หวานรักต้องห้าม EP.17 - ความเศร้าและความรู้สึก
ในงานแชริตี้ “หวานรักต้องห้าม EP.17”, มาดามเคท(มาช่า วัฒนพานิช) ได้รู้ว่า จีน่า(โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์) เป็นเมียของรังสรรค์(ดอม เหตระกูล), ซึ่งเป็นสามีของเธอ. นี่ทำให้เคทเสียใจมาก เพราะโดนคนที่รักและไว้ใจอย่างจีน่าหักหลัง. ในงานแชริตี้การกุศลที่เอสพลาซ่าจัดขึ้นก็เกิดเรื่องราววุ่นวายมากมาย. รังสรรค์เดินควงจีน่าออกนอกหน้า เหมือนประกาศให้ทุกคนรู้. และเมื่อมีการประมูลบริจาคเงินแข่งขันกัน เพื่อจะได้เต้นรำกับนักบอล อ็องเดร(แมน ธฤษณุ) และชาลี(ดีแลน ไบรอันท์), รังสรรค์ก็จงใจบริจาคเงินจำนวนมากจนได้เต้นรำกับนักบอล แต่ไม่ยอมเต้น. แทน thereof, กลับให้เคทเต้นกับอ็องเดรเท่านั้น. ยังไม่พอรังสรรค์ยังแต่งตั้งให้จีน่าเป็นผู้บริหารแบรนด์สินค้าตัวใหม่หักหน้าเคทอีกด้วย.ในฉากนี้ที่ยากคือฉากเต้นรำของ มาช่า กับ แมน ต้องซักซ้อมกันอยู่หลายรอบ เพื่อให้จังหวะลงตัวต้องเต้นไปด้วยและพูดคุยกันไปด้วย. เคลียร์เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น. ขณะที่ดอมก็จ้องจับผิดทั้งคู่. บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัดพร้อมจะปะทะ. ฉากดราม่า ฉากอารมณ์บอกเลยว่ามาเต็มจนไม่กล้าจะบรรยาย.การแสดงและฉากยอดเยี่ยมใน “หวานรักต้องห้าม EP.17”
“หวานรักต้องห้าม EP.17” ถ่ายทำกันที่บ้านสวยแถวซาฟารีเวิลด์ ซึ่งเป็นฉากใหญ่อีกฉากของเรื่อง. มีนักแสดงหลักและนักแสดงประกอบมากมาย. ฉากนี้มีความยากเพราะต้องซักซ้อมกันอยู่หลายรอบเพื่อให้จังหวะลงตัวต้องเต้นไปด้วยและพูดคุยกันไปด้วย. ความร้อนและความรู้สึกในฉากนี้แสดงออกมาดี. มาเต็มจนไม่กล้าจะบรรยาย.เวลาและช่องที่สามารถดู “หวานรักต้องห้าม EP.17”
รอติดตามชมฉากเต้นรำสุดประทับใจครั้งนี้ได้ใน หวานรักต้องห้าม EP.17 วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคมนี้เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3. ดูทีวีกด 33 ดูมือถือกด 3Plus.ที่นำนักแสดงและบทภาพยนตร์
“เจีย” เด็กหนุ่มสุดซ่าส์ (รับบทโดย นนกุล – ชานน สันตินธรกุล)
ทายาทเพียงคนเดียวของร้านอาหารจีนชื่อดังในไทย จากชีวิตสุดคูลต้องพลิกผันชั่วข้ามคืนประสบปัญหาที่ทำให้ต้องเรียนรู้วิธีการที่จะบริหารร้านอาหารของพ่อแม่ให้สำเร็จ. เขาเป็นเด็กหนุ่มที่คิดว่าชีวิตยังมีเวลาให้สนุกอีกเพียบ และไม่สนใจเรียนรู้ทำธุรกิจร้านอาหารต่อจากป๊า. แต่เมื่อประสบอุบัติเหตุและมีปัญหาในธุรกิจร้านอาหารของครอบครัวของเขา, เขาได้เริ่มต้นการเดินทางเพื่อสร้างความสำเร็จ.ชีวิตของ “เจีย” เป็นเรื่องที่มีความสนุกและมีความยากลำบากพร้อมกัน. เขาต้องเผชิญกับความยากลำบากและเรียนรู้จากประสบการณ์เพื่อเป็นผู้แข่งขันในโลกธุรกิจ.
“เหลียง” หล่อฟ้าประทาน สับโหดเหมือนโกรธใครมา (รับบทโดย ปีเตอร์ – เซิ่งอี้หลุน)
เหลียงเป็นหนุ่มนักศึกษาจีนมาดนิ่งที่มาเรียนเมืองไทย และฝึกทำอาหารในช่วงพาร์ทไทม์ที่ร้านอาหารของเจีย. ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักต่างภาษาที่สนิทกันมาก. เหลียงเก่งทั้งบู๊และบุ๋น, ฝีมือการทำอาหารก็เก่งกาจเรียกได้ว่าฝีมือดีได้เตี่ยมาเต็มๆ. เสียยิ่งกว่า เจีย เจ้าลูกชายผู้ไม่ได้สนใจทางนี้เลย.ความรักและความสนิทระหว่าง “เจีย” และ “เหลียง” ทำให้ชีวิตของพวกเขาเป็นเรื่องที่มีความยืดหยุ่นและมีความสนุก. เหลียงเป็นหนึ่งในผู้สำคัญที่ช่วย “เจีย” เพื่อสร้างความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหาร.
“พี่พั่ง” จะปัง หรือ พัง พี่พั่งพร้อมลุย! (รับบทโดย โจ๊ก โซคูล – กรภพ จันทร์เจริญ)
รุ่นพี่สุดโข่งที่ขยันหาเรื่องมาได้ตลอด. เขาทำให้เรื่องธรรมดาๆ พังได้ทุกเรื่อง. เป็นเพื่อนที่พร้อมจะพาเราไปพังได้ทุกที่ แต่ไม่ว่าจะหน้าสิ่วหน้าขวานยังไงพี่พั่งก็ไม่ทิ้งน้องๆ ชาวแก๊งอย่างแน่นอน.“พี่พั่ง” เป็นหนึ่งในผู้สำคัญที่ช่วย “เจีย” และ “เหลียง” เพื่อสร้างความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหาร. เขาเป็นผู้ที่มีความโหดร้ายและมีความสนุกพร้อมกัน.
“นานะ” ยูทูบเบอร์สาว เงินมา งานเดิน เงินเกิน งานเนี๊ยบ (รับบทโดย ใบเตย – สุวพพิชญ์ ไตรพรวรกิจ)
ยูทูบเบอร์สาวสวยสุดมั่น, แฟนคลับแน่นและเคี่ยวเรื่องเงินเป็นที่สุด. นานะเข้ามาร่วมภารกิจทวงร้านคืนพร้อมกับข้อเสนอขอร่วมหุ้นในร้าน แต่ด้วยความเก่งหรือเสน่ห์ของเธอก็ไม่ทราบ. เหลียงจึงบอกให้เจียยอมตามข้อตกลงนั้นอย่างง่ายดาย.“นานะ” เป็นหนึ่งในผู้สำคัญที่ช่วย “เจีย” และ “เหลียง” เพื่อสร้างความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหาร. เธอเป็นผู้ที่มีความโหดร้ายและมีความสนุกพร้อมกัน.
ภาพยนตร์ “Start It Up วัยสตาร์ท น็อนสต็อป” นั้นเป็นเรื่องที่มีความสนุกและมีความยากลำบากพร้อมกัน. ผู้สร้างแอนิเมชั่นไทยรายใหญ่ในวงการ ได้สร้างชื่อให้ “เชลล์ดอน” (Shelldon) เป็นแอนิเมชั่นทีวีซีรีส์ที่ออกฉายไปกว่า 180 ประเทศทั่วโลก. นักแสดงนำของเรื่อง นำโดย ชานน สันตินธรกุล, กรภพ จันทร์เจริญ, สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ, เซิ่ง อี้หลุน, ตู้ ซี่ยี่, ตง ฟ่างฉือ, กำกับการแสดงโดย ภคพล เลิศวชิรไพบูลย์ และบทภาพยนตร์โดย อรรถพร ปานดี เข้าฉายพร้อมกันทั่วประเทศ 12 ธันวาคม 2567 นี้.
ผลงานไตรมาส 4/67 ของ ONEE
นักวิเคราะห์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) คาดว่าแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/67 ของ ONEE จะได้รับอานิสงส์จากละคร 3 เรื่องหลัก ได้แก่ แม่หยัว ทิชา และ การุณยฆาต หนุนให้บริษัทสามารถชิงส่วนแบ่ง market share และรักษาเรตติ้งช่วง 22.00 ได้อย่างแข็งแกร่ง ส่งผลบวกต่อธุรกิจในภาพรวมของ ONEE ที่จะโดดเด่นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองผลงานไตรมาส 4/67 ของ ONEE ได้รับแรงหนุนจากคอนเทนท์ละครที่บริษัทผลิตได้รับความนิยมสูง และมีผู้ชมจำนวนมากในทุกแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะละครฟอร์มยักษ์ “แม่หยัว” ที่ออกอากาศไปเมื่อปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เรตติ้งผู้ชมผ่านช่องทางของ ONEE สูง แม้จะมีประเด็นดราม่าเกี่ยวกับฉาก “แมว” ในฉากละคร แต่ไม่กระทบกับรายได้โฆษณาในช่วงที่ละครออนแอร์ เพราะได้ขายโฆษณาล่วงหน้าไปหมดแล้วและยังมีรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ละครให้กับ Netflix
ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ Idol Marketing
นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ยังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ Idol Marketing โดยเฉพาะการบริหารจัดการศิลปิน ทั้งการรับเป็น presenter การจัดงาน Fan Meeting และ คอนเสิร์ตใหญ่ GMMTV Starlympics 2024 ที่เข้ามาหนุนรายได้ของ ONEE โดยคาดว่าจะเห็นรายได้ของ ONEE เติบโตในปีนี้ราว 5-8% ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.90 บาท/หุ้น
Content และ “แม่หยัว” ละคร
บทวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองผลการดำเนินงานไตรมาส 4/67 ของ ONEE มีความโดดเด่นในส่วนของ Content โดยเฉพาะละคร “แม่หยัว” ที่ได้รับความนิยมสูง และไม่ได้รับผลกระทบในแง่รายได้มากนักแม้ว่าจะมีกระแสวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการวางยาสลบแมวในฉากละคร
ONEE ขายลิขสิทธิ์ละครให้กับแพลตฟอร์ม OTT ได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมี OTT หลายรายจากต่างชาติซื้อลิขสิทธิ์ละครของ ONEE นำไปออกอากาศเป็นจำนวนมาก และยังเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจการบริหารศิลปิน เพราะมีงานโชว์เข้ามาเป็นจำนวนมากในช่วงปลายปี แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.05 บาท/หุ้น