กีฬา
ทีมชายสตูลและทีมหญิงเชียงใหม่ คว้าแชมป์ศึกกีฬาแห่งชาติ
2024-12-12
สำหรับทีมชายและทีมหญิงในจังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.นั้นเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญมากสำหรับการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ. ทีมชายแบดมินตันได้ชิง 2 ทองในประเภททีมชายและต้องแข่งกับนครราชสีมาในรอบชิงชนะเลิศ สตูล ม้ามืดฟอร์มแรง ที่เข้าชิงเป็นครั้งแรก. ในขณะที่ทีมหญิงเชียงใหม่พบกับกาญจนบุรี แชมป์เก่าและได้เอาชนะไป 3-1 คู่.

ผลการแข่งขันของทีมชาย

ทั้งสองทีมสู้กันสนุกสูสีและมาเสมอกันที่ 2-2 คู่. ต้องตัดสินกันที่คู่สุดท้าย คู่ที่ 5 เดี่ยวมือ 3. ธีรภัทร เขียวหวานจากสตูลได้เอาชนะ ธนวินท์ มาดี จากโคราช 2-0 เกม จบการแข่งขัน สตูล ชนะ นครราชสีมา 3-2 คู่ คว้าเหรียญทอง ศึกกีฬาแห่งชาติ ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์.

ทีมชายแบดมินตันได้แสดงความแข็งแกร่งและสามารถดำเนินการได้ดีในรอบชิงชนะเลิศ. การแข่งขันของทีมชายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้ชมสนุกและต้องตัดสินใจในคู่สุดท้าย.

ผลการแข่งขันของทีมหญิง

ทีมหญิงเชียงใหม่ได้เริ่มจากเดี่ยวมือ 1 “จิว” ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ (กาญจนบุรี) ชนะ อทิตยา โปวานนท์ (เชียงใหม่) 2-0 เกม 21-7, 21-6. ในเดี่ยวมือ 2 พัทธรินทร์ เอี่ยมวารีศรีสกุล (เชียงใหม่) ชนะ อลิษา ทรัพย์นิธิ (กาญจนบุรี) 2-1 เกม 19-21, 21-14, 21-17. คู่มือ 1 ลักษิกา กัลละหะ/ธนพิม กวีนันทวงศ์ (เชียงใหม่) ชนะ นัทธมน ไล้สวน/ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ (กาญจนบุรี) 2-1 เกม 18-21, 21-18, 21-17 และคู่มือ 2 พัทธรินทร์ เอี่ยมวารีศรีสกุล/อทิตยา โปวานนท์ (เชียงใหม่) ชนะ อลิษา ทรัพย์นิธิ/ชนัญชิดา จูเจริญ (กาญจนบุรี) 2-0 เกม 21-15, 21-11. ทำให้ สาวเชียงใหม่ โค่นแชมป์เก่า คว้าเหรียญทอง ทีมหญิง ได้เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกับหนุ่มสตูล.

ทีมหญิงเชียงใหม่ได้แสดงความแข็งแกร่งและสามารถดำเนินการได้ดีในรอบชิงชนะเลิศ. การแข่งขันของทีมหญิงเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้ชมสนุกและต้องตัดสินใจในคู่สุดท้าย.

คณะอนุกรรมการกีฬาแผนการดำเนินงาน Muaythai ปี 2568
2024-12-12
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา “บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ได้เป็นประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬาและประชุมครั้งที่ 2/2567 พร้อมกับหลายบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับกีฬา. ในประชุมนี้ได้สรุปสาระสำคัญดังต่อไป.

สรุปสาระสำคัญ

จากประชุมครั้งแล้วได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าเศรษฐกิจและวิธีการดำเนินงานในอุตสาหกรรมกีฬา. แผนการดำเนินโครงการ Muaythai Soft Power ปี 2568 ในไตรมาส 1-2 ได้กำหนดและเร่งรัดการดำเนินงานตามระยะเวลา.

การพิจารณารูปแบบการจัดการแข่งขันมวยไทย

มีการศึกษาปรับรูปแบบการจัดแข่งขันมวยไทยใหม่ ซึ่งรวมถึงการเฟ้นหาดาวรุ่งหน้าและสร้างโอกาสเพื่อต่อสู่เวทีระดับโลก. คณะทำงานต่าง ๆ ได้กำหนดรูปแบบแข่งขันในระดับต่าง ๆ เช่นจังหวัด, ภูมิภาคและประเทศ. รุ่นการแข่งขันจะตามมาตรฐาน 5 ด้าน.

การจัดงาน Muaythai World Festival โดยพิจารณาตามรายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ ได้กำหนดวันที่ 6 ก.พ. 68 วันมวยไทย. การจัดงานนี้จะมีความสำคัญมากและยิ่งใหญ่อลังการ สู่สายตาชาวโลก. จะมีกิจกรรมเช่นเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมแม่ไม้มวยไทย, นิทรรศการ, การแข่งขันและการแสดงมวยไทยเธียร์เตอร์และแฟชั่นมวยไทย พร้อมมอบรางวัลเกี่ยวกับมวยไทย. นอกจากนี้ยังมีโอกาสต้อนรับนักมวยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจให้กับประเทศ.

ทั้งนี้ในประชุมได้รับและนำเสนอความคิดเห็นด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนามวยไทยซอฟต์พาวเวอร์ต่อไป.

ความสำคัญของการจัดงาน

การจัดงาน Muaythai World Festival ไม่เพียงแค่เป็นการแข่งขัน แต่เป็นโอกาสเพื่อแพร่กระจายศิลปวัฒนธรรมแม่ไม้มวยไทยไปทั่วโลก. มันเป็นการสร้างความรู้จักและเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมกีฬาในประเทศ.

ด้วยการจัดงานนี้ได้สร้างโอกาสสำหรับนักมวยไทยที่มีคุณภาพเพื่อแสดงความสามารถของพวกเขาในระดับโลก. พร้อมกับนั้นยังเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานทางเศรษฐกิจและการสร้างความรู้จักของประเทศ.

การจัดงานนี้ยังเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและปรับปรุงรูปแบบการแข่งขันมวยไทยให้ดีขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้ดี.

See More
กกท.เตรียมปี 2568 เพื่อส่งเสริมกีฬาเป็นเลิศครบวงจร
2024-12-12
กกท.พอใจผลงานวงการกีฬาไทยในปี 2567 แผนปี 2568 ได้เตรียมเดินหน้าส่งเสริมกีฬาให้ความเป็นเลิศอย่างเป็นระบบครบวงจร. ดร.ก้องศักด ยอดมณี เปิดเผยว่า ปี 2567 วงการกีฬาไทยขยับอันดับขึ้นสู่การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และสามารถคว้าชัยชนะและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้. โดยเฉพาะการพัฒนานักกีฬาทีมชาติหน้าใหม่และประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับโลก เช่น การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2564 ไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 51 คน และพาราลิมปิกเกมส์ 2564 ไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 79 คน.

ผลงานในปี 2567

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ปี 2567 วงการกีฬาไทยขยับอันดับขึ้นสู่การแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ.ไทยสามารถคว้าชัยชนะและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้โดยเฉพาะการพัฒนานักกีฬาทีมชาติหน้าใหม่และประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับโลก. เช่น การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2564 ไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 51 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งด้านชนิดกีฬาและนักกีฬา โดยจำนวน 37 คนเป็นนักกีฬาหน้าใหม่. และไทยได้ 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง รวม 6 เหรียญรางวัล เป็นอันดับที่ 12 ของเอเชีย. เช่นเดียวกับพาราลิมปิกเกมส์ 2564 ไทยส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน 79 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และไทยได้ 6 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน 13 เหรียญทองแดง รวม 30 เหรียญรางวัล เป็นอันดันดับที่ 6 ของเอเชีย.

ดังนั้น ปี 2567 นั้นเป็นปีสำคัญสำหรับวงการกีฬาไทย โดยสามารถสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จให้กับประเทศไทยได้.

แผนปี 2568

ในปี 2568 กกท. จะดำเนินการต่างๆ ตามแผนวิสาหกิจการกีฬาแห่งประเทศไทย 2568 - 2572 ที่ได้กำหนดวิสัยทัศน์ “พัฒนาการกีฬาให้ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติและบริหารจัดการองค์กรอย่างมีมาตรฐาน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมให้กับประเทศอย่างยั่งยืน”. มีกิจกรรมสำคัญเช่น สนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติ ได้แก่ การจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาคนพิการแห่งชาติ และกีฬาอาวุโสแห่งชาติ. การเตรียมและส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติ เช่น เอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 12 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน เอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 4 ที่สาธาณรัฐอุซเบกิสถาน และเอเชียนอินดอร์และมาร์เชีย.

ลอาตส์เกมส์ 2565 ณ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น. นอกจากนี้ กกท. จะเดินหน้าสนับสนุนการจัดกิจกรรมและการแข่งขันกีฬาทุกระดับเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ. เช่น การจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ กีฬาอาชีพและกีฬามวย กีฬาเพื่อการท่องเที่ยวและนันทนาการ (Sports Tourism) ส่งเสริมการนำแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม (BCG Model) มาใช้ในการจัดกิจกรรมกีฬา.

ในปี 2568 กกท. ยังคงให้ความสำคัญในการส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศอย่างเป็นระบบครบวงจร. มุ่งเน้นการนำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้ในการพัฒนานักกีฬาและบุคลากรทางการกีฬาให้มีศักยภาพในระดับนานาชาติและต่อยอดสู่กีฬาอาชีพ. การพัฒนาระบบบริหารจัดการองค์กรในรูปแบบสมาร์ทออฟฟิศ และประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงศักยภาพความพร้อมด้านการจัดแข่งขัน และเป็นการประชาสัมพันธ์ให้นานาประเทศรู้จักประเทศไทยมากขึ้นอีกด้วย.

See More