แฟ้มภาพนี้แสดงคาร์ลอส ทาวาเรซในตำแหน่งซีอีโอของบริษัทรถยนต์สเตลแลนทิส (ภาพโดย FREDERICK FLORIN / AFP/ ประชาชาติธุรกิจแต่งเติมโลโก้ Stellantis). สเตลแลนทิสเป็นบริษัทรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของโลกและในปีนี้มีสถานการณ์ที่ไม่ดีด้วยลดลงของยอดขายรถยนต์ในตลาดสหรัฐและอเมริกาเหนือและหุ้นร่วง 40%.

ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่นอิตาลี, คาร์ลอส ทาวาเรซเป็นประธานเจ้าหน้าที่ซีอีโอของสเตลแลนทิสได้ลาออกจากตำแหน่งในระยะเวลา 2 เดือนหลังจากเตือนนักลงทุนว่ากำไรอาจลดลง. นอกจากนี้, คณะกรรมการของบริษัทรวมไปถึง จอห์น เอลคันน์ ได้ยอมรับการลาออกของทาวาเรซและจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชั่วคราวโดยมีจอห์น เอลคันน์เป็นประธาน.

สถานการณ์ก่อนและหลังลาออก

ก่อนหน้านี้, ทาวาเรซเป็นผู้บริหารที่ได้รับการยอมรับมากในอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่หลังจากยอดขายรถยนต์ของบริษัทในทวีปอเมริกาเหนือร่วงต่ำลง, สเตลแลนทิสต้องออกคำเตือนนักลงทุน. หลังจากลาออกจากตำแหน่ง, ทาวาเรซยังไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้น.

ผลกระทบบนหุ้นและคู่แข่ง

ราคาหุ้นของสเตลแลนทิสร่วงลงไปแล้วราว 40% ในปี 2024 และหุ้นของบริษัทคู่แข่งในสหรัฐเช่น ฟอร์ด มอเตอร์ ลดลง 7% และเจเนอรัล มอเตอร์ส พุ่งสูงขึ้นถึง 55%. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการลาออกของทาวาเรซมีผลกระทบต่อหุ้นและคู่แข่งของบริษัท.

ความคิดเห็นของผู้ถือหุ้นและนักวิเคราะห์

จอห์น เอลคันน์ ทายาทจากตระกูลอันเญลลี่ได้กล่าวขอบคุณทาวาเรซและยกย่องบทบาทของเขาในการสร้างสเตลแลนทิสเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4. นักวิเคราะห์ของเบิร์นสไตน์กล่าวว่าการประกาศลาออกจากตำแหน่งของทาวาเรซชี้ให้เห็นว่าความแตกแยกระหว่างคณะกรรมการกับทาวาเรซนั้นจะต้องมีความรุนแรงมาก.

สถานการณ์ในตลาดและยอดขาย

ยอดขายรถยนต์ของสเตลแลนทิสในตลาดสหรัฐในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 ลดลง 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า. แหล่งข่าวรายหนึ่งบอกว่าความตึงเครียดจากสถานการณ์นี้มีมากขึ้นเนื่องจากคณะกรรมการรู้สึกว่า ทาวาเรซลาออกจากตำแหน่งเร็วเกินไปและไม่ได้ทำเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท. แม้กระทั่งรถยนต์รุ่นใหม่ที่ออกในปี 2023 ก็ตาม, บริษัทยังประสบปัญหาในการขายรถยนต์.