รถ
ยอดจองรถยนต์ในงาน MOTOR EXPO 2024 สำหรับ 10 วันแรก 33,482 คัน
2024-12-08
งาน MOTOR EXPO 2567 เป็นสถานที่ที่รวบรวมรถยนต์จากหลายแบรนด์หลายชนิด. สำหรับช่วง 28 พฤศจิกายน - 7 ธันวาคม 2567 มีจำนวนยอดจองรถยนต์รวม 33,482 คัน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากมายและน่าสนใจ. แบรนด์แต่ละแบรนด์มีจำนวนยอดจองแตกต่างกันตามลำดับ เช่น TOYOTA ได้ 5,713 คัน, BYD ได้ 3,668 คัน, HONDA ได้ 3,225 คัน และอื่น ๆ. แบรนด์จากแต่ละด้าน เช่นแบรนด์จีน, แบรนด์ญี่ปุ่น, แบรนด์ยุโรปและแบรนด์สหรัฐฯ มีจำนวนยอดจองแตกต่างกันตามลำดับเช่นแบรนด์จีนได้ 15,072 คัน, แบรนด์ญี่ปุ่นได้ 14,810 คัน, แบรนด์ยุโรปได้ 2,068 คันและแบรนด์สหรัฐฯ ได้ 881 คัน.

ยอดจองในแต่ละวัน

วันที่ 28 พฤศจิกายน

มีจำนวนยอดจองเป็น 309 คัน ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่เล็กนัก. นี่เป็นการแสดงความนิยมของลูกค้าของงาน MOTOR EXPO ในวันที่แรก.

จากนั้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน มีจำนวนยอดจองเพิ่มขึ้นเป็น 1,694 คัน ซึ่งเป็นการแสดงความเพิ่มความนิยมของลูกค้าสำหรับงาน MOTOR EXPO ในวันที่ต่อไป.

วันที่ 30 พฤศจิกายน

จำนวนยอดจองในวันที่ 30 พฤศจิกายน ได้เพิ่มขึ้นเป็น 4,504 คัน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากและแสดงความนิยมของลูกค้าสำหรับงาน MOTOR EXPO ในวันที่สุดท้ายของช่วงแรก.

วันที่ 1 ธันวาคม

ยอดจองในวันที่ 1 ธันวาคม ได้เพิ่มขึ้นเป็น 4,773 คัน ซึ่งเป็นจำนวนที่ยอดเยี่ยมและแสดงความนิยมของลูกค้าสำหรับงาน MOTOR EXPO ในวันที่ต่อมา.

วันที่ 2 ธันวาคม

จำนวนยอดจองในวันที่ 2 ธันวาคม ได้ลดลงเป็น 2,487 คัน แต่ยังคงเป็นจำนวนที่ไม่น้อย.

วันที่ 3 ธันวาคม

ยอดจองในวันที่ 3 ธันวาคม ได้เป็น 2,505 คัน ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่แพงและแสดงความนิยมของลูกค้าสำหรับงาน MOTOR EXPO ในวันที่ต่อมา.

วันที่ 4 ธันวาคม

จำนวนยอดจองในวันที่ 4 ธันวาคม ได้ลดลงเป็น 2,438 คัน แต่ยังคงเป็นจำนวนที่ไม่น้อย.

วันที่ 5 ธันวาคม

ยอดจองในวันที่ 5 ธันวาคม ได้เพิ่มขึ้นเป็น 5,511 คัน ซึ่งเป็นจำนวนที่ยอดเยี่ยมและแสดงความนิยมของลูกค้าสำหรับงาน MOTOR EXPO ในวันที่ต่อมา.

วันที่ 6 ธันวาคม

จำนวนยอดจองในวันที่ 6 ธันวาคม ได้เป็น 3,548 คัน ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่น้อยและแสดงความนิยมของลูกค้าสำหรับงาน MOTOR EXPO ในวันที่ต่อมา.

วันที่ 7 ธันวาคม

ยอดจองในวันที่ 7 ธันวาคม ได้เพิ่มขึ้นเป็น 5,713 คัน ซึ่งเป็นจำนวนที่ยอดเยี่ยมและแสดงความนิยมของลูกค้าสำหรับงาน MOTOR EXPO ในวันที่สุดท้าย.

ลุ้น 3 วันสุดท้าย ยอดจองรถมอเตอร์เอ็กซ์โป 10 วัน สะพัด 3.8 หมื่นคัน
2024-12-08
ยอดจองรถในงานมหกรรมยานยนต์ หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 เป็นหัวข้อที่ดึงดูดความสนใจมาก. สำหรับช่วงเวลา 10 วันที่ผ่านมา (28 พ.ย.- 7 ธ.ค.2567) ได้พบว่ามียอดจองสะสมทั้งสิ้น 38,485 คัน ซึ่งแบ่งเป็นรถยนต์ 33,482 คัน และรถจักรยานยนต์ 5,003 คัน.

ยอดขายและยอดจองในปี 2567

ในปี 2567, ยอดขายรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ได้เป็น 41,744 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นลดลง 32.26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า. ส่วนยอดขายรถยนต์ตลอดช่วงเวลา 11 เดือน (มกราคม–พฤศจิกายน 2567) มียอดขายโดยรวมอยู่ที่ 518,094 คัน ลดลง 26.77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า.

สำหรับงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 ครั้งที่ 41, ยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้สะสมทั้งสิ้น 38,485 คัน ซึ่งแบ่งเป็นยอดจองรถยนต์ 33,482 คัน และรถจักรยานยนต์ 5,003 คัน.

ยอดจองรถยนต์ 5 อันดับแรก

TOYOTA ได้ยอดจองจำนวน 5,713 คัน ซึ่งเป็นยอดจองมากที่สุดในลำดับแรก. BYD ได้ยอดจองจำนวน 3,668 คัน และ HONDA ได้ยอดจองจำนวน 3,225 คัน. AION ได้ยอดจองจำนวน 2,398 คัน และ MG ได้ยอดจองจำนวน 1,806 คัน.

ยอดจองรถยนต์ของแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกันมาก โดย TOYOTA และ BYD เป็นแบรนด์ที่มียอดจองสูง. สำหรับ TOYOTA, มันเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและความเชื่อถืออย่างยาวายในตลาดรถยนต์. BYD ในขณะนี้กำลังได้รับความสนใจจากผู้ซื้อเพราะราคาถูกและคุณภาพดี.

ยอดจองรถจักรยานยนต์ 5 อันดับแรก

ZONTES ได้ยอดจองจำนวน 1,263 คัน ซึ่งเป็นยอดจองมากที่สุดในลำดับแรกของรถจักรยานยนต์. YAMAHA ได้ยอดจองจำนวน 732 คัน, EM ได้ยอดจองจำนวน 445 คัน, RAPID ได้ยอดจองจำนวน 407 คัน และ DECO ได้ยอดจองจำนวน 240 คัน.

ยอดจองรถจักรยานยนต์ของแต่ละแบรนด์ก็มีความแตกต่างกันตามลักษณะและความเป็นประโยชน์ของแต่ละประเภทรถ. ZONTES สำหรับตัวอย่างนี้เป็นแบรนด์ที่มีความแตกต่างและมีลักษณะที่ดึงดูดผู้ชม. YAMAHA ในขณะนี้เป็นแบรนด์ที่มีความรู้สึกและชื่อเสียงอย่างยาวายในตลาดรถจักรยานยนต์.

สำหรับงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 เหลือระยะเวลาจัดงานอีกเพียง 3 วัน โดยจะสิ้นสุดจัดงานในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี. ผู้จัดงานยังเปิดเผยว่า ยอดดังกล่าวที่ได้มาจึงเป็นยอดจากการที่ผู้ซื้อรถเข้าร่วมกิจกรรม ซื้อรถ…ชิงรถ และ ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิ๊กไบก์.

ยอดจองรถในงานฯ จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ผู้จัดงานคาดไว้ที่ 60,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ที่ 53,248 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์ทำได้ 7,373 คัน และมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 72,000 ล้านบาท ในปี 2566 ที่ผ่านมา. แต่ผลลัพธ์ยังต้องติดตามอย่างใดดังตามมา.

See More
คาร์แคร์โฆษณาโปรโมชั่นหลอกลวงลูกค้าและเสียหายหลายแสน
2024-12-08
ในวันที่ 7 ธันวาคม 2567 เวลา 21.30 น., 3 รายผู้เสียหายได้เข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรบางละมุง. ครั้งนี้เป็นเนื่องจากการถูกหลอกลวงโดยร้านคาร์แคร์ชื่อ “บีบี” ซึ่งเสนอโปรโมชั่นทำสีรถยนต์และจักรยานยนต์ในราคาพิเศษ ก่อนเชิดรถและหลบหนี. ผลลัพธ์คือผู้เสียหายได้รวมตัวร้องตำรวจและมูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท.

ผลลัพธ์ของการหลอกลวง

ผู้เสียหายรายแรกนำรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยี่ห้อเบเนลลี่ 500 ซีซี สีดำ มูลค่าประมาณ 200,000 บาท ไปใช้บริการล้างรถที่ร้านคาร์แคร์ดังกล่าว. ร้านเสนอโปรโมชั่นทำสีใหม่ในราคาพิเศษ และส่งภาพความคืบหน้าการทำงานมาตลอดช่วงแรก. แต่เมื่อถึงกำหนดรับรถกลับไม่สามารถติดต่อร้านได้.

ผู้เสียหายรายที่สองนำรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ มิราจ เข้าทำสี หลังหลงเชื่อคำโฆษณาโปรโมชั่นราคาพิเศษ. แต่ระหว่างดำเนินการร้านเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มเติมเรื่อยๆ จนเมื่อถึงวันรับรถ พบว่าร้านได้ปิดตัวและขนของหนีไปทั้งหมด.

ผู้เสียหายรายที่สามระบุว่า นำรถยนต์เก๋งโตโยต้า ยาริส สีขาว ไปทำสี เนื่องจากเคยใช้บริการร้านนี้มาก่อน. แต่เมื่อครบกำหนดรับรถ พบว่าร้านปิดตัวลงและไม่เหลือทรัพย์สินใดๆ อยู่ในร้าน.

ปัญหาเงินและทรัพย์สิน

ผู้เสียหายบางรายให้ข้อมูลว่า ถูกขอให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่เปิดในชื่อเด็กชาย ซึ่งคาดว่าเป็นบัญชีม้า ทำให้การติดตามตัวผู้กระทำความผิดเป็นไปได้ยาก. ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ได้รับความเสียหายทั้งจากการสูญเสียเงินค่าบริการและการสูญเสียรถยนต์หรือจักรยานยนต์ที่ใช้งานประจำวัน.

ดังนั้นผู้เสียหายร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมนำรถกลับคืนผู้เสียหายโดยเร็ว เพื่อแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้น.

การดำเนินคดีจากตำรวจ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ได้รับเรื่องร้องทุกข์และเก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้องจากผู้เสียหาย. พร้อมมอบหมายชุดสืบสวนเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย. เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายที่เขาได้รับกลับมา.

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่ เพื่อให้ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวและสถานการณ์ล่าสุดได้.

See More