เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับเหตุคนร้ายลักทรัพย์รถยนต์ของชาวบ้านในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ คำสั่งจากผบก.ทล. ได้ทำให้กำลังตำรวจเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว. เจ้าหน้าที่จึงตั้งจุดสกัดบริเวณถนนหลวงหมายเลข 11 ฝั่งขาเข้าหน้าหน่วยบริการตำรวจทางหลวงบ้านป่า จ.พิษณุโลก เพื่อหาคนร้ายที่ขโมยรถ. และในเวลานั้น นายกรกฎขับรถคันดังกล่าววิ่งผ่านมาด้วยความเร็วมาก.
เมื่อเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณเรียกให้หยุดรถ แต่นายกรกฎกลับขับพุ่งฝ่าจุดสะกัด. เจ้าหน้าที่จึงขับรถไล่ติดตามพร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งนำรถพ่วงมาจอดปิดเส้นทางกีดขวางเส้นทางบริเวณ แยกสะกัดน้ำมัน อ.เมือง. เมื่อนายกรกฏ ขับรถคันดังกล่าวผ่านมาถึงจุดสกัด นายกรกฎยังคงพยายามหลบหนี โดยขับพุ่งชนฝ่าแนวกั้นเจ้าหน้าที่. ก่อนจะเสียหลักพุ่งชนเสาไฟบริเวณเกาะกลางถนน เจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่งที่ขับรถสายตรวจไล่ตามมาพยายามเข้าควบคุมตัว แต่นายกรกฏกลับชักอาวุธมีดแทงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อหวังจะชิงรถ. เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงใส่ไปที่ข้อมือขวาจนได้รับบาดเจ็บก่อนสามารถเข้าควบคุมตัวได้สำเร็จ.
จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย. ประกอบด้วย จ.ส.ต.พีระวัฒน์ มีศิลารัตน์ บาดเจ็บบริเวณข้อเท้าจากการกระโดดหลบรถผู้ที่ต้องหาขับพุ่งชน และ ด.ต.ประทีป มีอุดร ได้รับบาดเจ็บมีรอยปลายมีดแทงบริเวณหน้าท้องด้านซ้ายเป็นรอยถลอกเล็กน้อย. ส่วนตัวนายกรกฎ หลังถูกยิงเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งรักษาที่ รพ.พุทธชินราช ก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองพิษณุโลก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
การดำเนินงานของตำรวจในเหตุการณ์นี้ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นของพวกเขาในการป้องกันสิทธิประโยชน์ของประชาชนและป้องกันความผิดปกติ. และการรักษาและดำเนินงานต่อไปของรัฐบาลและตำรวจจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตของประชาชน.