คริสโตเฟอร์ โนแลนเป็นวิศวกรที่มีความสามารถที่ไม่ธรรมดา. เขาได้ทำงานอย่างมีความฉลาดในการพัฒนาเทคโนโลยีถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยฟิล์มเซลลูลอยด์. และเขาได้เลือกใช้เทคโนโลยีของ IMAX เพื่อสร้างภาพยนตร์ที่มีความยิ่งใหญ่และมีความละเอียดสูง.

คริสโตเฟอร์ โนแลนและ IMAX: สร้างภาพยนตร์ที่มีความยิ่งใหญ่

การเริ่มต้นของการ合作

คริสโตเฟอร์ โนแลนได้เริ่ม合作กับ IMAX โดยใช้กล้อง IMAX ความละเอียดสูงในการถ่ายทำภาพยนตร์ตั้งแต่ ‘The Dark Knight’ (2008). นอกจากจะใช้สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ธรรมดาแล้ว, IMAX ก็ได้รับการยกระดับเทคโนโลยีไปอีกขั้น. วิศวกรของ IMAX กำลังสร้างเทคโนโลยีใหม่ที่ยอดเยี่ยมและจะส่งผลดีต่อศิลปะการสร้างภาพยนตร์.ในขณะที่ Warner Bros. แสดงความกังวลต่อความซับซ้อนในการถ่ายทำและทุนสร้าง, โนแลน坚信ว่าเทคโนโลยีนี้จะทำให้งานภาพมีความยิ่งใหญ่มากขึ้น. และในที่สุด, ‘The Dark Knight’ ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล, ทำให้โนแลนตัดสินใจใช้กล้อง IMAX ในการถ่ายทำภาพยนตร์ต่อมาของเขาทุกเรื่อง.

การพัฒนาและความสำเร็จต่อไป

หลังจาก ‘The Dark Knight’, โนแลนได้ใช้เทคโนโลยีของ IMAX ในการถ่ายทำภาพยนตร์ต่อมาเช่น ‘Inception’ (2010), ‘The Dark Knight Rises’ (2012), ‘Interstellar’ (2014) และ ‘Dunkirk’ (2017). ทั้งหมดของพวกมันเป็นภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์ด้วยกันทั้งสิ้น.ล่าสุด, โนแลนได้นำเทคโนโลยีกล้อง IMAX ฟิล์ม 70 มม. ซึ่งมอบภาพที่มีสัดส่วนใหญ่ที่สุด ในการถ่ายทำภาพยนตร์ดราม่าเป็นครั้งแรก. ‘Oppenheimer’ เป็นภาพยนตร์ที่เน้นฉากการสนทนาเป็นหลัก แต่ด้วยภาพที่มีความละเอียดสูงและมีขนาดใหญ่มาก. กอปรกับระบบเสียงของ IMAX ที่มีรายละเอียดสูงกว่าระบบเสียงของโรงภาพยนตร์ทั่วไป. ทำให้โนแลนสามารถนำเสนอมิติที่ลึกซึ้งของตัวละคร ได้อย่างน่าอัศจรรย์.ภาพจากผู้ใช้ Reddit : r/imax แสดงให้เห็นว่าโนแลนสามารถดึงศักยภาพของ IMAX มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ. และผลักดันการใช้กล้อง IMAX ในการถ่ายทำภาพยนตร์ไปอีกขั้น. ทำให้ผู้ชมและสื่อจับตามองโปรเจกต์ถัดไปของเขาเป็นอย่างมาก.