เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ครบวงจร จัดงานมหกรรมรถเบนซ์มือสองครั้งที่ 10 ในช่วงต้นปี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มองหาความคุ้มค่าสูงสุด ด้วยโปรโมชั่นพิเศษและบริการหลังการขายที่ครอบคลุม พร้อมนำเสนอรถยนต์คุณภาพเยี่ยมกว่า 100 คันในราคาเริ่มต้นเพียง 990,000 บาท รวมถึงข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้จองรถภายในงาน อาทิ อัตราดอกเบี้ย 1.68% และของสมนาคุณมากมาย เช่น เครื่องเป่าผม Dyson และกล้องติดรถ Thinkware งานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 มกราคม 2568 ณ โชว์รูมเบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป บางนา
เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป มุ่งมั่นให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่เหนือกว่าในการเลือกซื้อรถเบนซ์มือสอง ด้วยการรวบรวมรถยนต์คุณภาพเยี่ยมหลากหลายรุ่น ทั้งรถผู้บริหารไมล์น้อยและรถเดโม ที่ผ่านการตรวจสอบโดยละเอียดมากกว่า 200 รายการ เพื่อให้มั่นใจในมาตรฐานระดับพรีเมียม พร้อมการรับประกันนาน 1 ปีและของสมนาคุณพิเศษสำหรับผู้จองรถภายในงาน
นอกจากนี้ เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป ยังมอบความสะดวกสบายแก่ลูกค้าด้วยบริการครบวงจรทั้งการรับซื้อ ขาย และซ่อมบำรุง โดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่ใช้อะไหล่แท้จากทางแบรนด์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมจัดหาสินเชื่อเฉพาะบุคคลเพื่อมอบความสะดวกและความพิเศษเฉพาะลูกค้าของเบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป
งานมหกรรมรถเบนซ์มือสองครั้งนี้มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับผู้จองรถภายในงาน อาทิ อัตราดอกเบี้ยมงคล 1.68% สำหรับการจัดไฟแนนซ์ และของสมนาคุณพิเศษอย่างเครื่องเป่าผม Dyson Supersonic และกล้องติดรถ Thinkware หน้า-หลัง รวมถึงข้อเสนอสุดคุ้มสำหรับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่มีราคาเริ่มต้นไม่ถึงล้านบาท
ไฮไลท์ของงานประกอบด้วยรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์หลากหลายรุ่นที่มีราคาพิเศษ อาทิ E 350 e Avantgarde ปี 2018 ราคาเพียง 990,000 บาท GLA 250 AMG Dynamic ปี 2018 ราคา 990,000 บาท และรุ่นอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ A 200 AMG Dynamic ปี 2021 ราคา 1,550,000 บาท GLC 250 d 4MATIC Coupe AMG ปี 2019 ราคา 2,090,000 บาท รวมถึงรุ่นระดับพรีเมียมอย่าง S 350 d Exclusive ปี 2018 และ EQS 500 4MATIC AMG Dynamic ปี 2022 ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 2,790,000 บาท และ 3,990,000 บาท ตามลำดับ ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานเพื่อรับของที่ระลึกฟรีและอาหารเครื่องดื่มตลอดงาน
รายงานจากแหล่งข่าวทางการจีนระบุว่า ชายอายุ 62 ปีได้รับโทษประหารชีวิตหลังจากที่เขาขับรถไล่ชนคนที่ศูนย์กีฬาในเมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 35 คน เขาถูกตัดสินลงโทษเมื่อปลายปีที่แล้วและได้รับโทษในวันที่ 20 มกราคม โดยศาลเมืองจูไห่ตัดสินว่าเขาก่อให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยสาธารณะด้วยวิธีการอันตราย แรงจูงใจในการกระทำของเขามาจากความไม่พอใจในการแบ่งทรัพย์สินระหว่างการหย่าร้าง
ศาลกลางประจำเทศบาลนครจูไห่ได้ตัดสินโทษประหารชีวิตแก่ผู้ก่อเหตุในกรณีนี้ การกระทำของเขามีผลกระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะอย่างมาก ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการลงโทษอย่างหนักจากผู้นำประเทศ
การตัดสินโทษประหารชีวิตถูกประกาศเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ปีที่แล้ว หลังจากการตรวจสอบพฤติกรรมและความผิดของผู้ก่อเหตุอย่างละเอียด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้แสดงความต้องการให้ดำเนินคดีอย่างเคร่งครัดและรวดเร็ว เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความโศกเศร้าของประชาชนและสร้างความมั่นใจในระบบกฎหมาย
ตำรวจท้องถิ่นเปิดเผยว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุมาจากการไม่พอใจในการแบ่งทรัพย์สินระหว่างการหย่าร้าง ซึ่งนำไปสู่การกระทำที่รุนแรงในวันที่ 11 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว
การสอบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุมีความไม่พอใจอย่างมากในกระบวนการหย่าร้างของเขา จนนำไปสู่การตัดสินใจที่จะใช้รถเป็นอาวุธในการโจมตีกลุ่มคนที่ศูนย์กีฬา แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนการแสดงการบินประจำปีในเมืองจูไห่ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดงาน ทั้งนี้ ตำรวจยังคงติดตามและตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ในอนาคต
บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำจากจีนได้เปิดตัวเรือบรรทุกยานยนต์ระดับโลกที่มีความสามารถในการรองรับรถถึง 9,200 คัน เรือนี้มีขนาดใหญ่กว่าเรือบรรทุกยานยนต์ใดๆ ในปัจจุบัน มีความยาว 219 เมตร และความกว้าง 37.7 เมตร สามารถแล่นด้วยความเร็วสูงสุด 34.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชื่อนี้ได้มาจากเมืองเสินเจิ้นซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่แห่งแรกของบีวายดี ทำให้เรือลำนี้ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงประวัติศาสตร์และความภาคภูมิใจของบริษัทด้วย
การลงทุนในเรือบรรทุกยานยนต์เป็นส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกของบีวายดี โดยบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนเรือบรรทุกยานยนต์เป็น 8 ลำภายในต้นปี 2026 เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างรวดเร็วของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งในปี 2024 บริษัทสามารถส่งออกรถยนต์ได้มากถึง 417,204 คัน เพิ่มขึ้น 71.9% จากปีก่อนหน้า การมีเรือบรรทุกยานยนต์เป็นของตนเองช่วยให้บีวายดีสามารถควบคุมห่วงโซ่อุปทานได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การทำเหมืองแร่ลิเทียมจนถึงการผลิตแบตเตอรี่และบริการประกันภัยรถไฟฟ้า
บีวายดียังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเรือบรรทุกยานยนต์ใหม่นี้ใช้เชื้อเพลิงสองชนิด คือก๊าซธรรมชาติแอลเอ็นจีและน้ำมันเตา พร้อมด้วยอุปกรณ์ประหยัดพลังงานที่ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง นอกจากนี้ เรือลำนี้ยังเป็นเรือบรรทุกยานยนต์ลำแรกที่ติดตั้งแบตเตอรี่ของบีวายดีเอง เพื่อใช้พลังงานในการเทียบท่าหรืออยู่ในเขตที่จำกัดการปล่อยมลพิษ ด้วยการดำเนินงานอย่างยั่งยืน บีวายดีแสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและสร้างอนาคตที่สดใสให้กับโลกใบนี้