมูลจาก M Card. ด้านความคุ้มค่า (Value) จากพฤติกรรมของลูกค้าที่มองหาความคุ้มค่ามากขึ้นผ่านโปรโมชันต่าง ๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่ซื้อแล้วคุ้มกับราคา. รถเข็น Gourmet Market Smart Cart จะเติมเต็มประสบการณ์ Shopping Made Easy at Once ให้กับลูกค้าที่มาเลือกซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต.

ลักษณะและฟีเจอร์ของรถเข็น

รถเข็น Gourmet Market Smart Cart มีรูปโฉมสีดำและประกอบด้วยหน้าจอทัชสกรีน พร้อมฟีเจอร์ล็อกอินสู่ระบบสมาชิก M Card. มีระบบเนวิเกเตอร์ที่สามารถค้นหาสินค้าระบุตำแหน่งสินค้า เซ็นเซอร์สแกนบาร์โค้ดตรวจสอบราคาและโปรโมชัน และเซ็นเซอร์พร้อมแถบไฟ LED สำหรับตรวจสอบสิ่งของภายในรถเข็น. การใช้งานเริ่มจาก 1. ล็อกอิน M Card เพื่อรับโปรโมชันและสิทธิพิเศษต่าง ๆ 2. ค้นหาสินค้าที่ต้องการโดยรถเข็นจะมีระบบเนวิเกเตอร์นำทางไปยังสินค้าที่ต้องการซื้อรวมถึงแสดงข้อมูลราคา พร้อมนำเสนอสินค้าและโปรโมชันแบบเรียลไทม์ 3. สแกนบาร์โค้ดสินค้าเพื่อช้อปและคำนวณค่าใช้จ่าย 4. ชำระเงินด้วยตนเองที่เครื่อง Self-Check Out.

ทั้งนี้ Gourmet Market Smart Cart พร้อมนำร่องเริ่มใช้งานให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ Shopping Made Easy at Once ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์และเอ็มดิสทริค (เอ็มโพเรียมและเอ็มควอเทียร์) พร้อมกันในวันที่ 12 ธันวาคมและมีแผนเพิ่มการใช้งานที่กูร์เมต์ มาร์เก็ต สาขาเดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ในปี 2568.

ในภาพนี้มีคนมือถือโทรศัพท์มือถือที่ว่างเปล่าในรถยนต์. TADA ได้เปิดทดลองให้บริการเรียกรถในฮ่องกง พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ใช้บริการชาวไทย. ค่าบริการเริ่มต้นเพียง 8 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อเที่ยว และมอบทางเลือกการเดินทางที่สะดวก, เป็นธรรม และปลอดภัย.

โปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ใช้บริการชาวไทย

เมื่อใช้รหัสส่วนลด TADAINHKTH ผู้ใช้บริการจะได้รับส่วนลดค่าโดยสาร 50% สูงสุด 20 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อเที่ยว. สิทธิพิเศษนี้สามารถใช้ได้ 2 ครั้งต่อผู้ใช้บริการ และมีระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567 ถึง 31 มกราคม 2568. สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน TADA ได้ทั้งบน Apple App Store และ Google Play. สำหรับอัตราค่าบริการ TADA คิดค่าธรรมเนียมการจองในอัตรา 8 ดอลลาร์ฮ่องกง สำหรับการเดินทางที่มีค่าโดยสารต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ฮ่องกง และ 9 ดอลลาร์ฮ่องกง สำหรับการเดินทางที่มีค่าโดยสารตั้งแต่ 100 ดอลลาร์ฮ่องกงขึ้นไป.

รูปแบบธุรกิจของ TADA

รูปแบบธุรกิจที่ไม่เก็บค่าคอมมิชชันของ TADA ช่วยให้คนขับได้รับรายได้ส่วนใหญ่จากค่าโดยสาร. ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการทำงานมากขึ้น. และสามารถกำหนดราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมสำหรับผู้ใช้บริการ. ด้วยนโยบายการกำหนดราคาที่โปร่งใส. แพลตฟอร์มนี้นำเสนอราคาที่สามารถแข่งขันได้และเหมาะสมกับผู้ใช้บริการ. แม้ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน. นอกจากนี้ TADA ยังใช้มาตรการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดเพื่อให้บริการที่น่าเชื่อถือ.

ความคิดเห็นของผู้บริหาร

นายฌอน คิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทาดา กล่าวว่า “ฮ่องกงเป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีประชากรหนาแน่น และมีความต้องการระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพสูง. ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการขยายธุรกิจของ TADA. ในช่วงแรกนี้ เราจะมุ่งเน้นการให้บริการในพื้นที่สำคัญ โดยตั้งใจที่จะมอบบริการคุณภาพสูงและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้บริการ. พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นเพื่อพัฒนาบริการของเราอย่างต่อเนื่อง. การเปิดทดลองให้บริการครั้งนี้เป็นก้าวแรกสู่การขยายบริการในวงกว้างทั่วฮ่องกง. เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับบริการของเราอย่างสม่ำเสมอ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการทุกท่าน.”

ความคิดเห็นจากผู้อำนวยการของบริษัทแท็กซี่

นายนีโอ ชี ยอง ผู้อำนวยการของ Prime Taxi ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่บริษัทผู้ให้บริการแท็กซี่ที่ได้รับใบอนุญาตในสิงคโปร์ กล่าวว่า “TADA ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการให้ความสำคัญกับคนขับเป็นอันดับแรก. ผ่านรูปแบบธุรกิจที่ไม่หักค่าคอมมิชชันตั้งแต่วันแรกที่เริ่มดำเนินกิจการ. อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความไว้วางใจในภาคธุรกิจการขนส่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา.”