เรื่องราวของภาพฟิตติ้งละครระหว่างนักแสดงสาวโบว์ เมลดา และนักแสดงหนุ่มภณ ณวัสน์ ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียล ภาพที่เธอแนบจมูกลงบนแขนของภณทำให้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่างกัน โดยบางคนมองว่าเป็นการคุกคาม ในขณะที่บางคนมองว่าน่ารัก โบว์ได้ออกมาชี้แจงว่าภาพดังกล่าวไม่มีอะไรซ่อนอยู่ แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทำงานตามบทบาทในละครเรื่อง "คุณพี่เจ้าขา ดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์" เธอยังยืนยันว่าทั้งสองคนต่างมีแฟนแล้วและไม่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับภาพที่เธอแนบจมูกลงบนแขนของภณ โบว์ได้บรรยายถึงสภาพการทำงานในวันนั้นว่า มันร้อนมากจนแทบจะหายใจไม่ออก แม้จะมีความยากลำบากในการถ่ายทำ แต่ทางกองละครได้ขอให้การแสดงดูทะลึ่งตึงตังขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากในบทจริงพระเอกมีกลิ่นกายหอม ดังนั้นภาพดังกล่าวจึงเกิดขึ้น แต่เธอยืนยันว่าไม่ได้หายใจเข้าไปเลยเพราะเกรงใจเพื่อนนักแสดงและกลัวว่าจะทำให้เขาไม่สบาย
โบว์ยังกล่าวถึงความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นว่า สำหรับคนที่รู้จักพวกเขาดีก็จะเข้าใจว่าทั้งสองคนกำลังทำงานอยู่ แต่สำหรับผู้ที่ไม่รู้จักอาจมีความกังวลหรือต้องการเตือนพวกเขา แต่เมื่อมีการอธิบายแล้ว ก็มีหลายคนที่เข้าใจและยอมรับ ทั้งสองคนมีแฟนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมใดๆ เธอยังเสริมว่าการแสดงเป็นส่วนหนึ่งของงาน และการแสดงดังกล่าวเป็นเพียงการแสดงธุรกิจเท่านั้น
นอกจากนี้ โบว์ยังได้ขอบคุณแฟนๆ ที่ให้ความสนใจและสนับสนุนละครเรื่องนี้ เธอภูมิใจที่ละครสามารถสร้างความสุขและความบันเทิงให้กับผู้ชม ทำให้เรตติ้งของละครขยับขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้เธอและทีมงานรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงการที่ผู้ชมหลายคนรีบกลับบ้านเพื่อดูละคร หรือรอชมย้อนหลัง เธอยังยืนยันว่าการแสดงเป็นตัวละครในละครเท่านั้น ไม่ได้เอาตัวเองเข้าไปเล่นในบทบาทนั้นเลย
มนุษย์หมาป่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่โด่งดังและน่าสนใจในโลกภาพยนตร์และวรรณกรรม ภาพของมนุษย์ที่สามารถแปลงร่างเป็นหมาป่าได้นั้น มีอายุมากกว่า 2,000 ปี โดยปรากฏครั้งแรกในวรรณกรรมโบราณอย่าง "มหากาพย์กิลกาเมช" ต่อมาในโลกภาพยนตร์ มนุษย์หมาป่าเริ่มปรากฏในหนังสยองขวัญตั้งแต่ปี 1913 และกลายเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จนถูกนำไปใช้ในหลากหลายแนวภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นแฟนตาซี แอ็กชัน โรแมนติก และดราม่า ซึ่งทำให้ตัวละครนี้มีมิติและความหมายที่หลากหลายมากขึ้น
ตัวละครมนุษย์หมาป่าเริ่มปรากฏในภาพยนตร์ตั้งแต่ปี 1913 ในภาพยนตร์เรื่อง "The Werewolf" ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่นำเสนอตัวละครประเภทนี้ หลังจากนั้น ในปี 1941 ภาพยนตร์เรื่อง "The Wolf Man" ได้สร้างภาพลักษณ์ของมนุษย์หมาป่าให้ดูน่ากลัวและสมจริงมากขึ้น โดยเฉพาะฉากการแปลงร่างที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกขนลุก ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนทำให้มนุษย์หมาป่ากลายเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมในวงการภาพยนตร์
ภาพยนตร์เรื่อง "An American Werewolf in London" ในปี 1981 เป็นอีกหนึ่งผลงานที่สำคัญ เนื่องจากเทคนิคการแปลงร่างและการแต่งหน้าที่สมจริง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์สาขาแต่งหน้าและออกแบบทรงผมยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่อง "The Wolfman" ในปี 2010 ฉบับรีเมก ก็ได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาทางเทคนิคในการสร้างภาพของมนุษย์หมาป่าอย่างต่อเนื่อง
นอกเหนือจากภาพยนตร์สยองขวัญแล้ว มนุษย์หมาป่ายังได้รับการนำมาใช้ในหลากหลายแนวภาพยนตร์ ตั้งแต่แฟนตาซี แอ็กชัน โรแมนติก และดราม่า ภาพยนตร์เรื่อง "Harry Potter and the Prisoner of Azkaban" ได้นำเสนอตัวละครมนุษย์หมาป่าอย่าง รีมัส ลูปิน ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่ฮอกวอตส์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงความซับซ้อนของตัวละครมนุษย์หมาป่าในโลกเวทย์มนตร์
ในภาพยนตร์แอ็กชัน มนุษย์หมาป่าได้ถูกนำมาใช้เป็นคู่ต่อสู้กับตัวละครอื่นๆ อย่างภาพยนตร์เรื่อง "Frankenstein Meets the Wolf Man" ในปี 1943 หรือแฟรนไชส์ "Underworld" ที่นำเสนอการต่อสู้ระหว่างแวมไพร์และมนุษย์หมาป่า ขณะเดียวกัน ในภาพยนตร์แนวโรแมนติกอย่าง "The Twilight Saga" มนุษย์หมาป่าก็ได้ถูกนำมาใช้เพื่อนำเสนอเรื่องราวความรักและการต่อสู้ของสองสายพันธุ์ ในขณะที่ภาพยนตร์ดราม่าอย่าง "Wolf Children" นำเสนอเรื่องราวของครอบครัวมนุษย์หมาป่าที่ต้องปกปิดความจริงเกี่ยวกับตนเอง ทำให้ผู้ชมได้เห็นถึงความซับซ้อนและความยากลำบากในการดำรงชีวิตของตัวละครเหล่านี้
เรื่องราวของคุณพ่อที่ต้องเผชิญหน้ากับความหลอนและความลึกลับในการจัดพิธีศพให้แก่ลูกสาวรักของเขา ได้ถูกนำเสนอผ่านภาพยนตร์แนวสยองขวัญและปริศนา "Devils Stay" หรือ "ปีศาจปรสิต" ภาพยนตร์นี้สำรวจการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และภูติผี โดยมีเวลาสามวันในการหยุดยั้งการฟื้นคืนชีพของปีศาจที่แฝงอยู่ในร่างกายของโซมี ลูกสาวของหมอชาซึงโด ขณะเดียวกัน ก็สะท้อนถึงความรักและความหวังของพ่อที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อลูกสาวของหมอชาซึงโด ซึ่งได้รับการปลูกถ่ายหัวใจสำเร็จ แต่กลับเสียชีวิตอย่างกะทันหันในระหว่างการทำพิธีไล่ผีโดยบาทหลวงพันแฮชิน หมอชาซึ่งเป็นศัลยแพทย์ผู้ดำเนินการปลูกถ่ายหัวใจให้ลูกสาว รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเชื่อว่าลูกสาวยังไม่ได้จากไป และเรื่องประหลาดมากมายที่เกิดขึ้นในระหว่างการเตรียมงานศพทำให้เขาแน่ใจในความคิดนี้มากขึ้น
ในระหว่างสามวันของการจัดงานศพ มีหลายเหตุการณ์ที่ชวนให้สงสัย เช่น เครื่องทำความเย็นของตู้เก็บศพเสีย ศพลูกสาวกำสร้อยข้อมือที่เขายังคงจับไว้ และภาพลวงตาที่ทำให้เขาเห็นลูกสาวยังคงมีชีวิตอยู่ ทั้งหมดนี้ทำให้หมอชาคิดว่าลูกสาวกำลังพยายามสื่อสารกับเขา ในขณะเดียวกัน บาทหลวงพันแฮชินก็พบว่ามีตำนานเกี่ยวกับปีศาจร้ายที่เคยถูกปิดผนึกในหัวใจ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์ประหลาดเหล่านี้
หมอชาเริ่มติดตามที่มาของหัวใจที่ใช้ในการปลูกถ่ายจนนำพาเขาไปยังศูนย์พักพิงคนรัสเซียที่ซ่อนความลับมากมาย ที่นั่น เขาได้พบกับบิ๊กมามา ผู้หญิงลึกลับที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องราว เมื่อความลับเริ่มถูกเปิดเผย หมอชาตกอยู่ในอันตราย และบาทหลวงพันแฮชินก็เข้ามาช่วยเหลือ พวกเขาจึงรวมตัวกันเพื่อทำการปราบผีให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่เวลาสามวันจะสิ้นสุดลง
ภาพยนตร์นี้นำเสนอประเด็นที่ซับซ้อนเกี่ยวกับความรักที่ยึดติดอยู่ในใจจนกลายเป็นความทุกข์ ซึ่งถูกเปรียบเทียบกับการปิดผนึกปีศาจในหัวใจ ปีศาจใช้ความรักเป็นเครื่องมือในการโจมตีมนุษย์ที่มันเกลียดชัง แต่ในที่สุดแล้ว ความรักที่บริสุทธิ์และพร้อมเสียสละยังคงมีพลังและมีค่ายิ่งกว่าใดๆ แม้ว่าภาพยนตร์นี้จะไม่ได้สร้างความตื่นเต้นหรือขนลุกให้กับผู้ชมในระดับสูงสุด แต่มันยังคงนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง