การมาถึงของเทศกาลตรุษจีนทำให้บริการฝากเลี้ยงสัตว์ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากผู้คนจำนวนมากวางแผนเดินทางกลับบ้านเกิด ซึ่งทำให้พวกเขาต้องหาวิธีดูแลสัตว์เลี้ยงที่เหลืออยู่ การบริการนี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้กับผู้ให้บริการเท่านั้น แต่ยังเปิดเผยปัญหาและความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้บริการดังกล่าว รวมถึงประเด็นเรื่องความปลอดภัยและมาตรฐานการให้บริการ
ช่วงเวลาสำคัญนี้เปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการฝากเลี้ยงสัตว์สามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อมีความต้องการสูงในช่วงเทศกาล ราคาค่าบริการจะปรับสูงขึ้นตามระยะทางและระยะเวลาที่ใช้ในการดูแล ซึ่งทำให้ผู้ให้บริการมีรายได้ที่ดีกว่าปกติ
สำหรับ "เจียงเจียง" ผู้ให้บริการในกรุงปักกิ่ง เธอเริ่มทำงานนี้ตั้งแต่ปี 2564 และพบว่าช่วงตรุษจีนเป็นช่วงที่เธอมีรายได้สูงสุดในปี เธอสามารถรับออเดอร์ได้วันละประมาณ 20 ครั้ง และบางครั้งยังได้รับคำขอบคุณจากลูกค้าในรูปแบบของเงินสดเพิ่มเติม เช่น ในคืนวันส่งท้ายปีเก่า มีลูกค้าให้เธอ 200 หยวน เพื่อพาสุนัขไปเดินเล่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริการนี้ไม่ได้จำกัดแค่การทำหน้าที่พื้นฐานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างความสุขให้กับสัตว์เลี้ยงด้วย
แม้ว่าบริการนี้จะสะดวกสบายสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง แต่ยังคงมีปัญหาหลายอย่างที่ต้องเผชิญ เช่น การโกงหรือไม่มาตามนัด รวมถึงมาตรฐานการให้บริการที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงและทรัพย์สินของเจ้าของบ้าน
“เล่อเล่อ” เจ้าของสัตว์เลี้ยงคนหนึ่งเคยประสบปัญหาเมื่อสุนัขของเขาเครียดจนไม่ยอมกินอาหารหลังจากถูกฝากไว้ที่ร้าน ทำให้เขาต้องหันมาใช้บริการที่บ้านแทน นอกจากนี้ “ถูถู” ผู้ให้บริการอีกคนยังเคยถูกกล่าวหาว่าให้อาหารมากเกินไปจนทำให้แมวของลูกค้าท้องเสีย ซึ่งนำไปสู่การฟ้องร้อง ทนายความหลายคนแนะนำว่าควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนระหว่างผู้ให้บริการและเจ้าของสัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมาย รวมถึงการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อถือได้ในการจองบริการ เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งสองฝ่ายได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย
นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายังคาดการณ์ว่าในช่วงนี้ ภาคเหนือจะมีอากาศหนาวเย็นมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่อุณหภูมิจะต่ำกว่าปกติ ทำให้เมืองเชียงใหม่ยังคงเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศหนาว
นอกจากนี้ สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเชียงใหม่ยังได้ส่งนักกีฬาคนพิการเข้าร่วมการแข่งขันในหลายรายการ และสามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันกรีฑาได้สำเร็จ ซึ่งเป็นการยกระดับชื่อเสียงของเชียงใหม่ในวงการกีฬา นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันกีฬานักเรียนระดับประเทศที่เชียงรายส่งนักกีฬาเข้าร่วมและสามารถคว้าเหรียญกลับมาได้มากถึง 71 เหรียญ
การที่สนามฟุตบอลไร่เยาวเรศได้รับการเลือกให้เป็นสถานที่ฝึกซ้อมของทีมต่างๆ สะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานและการบริหารจัดการที่ดีของสนามแห่งนี้ ซึ่งทำให้เชียงใหม่กลายเป็นเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากนักกีฬาและทีมต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ
ในการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 มีการหารือเกี่ยวกับการเพิ่มรายการแข่งขันและการออกแบบตราสัญลักษณ์ใหม่สำหรับการแข่งขันดังกล่าว ผู้เข้าร่วมประชุมได้เห็นชอบให้มีการเพิ่มจำนวนชนิดกีฬาในซีเกมส์ 5 รายการ ทำให้รวมเป็น 574 รายการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบโลโก้และมาสคอตใหม่ที่สะท้อนถึงความร่ำรวยทางวัฒนธรรมของประเทศไทยและแนวคิด "Play by the Rules" ซึ่งเน้นกฎ กติกา และวินัยในการแข่งขัน
การประชุมนี้มีนายสรวงศ์ เทียนทอง เป็นประธาน โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตลอดจนผู้แทนจากองค์กรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม การประชุมได้ตกลงเรื่องการเพิ่มรายการแข่งขันในซีเกมส์ 5 รายการ ประกอบด้วยกีฬาเรือใบ 1 รายการ และกรีฑา 4 รายการ ซึ่งรวมถึงการเดิน 20 กิโลเมตรชายและหญิง และการวิ่ง 3,000 เมตรชายและหญิง ทำให้จำนวนรายการแข่งขันเพิ่มขึ้นจาก 569 เป็น 574 รายการ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้มีการกำหนดชนิดกีฬาสำหรับอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 จำนวน 19 ชนิดกีฬา รวมถึงกรีฑา-วีลแชร์เรซซิ่ง ยิงธนู แบดมินตัน และอื่นๆ ทั้งหมดนี้จะชิงชัยเหรียญทองรวม 536 เหรียญ ที่ประชุมยังได้รับทราบถึงการออกแบบตราสัญลักษณ์และมาสคอตใหม่ ซึ่งผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความร่ำรวยทางวัฒนธรรมของไทย
การปรับปรุงตราสัญลักษณ์ใหม่นี้มีแนวคิดหลักคือ "Play by the Rules" ซึ่งสะท้อนถึงกฎ กติกา และวินัยในการแข่งขัน ตราสัญลักษณ์นี้ใช้เส้นกรอบขอบเขตจากสนามกีฬาและลวดลายกริดจากศิลปะไทยดั้งเดิม เพื่อแสดงถึงสมดุลระหว่างกฎเกณฑ์และความงามทางศิลปะ ส่วนมาสคอตใหม่เป็นกลุ่มตัวละครที่มีสีสันสดใสและสะท้อนถึงความหลากหลายและความสามัคคีของสังคมไทย
การเพิ่มรายการแข่งขันและการออกแบบตราสัญลักษณ์และมาสคอตใหม่สำหรับซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นให้แก่การแข่งขัน พร้อมทั้งสะท้อนถึงความร่ำรวยทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ขณะเดียวกันยังส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และการเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน