ความบันเทิง
Christopher Nolan ยืนยันเทคโนโลยี IMAX ใหม่ในโปรเจกต์ถัดไป
2024-12-12
คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ได้ยืนยันว่ากำลังทดสอบเทคโนโลยีการถ่ายทำภาพยนตร์แบบใหม่ร่วมกับ IMAX. นอกจากนี้, เขาได้เปิดเผยรายละเอียดของเทคโนโลยีใหม่ที่น่าประทับใจและจะส่งผลดีต่อศิลปะการสร้างภาพยนตร์.

Christopher Nolan และเทคโนโลยี IMAX - การสร้างภาพยนตร์ใหม่

การทดสอบเทคโนโลยีใหม่ของ Christopher Nolan

Christopher Nolan ได้ทำการทดสอบเทคโนโลยีการถ่ายทำภาพยนตร์แบบใหม่ร่วมกับ IMAX. นักแสดงหลายคนเช่น แมตต์ เดมอน (Matt Damon), เซ็นเดยา (Zendaya), แอนน์ แฮททาเวย์ (Anne Hathaway), โรเบิร์ต แพตตินสัน (Robert Pattinson), ลูพีตา ญองอ (Lupita Nyong’o) และ ชาร์ลีซ เทรัน (Charlize Theron) ได้รวมเข้ากับโปรเจกต์นี้. เทคโนโลยีใหม่ของ IMAX นั้นยกระดับไปอีกขั้นอย่างน่าประทับใจและจะส่งผลดีต่อศิลปะการสร้างภาพยนตร์.สำหรับงานที่ไม่ธรรมดานี้, การที่ได้เห็นการพัฒนาเทคโนโลยีถ่ายทำภาพยนตร์ด้วยฟิล์มเซลลูลอยด์เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมเสมอ. IMAX กำลังได้รับการผลักดันไปในระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้.

ประวัติของ Christopher Nolan และเทคโนโลยี IMAX

Christopher Nolan ได้ใช้เทคโนโลยีของ IMAX ในการถ่ายทำภาพยนตร์อยู่เสมอ. เริ่มตั้งแต่ ‘The Dark Knight’ (2008) ที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยการใช้กล้อง IMAX ความละเอียดสูงในการถ่ายทำภาพยนตร์เป็นครั้งแรก. หลังจากที่มักถูกใช้ในการถ่ายทำสารคดีเป็นส่วนใหญ่, Warner Bros. แสดงความกังวลต่อความซับซ้อนในการถ่ายทำและทุนสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น. แต่โนแลนได้ยืนกรานว่าเทคโนโลยีนี้จะผลักดันงานภาพให้มีความยิ่งใหญ่มากขึ้น.‘The Dark Knight’ ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล และทำให้โนแลนตัดสินใจใช้กล้อง IMAX ในการถ่ายทำภาพยนตร์ต่อมาของเขาทุกเรื่อง. ไม่ว่าจะเป็น ‘Inception’ (2010), ‘The Dark Knight Rises’ (2012), ‘Interstellar’ (2014) และ ‘Dunkirk’ (2017), ทั้งสิ้นเป็นภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์ด้วยกัน.ล่าสุดโนแลนได้นำเทคโนโลยีกล้อง IMAX ฟิล์ม 70 มม. ซึ่งมอบภาพที่มีสัดส่วนใหญ่ที่สุดในการถ่ายทำภาพยนตร์ดราม่าเป็นครั้งแรก. ‘Oppenheimer’ เป็นภาพยนตร์ที่เน้นฉากการสนทนาเป็นหลัก แต่ด้วยภาพที่มีความละเอียดสูงและมีขนาดใหญ่มาก, กอปรกับระบบเสียงของ IMAX ที่มีรายละเอียดสูงกว่าระบบเสียงของโรงภาพยนตร์ทั่วไป. นั่นทำให้โนแลนสามารถนำเสนอมิติที่ลึกซึ้งของตัวละคร เจ. รอเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ (J. Robert Oppenheimer) ที่รับบทโดย คิลเลียน เมอร์ฟี (Cillian Murphy) ได้อย่างน่าอัศจรรย์.Christopher Nolan สามารถดึงศักยภาพของ IMAX มาใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและผลักดันการใช้กล้อง IMAX ในการถ่ายทำภาพยนตร์ไปอีกขั้น. ผู้ชมและสื่อจับตามองโปรเจกต์ถัดไปของเขาเป็นอย่างมาก.
รีวิวหนังผีไทย “ไรเดอร์” เฮี้ยนฮา สูตรสำเร็จ ส่งท้ายปี
2024-12-12
หนังผีไทย “ไรเดอร์” ส่งท้ายปีด้วยความฮา

บทความที่สำคัญ

ย่อหนัง “ไรเดอร์”

“ไรเดอร์” เป็นหนังผีไทยที่เลือกนำอาชีพพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรีมาเป็นตัวละครหลัก. เรื่องราวของแก๊งไรเดอร์เพื่อนซี้ นำโดย “นัท” (มาริโอ้ เมาเร่อ), “น้าไก่” (อาร์ต มารุต) และ “เสือยอด” (โน่ ภูวเนตร). พนักงานไรเดอร์มักจะเจอออเดอร์แปลกๆ ที่ปักหมุดให้ตามไปส่งอาหารในโลเคชันสยอง. จนกระทั่ง “นัท” ก็ตกหลุมรัก “พาย” สาวสวยเจ้าของร้านซ่อมโทรศัพท์ แต่หลังจากนั้น “พาย” ก็หายตัวไป.

รายชื่อนักแสดง

มาริโอ้ เมาเร่อ รับบท นัทฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ รับบท พายอาร์ต-มารุต ชื่นชมบูรณ์ รับบท น้าไก่โน่-ภูวเนตร สีชมภู (เซียนหรั่ง) รับบท เสือยอด

รีวิวหนัง “ไรเดอร์”

หนังผีไทย “ไรเดอร์” ถือเป็นหนังคอมเมดี้สูตรสำเร็จ. หากไม่ทำแนวน่ากลัวยองขวัญ, ก็จะมีภาพจำคือ หนังผีตลก. ตัวละครหลักในหนังเป็นพนักงานส่งอาหารเดลิเวอรี ซึ่งเป็นอาชีพที่เสี่ยงที่จะ “เจอผี” มากที่สุด. แต่เนื้อเรื่องคาดเดาได้, ไม่มีมิติและดำเนินเรื่องง่ายๆ. ยิงมุกขำๆ และมีภาพจำที่ทำให้แฟนๆ มีความรู้สึก.

วันที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์

หนังผีไทย “ไรเดอร์” เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไทย ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2567.
See More
25 ปี "มาร์ส เพ็ทแคร์" สร้างตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงสำหรับ Pet Parent
2024-12-11
ในปัจจุบัน, การเทรนด์ตลาด “อาหารสัตว์เลี้ยง” กำลังเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญมาก. ผลลัพธ์จากความทุ่มเทของ “Pet Parent” ทำให้มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง. แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงหลายแห่งมาแรงตลาด, และมาร์ส เพ็ทแคร์เป็นหนึ่งในเจ้าของแบรนด์ที่สำคัญ.

“Pet Parent ส่งผลให้ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”

ตลาดหมา – แมว ดันมูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง

สุนัขและแมวอยู่ทั่วโลกมากกว่า 1,000 ล้านตัว, ทำให้มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงปี 2567 เพิ่มมากกว่า 10% และมีมูลค่าตลาดมากกว่า 70,000 ล้านบาท. ในประเทศ, มูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่จำหน่ายคาดว่าจะมีมูลค่า 41,700 ล้านบาท เติบโต 15.8%จากปีก่อน และมีการส่งออกสูงราว 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโต 19.5%.

“มาร์ส เพ็ทแคร์” ขึ้นแท่นแบรนด์ระดับท็อป บุกเบิกตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในไทย

มาร์ส เพ็ทแคร์เป็นแบรนด์ที่ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่รู้จัก, และมีการตั้งโรงงานอาหารสัตว์เลี้ยงเมื่อ 25 ปีก่อน. โรงงานมาร์ส เพ็ทแคร์ ปากช่องมีการผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วน 80% ของกำลังการผลิต, และมีผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ที่ยอมรับในตลาดทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐฯ. มาร์ส เพ็ทแคร์ได้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อรองรับตลาดที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว.

ตอกย้ำความสำเร็จ 25 ปี ต่อยอดธุรกิจต้นน้ำถึงปลายน้ำ

บริษัทมาร์ส เพ็ทได้ผลิตไปแล้วถึง 2,333 ล้านกิโลกรัม, พร้อมเดินหน้าขยายกำลังผลิตต่อเนื่อง. โรงงานมาร์ส เพ็ทแคร์ ปากช่องมีความสำคัญกับคุณภาพในการผลิตอาหารสุนัขและแมวตามมาตรฐานสากล, และได้รับรางวัลการันตี Zero Accident Award.

พลังงานสะอาด ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

มาร์ส เพ็ทแคร์เปลี่ยนแปลงแหล่งพลังงานและระบบทำความเย็นเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและกำจัดขยะ. พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาเกษตรกรรมฟื้นฟูและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร. มาร์ส มีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ลง 50% ภายในปี 2573 และบรรลุ Net Zero ภายในปี 2583.จากความเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว, บริษัทมาร์ส เพ็ทแคร์สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและยืนหยัดความสำเร็จได้.
See More