การแข่งขันเทนนิสรายการสำคัญที่เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ปี 2568 ได้เห็นนักกีฬาไทยหลายรายแสดงฝีมืออย่างโดดเด่น โดยเฉพาะในประเภทชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว ซึ่งมีผู้เล่นหลายคนผ่านเข้าสู่รอบถัดไปด้วยคะแนนที่น่าประทับใจ การแข่งขันครั้งนี้ยังเป็นเวทีที่ให้นักเทนนิสหน้าใหม่ได้แสดงความสามารถ และนักกีฬาระดับชาติได้แสดงความพร้อมในการแข่งขันระดับนานาชาติ
ผลการแข่งขันรอบแรก: ยุทธนาและลีเดียร์นำทีมคว้าชัยชนะ
ในวันที่อากาศสดใสที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นักเทนนิสไทยได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ในการแข่งขันรอบแรกของรายการไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ ซึ่งมีเงินรางวัลรวม 600,000 บาท
ในประเภทชายเดี่ยว "สอง" ยุทธนา เจริญผล นักเทนนิสมือวางอันดับ 7 ของรายการ และเจ้าของเหรียญทองแดงจากซีเกมส์ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม สามารถเอาชนะณัฐพัฒน์ ขุนทอง จากเพชรบูรณ์ ได้อย่างขาดลอย 2-0 เซต ด้วยคะแนน 6-1 และ 6-0 ทำให้ยุทธนาผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้าย ซึ่งเขาจะพบกับปราบ วิรุฬห์เศรษฐวิทย์ จากรอบคัดเลือก
ขณะเดียวกัน ในประเภทหญิงเดี่ยว ลีเดียร์ พอดโกริซานี่ นักเทนนิสมือวางอันดับ 2 ของรายการ ชาวสุราษฎร์ธานี ที่มีเชื้อสายไทย-รัสเซีย สามารถเอาชนะพิมพ์มาดา ลิม ชาวกรุงเทพฯ ที่มีเชื้อสายไทย-สิงคโปร์ ได้อย่างไม่เสียเกม ด้วยคะแนน 6-0 และ 6-0 ทำให้ลีเดียร์ผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายเช่นกัน โดยเธอจะพบกับลัลดา กำหอม ที่เอาชนะปทิตตา สิงห์ทอง มาได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีผลการแข่งขันอื่น ๆ อีกมากมายทั้งในประเภทชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถของนักเทนนิสไทยที่หลากหลาย
การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงแค่เป็นเวทีสำหรับนักกีฬาไทยในการแสดงความสามารถ แต่ยังเป็นโอกาสให้แฟนเทนนิสได้ชมการแข่งขันที่น่าตื่นเต้น และเห็นอนาคตของวงการเทนนิสไทยที่สดใส
แรงบันดาลใจจากการแข่งขัน: นักกีฬาไทยสร้างความภาคภูมิใจ
การแข่งขันเทนนิสไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพ ไม่ได้เพียงแค่เป็นการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความสามารถและความมุ่งมั่นของนักเทนนิสไทย ทั้งยุทธนาและลีเดียร์ได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความแข็งแกร่งในการแข่งขัน ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนที่สนใจในกีฬานี้
นอกจากนี้ การแข่งขันยังสะท้อนถึงการพัฒนาของวงการเทนนิสไทย ที่มีนักกีฬาที่มีความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีโอกาสในการแข่งขันระดับนานาชาติมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ
การต่ออายุตำแหน่งผู้นำในวงการกีฬาสำหรับคนพิการของประเทศไทยเป็นไปอย่างราบรื่น เมื่อนายอำนวย กลิ่นอยู่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทยอีกครั้ง เป้าหมายหลักของเขาคือการยกระดับมาตรฐานการแข่งขันและการฝึกฝนนักกีฬา เพื่อเตรียมความพร้อมในการแข่งขันอาเซียนพาราเกมส์ที่กำลังจะมาถึง เขาหวังว่าจะสามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นให้กับประเทศในระดับนานาชาติ
นอกจากนี้ นายอำนวยยังมีแผนงานสำคัญในการพัฒนาศูนย์กีฬาเฉพาะสำหรับคนพิการ โดยโครงการนี้รวมถึงการเช่าที่ดิน 20 ไร่ในสมุทรปราการ เพื่อสร้างสปอร์ตคอมเพล็กซ์ที่มีมาตรฐานสากล สถานที่นี้จะใช้สำหรับการฝึกอบรมและการจัดการแข่งขันที่เหมาะสมสำหรับนักกีฬาผู้พิการทุกรูปแบบ โครงการนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท และจะเริ่มดำเนินการภายในระยะเวลา 4 ปี
การพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาคนพิการไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างโอกาสในการคว้าเหรียญรางวัลเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความพยายามของผู้พิการในการเอาชนะอุปสรรค การสนับสนุนจากสังคมไทยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านกีฬาสำหรับคนพิการสะท้อนถึงค่านิยมทางสังคมที่เน้นความเสมอภาคและความก้าวหน้าของทุกกลุ่มคน นี่คือการสร้างอนาคตที่สดใสและเปิดกว้างสำหรับทุกคนในสังคม
Amidst the fanfare of L'Oréal's collaboration with fashion powerhouse Jacquemus, a significant yet under-the-radar move has emerged. The cosmetics giant recently disclosed its acquisition of a stake in the prestigious Omani fragrance brand Amouage. This strategic investment underscores L'Oréal's commitment to diversifying its portfolio and tapping into niche luxury markets. The announcement came as part of L'Oréal's annual results report, where CEO Nicolas Hieronimus highlighted several transformative initiatives that positioned the company for future success. These included advancements in AI and technology integration, IT harmonization, and organizational simplification, all aimed at enhancing operational efficiency and resilience.
Established in 1983 by the Albusaidi family in the Sultanate of Oman, Amouage has earned acclaim for its exquisite use of premium and rare ingredients in perfumery. The brand has experienced remarkable growth, reporting a 24% increase in sales compared to the previous year. Over just three years, its revenue more than doubled, surpassing $210 million. This impressive trajectory reflects Amouage's ability to captivate discerning consumers with its unique offerings. By aligning with L'Oréal, Amouage stands to benefit from the global reach and resources of one of the world's leading beauty companies, setting the stage for even greater achievements in the luxury fragrance sector.
The partnership between L'Oréal and Amouage exemplifies the power of strategic alliances in driving innovation and market expansion. As both entities leverage their strengths, they pave the way for a new era of creativity and excellence in the fragrance industry. This collaboration not only promises mutual growth but also signals a broader trend toward embracing diversity and quality in luxury goods. Together, they are poised to inspire and delight consumers worldwide with unparalleled olfactory experiences.