Với việc Nghị định 168/2024/NĐ-CP chính thức có hiệu lực từ đầu năm 2025, người dân đặc biệt là những người thường xuyên sử dụng phương tiện giao thông cần lưu ý về các quy định mới. Các mức phạt đã được nâng cao so với trước đây, tạo nên mối quan tâm đáng kể trong cộng đồng. Trong dịp Tết, khi lượng phương tiện tăng đột biến, việc tuân thủ luật lệ giao thông trở nên cực kỳ quan trọng để tránh những hậu quả không mong muốn.
Bắt đầu từ năm 2025, việc vi phạm nồng độ cồn khi điều khiển phương tiện là một trong những lỗi phổ biến và nghiêm trọng nhất. Theo quy định mới, người lái ô tô có thể đối mặt với khoản phạt lên đến 40 triệu đồng nếu bị phát hiện vi phạm nồng độ cồn. Đối với người lái mô-tô hoặc xe máy, mức phạt cũng không kém phần nặng nề, lên đến 10 triệu đồng. Điều này cho thấy mức xử phạt đã tăng đáng kể so với quy định cũ.
Bên cạnh đó, việc điều khiển xe máy đi trên vỉa hè cũng là một lỗi vi phạm dễ gặp phải, với mức phạt từ 4 đến 6 triệu đồng. Những hành vi khác như chở hàng hóa quá khổ hay vượt đèn đỏ cũng đều là những sai phạm mà người tham gia giao thông cần hết sức chú ý. Việc này không chỉ giúp bảo vệ bản thân mà còn góp phần đảm bảo an toàn chung trên đường phố.
Trong thời điểm Tết, khi mọi người bận rộn với nhiều hoạt động, việc cẩn thận hơn trong việc tuân thủ luật lệ giao thông là vô cùng cần thiết. Người dân nên dành thời gian tìm hiểu kỹ các quy định mới để tránh mắc phải những lỗi vi phạm không đáng có. Sự chủ quan và bất cẩn có thể dẫn đến những hậu quả đáng tiếc, do đó hãy luôn giữ tinh thần cảnh giác cao khi tham gia giao thông.
การจากไปของ "ฉลอง ภักดีวิจิตร" ไม่ได้ทำให้งานในค่ายละครหยุดนิ่ง ในงานพระราชทานเพลิงศพที่วัดมกุฎกษัตริยาราม เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 พิมพ์สุภัค อินทรีย์ ภรรยาของฉลอง และป๋าโก๋ พิเชษฐ ศรีราชา ผู้สนับสนุนหลักของค่าย ได้เปิดเผยว่าจะสานต่องานต่อ โดยมอบหมายให้เอก รังสิโรจน์ เป็นผู้กำกับคนใหม่ สืบทอดสไตล์การทำงานของฉลอง ภักดีวิจิตร
พิมพ์สุภัค เผยว่าแม้จะเสียใจอย่างมากจากการจากไปของสามี แต่เธอมั่นใจว่าความทรงจำและความรักที่มีต่อกันจะคงอยู่ตลอดไป เธอยังระบุว่าเธอและป๋าโก๋ จะทำงานร่วมกันเพื่อสานต่องานของฉลอง ภักดีวิจิตร ให้สำเร็จตามที่เขาเคยทำไว้
เอก รังสิโรจน์ ซึ่งถูกเลือกให้เป็นผู้กำกับคนใหม่ของค่าย ได้กล่าวว่าเขายินดีและรู้สึกเป็นเกียรติในการรับตำแหน่งนี้ เขาได้เรียนรู้จากฉลองมาโดยตลอด และจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อรักษาคอนเซ็ปต์และการสร้างสรรค์ที่ฉลองเคยทำไว้ เขายังเน้นว่าแฟนๆ ละครจะได้เห็นผลงานใหม่ๆ ที่ยังคงรักษารูปแบบและสไตล์ของฉลอง ภักดีวิจิตร
ป๋าโก๋ ยืนยันว่าค่ายละครจะยังคงผลิตผลงานที่มีลายเซ็นของฉลอง ภักดีวิจิตร อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแนวบู๊ที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะสานต่อละครที่ฉลองเคยสร้างไว้ เช่น "พ่อตาปืนโต ตอนสาวกำนันพันธุ์ดุ" ซึ่งจะออกอากาศเร็วๆ นี้
แม้ว่าฉลอง ภักดีวิจิตร จะจากไปแล้ว แต่งานของเขาจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างเต็มที่ ผ่านการส่งต่อประสบการณ์และความรู้ให้กับเอก รังสิโรจน์ รวมถึงการสนับสนุนจากพิมพ์สุภัค และป๋าโก๋ แฟนๆ ละครสามารถคาดหวังผลงานใหม่ๆ ที่ยังคงรักษารูปแบบและสไตล์ของฉลอง ภักดีวิจิตร ได้อย่างแน่นอน
บริษัท GDH ได้เปิดตัวภาพยนตร์แนว Drama coming of Age เรื่อง "แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เรากัน" ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของสองสาววัยรุ่นที่อาศัยอยู่ในแฟลตแห่งหนึ่ง โดยไม่ว่าฐานะทางการเงินจะแตกต่างกันเพียงใด แต่ความสัมพันธ์และความเข้าใจระหว่างพวกเธอยังคงแน่นแฟ้น ในภาพยนตร์เรื่องนี้ผู้ชมจะได้สำรวจมิตรภาพ การเผชิญหน้ากับความจริง และการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ผ่านการแสดงของนักแสดงนำอย่างเอินเอิน ฟาติมา และแฟร์รี่ กิรณา รวมถึงนักแสดงคุณภาพอีกมากมาย
บรรยากาศภายในงานเปิดตัวภาพยนตร์
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท GDH ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง "แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เรากัน" ณ ลานหน้าห้องออดิทอเรียม ชั้น 21 อาคาร GMM GRAMMY PLACE ซึ่งถูกตกแต่งให้เสมือนเป็นห้องพักในแฟลตที่สะท้อนความแตกต่างทางฐานะของตัวละคร ภายในงานได้มีการเชิญโปรดิวเซอร์และผู้กำกับฯ มาร่วมพูดคุยถึงไอเดียและการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Trailer ภาพยนตร์เป็นครั้งแรก พร้อมกิจกรรมเกมสนุกๆ และการแสดงเพลงจากนักแสดงนำที่ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสนุกสนาน ภาพยนตร์เรื่องนี้มีกำหนดออกฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้
ภาพยนตร์เรื่อง "แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่าง เรากัน" เป็นการสำรวจความสัมพันธ์และการเติบโตของวัยรุ่นในสังคมที่มีความแตกต่างทางฐานะ ผ่านเรื่องราวของสองสาวที่อาศัยอยู่ในแฟลต ภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเข้าใจและยอมรับความแตกต่าง รวมถึงการใช้ชีวิตและการเติบโตที่ไม่สามารถกำหนดได้ด้วยฐานะทางการเงินเท่านั้น