รถ
ประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางการลงทุนในปี 2568
2025-01-13

เมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มการลงทุนในประเทศไทยสำหรับปี 2568 ประเทศนี้ยังคงมีโอกาสในการดึงดูดนักลงทุนสู่ภาคอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคยานยนต์ การลงทุนรวมจากหลายภาคอุตสาหกรรมในปี 2567 มียอดทะลุ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของประเทศ ทำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อประเทศไทย ซึ่งได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าตามนโยบาย EV 3.0 และ 3.5 ทำให้ไม่มีค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นปิดโรงงานในไทย

รายละเอียดการลงทุนในปี 2567 และคาดการณ์สำหรับปี 2568

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้แสดงให้เห็นว่าเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ในปี 2567 โครงการขอส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้น 3,137 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนแตะระดับ 1,138,508 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี นักลงทุนได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง บุคลากรที่มีคุณภาพ และมาตรการทางภาษีที่เอื้ออำนวย

สำหรับปี 2568 คาดว่าแนวโน้มการลงทุนจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การกีดกันทางเทคโนโลยีและสงครามการค้า ทำให้นักลงทุนมองหาสถานที่ใหม่ๆ เพื่อลดความเสี่ยง ประเทศไทยได้ประโยชน์จากการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนานาประเทศ ทำให้สามารถเป็นสะพานเชื่อมโยงซัพพลายเชนระหว่างมหาอำนาจต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังมีการเดินหน้าส่งเสริมการลงทุนในภาคเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ เซมิคอนดักเตอร์ และระบบอัตโนมัติ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมภาคเกษตรและอาหาร พลังงานสะอาด และการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ยืนยันว่า หากภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเหมาะสม จะไม่มีค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นปิดโรงงานในไทยอีก และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยไม่ทำให้ตลาดเกินอุปทาน

จากมุมมองของผู้สื่อข่าว บทความนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของประเทศไทยในการปรับตัวและตอบสนองต่อความท้าทายทางเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกัน ก็ยังคงรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยให้แก่นักลงทุน ทั้งหมดนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในอนาคต

การเรียกคืนรถยนต์ Tesla 239,000 คันในสหรัฐอเมริกา
2025-01-13

Tesla ได้ดำเนินการเรียกคืนรถยนต์จำนวนกว่า 239,000 คันในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับกล้องมองหลัง โดยสาเหตุอาจมาจากกระแสไฟย้อนกลับขณะจ่ายไฟให้กับรถยนต์ ส่งผลให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานผิดพลาดและทำให้กล้องไม่สามารถใช้งานได้ การแก้ไขปัญหานี้จะดำเนินการผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ เพื่อปรับลำดับการจ่ายไฟให้เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนบอร์ดคอมพิวเตอร์ในบางคันที่มีปัญหา

รถรุ่น Model 3 และ Model S ปี 2024-2025 รวมถึง Model X และ Model Y ปี 2023-2025 ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ แต่ไม่มีรายงานการชนหรือบาดเจ็บจากการใช้งานกล้องที่เสียหาย บริษัทได้รับแจ้งประกัน 887 รายการและรายงานภาคสนาม 68 รายการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Tesla ในการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว

สาเหตุและความจำเป็นของการเรียกคืนรถยนต์

Tesla พบว่ามีปัญหาเฉพาะกับระบบกล้องมองหลังในรถยนต์บางรุ่น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบดังกล่าว การตรวจสอบพบว่าปัญหาอาจเกิดจากกระแสไฟย้อนกลับขณะจ่ายไฟ ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ลัดวงจรและส่งผลให้กล้องไม่สามารถใช้งานได้ ดังนั้น Tesla จึงจำเป็นต้องดำเนินการเรียกคืนรถยนต์เพื่อแก้ไขปัญหานี้

ปัญหาดังกล่าวเกิดจากลำดับการกำหนดค่าของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ประกอบกับอุณหภูมิที่เย็นลง ส่งผลให้ระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ทำงานผิดพลาด บริษัทได้ทำการวิเคราะห์และทดสอบอย่างละเอียด เพื่อระบุสาเหตุของปัญหาและการแก้ไขที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์และเปลี่ยนบอร์ดคอมพิวเตอร์ในบางคันที่มีปัญหา

มาตรการแก้ไขปัญหาและการสนับสนุนลูกค้า

Tesla ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยการปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ เพื่อปรับปรุงลำดับการจ่ายไฟของรถยนต์ให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรและทำให้กล้องมองหลังสามารถใช้งานได้ตามปกติ นอกจากนี้ สำหรับรถยนต์ที่มีปัญหากับบอร์ดคอมพิวเตอร์ จะได้รับการเปลี่ยนบอร์ดใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างถาวร

นอกจากนี้ Tesla ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีการเรียกประกันกว่า 887 รายการและรายงานภาคสนาม 68 รายการที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้ แต่ไม่มีรายงานการชน การบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากปัญหานี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยของรถยนต์แม้จะมีปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้ รถรุ่น Model 3, Model S และ Model X ที่ผลิตหลังวันที่ 16 ธันวาคมนั้น ได้รับคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่แก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของ Tesla ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์

See More
การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่ของ Leapmotor ในประเทศจีน
2025-01-13

ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้ากำลังก้าวสู่อนาคตด้วยการปรากฏตัวของ Leapmotor B01 ที่ไม่มีการพรางตัวในประเทศจีน รถยนต์ซีดานรุ่นนี้มีกำหนดการเปิดตัวในช่วงกลางปี 2025 และสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มเดียวกับ Leapmotor B10 รถครอสโอเวอร์ โดยคาดว่าราคาจำหน่ายในประเทศจีนจะอยู่ระหว่าง 4.74 ถึง 7.11 แสนบาท ตามรายงานจากแหล่งข่าวในประเทศ

การออกแบบภายนอกของ Leapmotor B01 สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ ด้วยส่วนหน้าแบบปิดทึบและไฟ Daytime Running Light แบบ LED เส้นเดียว สีตัวถังรถเป็นสีเหลืองสดใส นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ เช่น มือเปิดประตูแบบซ่อนราบเรียบไปกับตัวรถ และลายล้อที่คล้ายคลึงกับ Leapmotor B10 พร้อมกล้องรอบคันและระบบตรวจจับจุดอับสายตา นอกจากนี้ยังมาพร้อม LiDAR และชิป AI สำหรับรุ่นท๊อป

Leapmotor B01 เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายตลาดของบริษัท โดยมีกำหนดการเข้าสู่ตลาดจีนในช่วงกลางปี 2025 และคาดว่าจะตามมาด้วยการเข้าสู่ตลาดยุโรป รถยนต์รุ่นนี้มีแนวโน้มที่จะใช้ระบบส่งกำลังแบบเดียวกับ Leapmotor B10 ด้วย e-motor ตัวเดียวที่มีกำลังสูงถึง 214 แรงม้า และชุดแบตเตอรี่ LFP ขนาด 56.2 kWh การเปิดตัวของ Leapmotor B01 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการผลักดันเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและปลอดภัย

การปรากฏตัวของ Leapmotor B01 ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียานยนต์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นี่คือก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์โลกที่สะอาดและยั่งยืนมากขึ้น

See More