Zunächst geben wir Backpapier in eine Auflaufform und legen darauf den Mürbeteig aus. Danach backen wir ihn gemäß den Packungsanweisungen. Währenddessen befreien wir die Grünkohlblätter vom Strunk, waschen sie gründlich und schneiden sie sehr klein. Spitzpaprika und Birne putzen und in kleine Würfel schneiden. Den Feta zerbröseln. In einer Schüssel geben wir Eier, Sauerrahm und gegebenenfalls ein wenig Milch und verquirlen sie mit einem Schneebesen. Mit Muskatnuss, Salz und Pfeffer würzen wir alles.
Danach belegen wir den vorgebackenen Mürbeteig mit Grünkohl, Spitzpaprika, Birne und Feta und geben die Ei-Sauerrahm-Milch-Mischung darüber. Die Quiche backen wir 45 Minuten bei 160 Grad (Umluft). Nach dem Backen lassen wir sie kurz auskühlen, damit sie schnittfest wird.
Grünkohl ist ein wunderbares Wintergemüse, das voll von Vitaminen ist. Der krause Kohl hat kaum Kalorien und sättigt uns gut. Er schmeckt nicht nur wunderbar mit Wurst und Kasseler, sondern auch vegetarisch. Es gibt zahlreiche Rezepte und Tipps zur Zubereitung, mit denen wir Grünkohl in vielen verschiedenen Formen genießen können.
Wir freuen uns, dass dieses Thema im Programm vorgesehen ist. Am 26.11.2024 können Sie eine Visite abstatten und uns dabei bei der Zubereitung dieser köstlichen Quiche begleiten. Es wird ein unvergessliches Erlebnis sein!
กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา มอบรางวัลเชิดชูเกียรติเมืองสุขภาพดีระดับประเทศและรางวัลเครือข่ายเมืองสุขภาพดีระดับภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออก (SEAR). รวมทั้งเปิดจุดบริการน้ำประปาสะอาดดื่มได้และทีม SEhRT เขตสุขภาพที่ 12 โดยมี คณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขและคณะผู้บริหารจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่. โครงการน้ำประปาดื่มได้ได้ดำเนินการมายาวนานถึง 25 ปี ภายใต้การรับรองคุณภาพน้ำประปาดื่มได้. ปัจจุบันมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผ่านการรับรองคุณภาพน้ำประปาดื่มได้เพียง 21 แห่ง.
เทศบาลตำบลปริกเป็นแห่งที่ 22และเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ขานรับนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในประเด็น “น้ำสะอาดฟรี ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน”เป็นต้นแบบที่ดีที่จะขยายผลสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศต่อไป.
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางไปเปิดกิจกรรมรณรงค์ขับเคลื่อนทีมปฏิบัติการ SEhRT เขตสุขภาพที่ 12 ณ โรงแรมคริสตัล หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา. การดำเนินงานเพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขเป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพของประชาชน. กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมอนามัย ได้สร้างกำลังคน พัฒนาระบบและกลไกการปฏิบัติภารกิจของทีม SEhRTและสนับสนุนทรัพยากรที่จำเป็น. ทั้งวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือสำหรับทีมปฏิบัติการมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การปฏิบัติการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมในภาวะฉุกเฉินสามารถรองรับการให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างครอบคลุมและสร้างเครือข่ายทีม SEhRTทุกพื้นที่ทั่วประเทศ.
การจัดงานกิจกรรมรณรงค์เปิดปฏิบัติการทีม SEhRTในครั้งนี้ ได้ทำการฝึกอบรม เพิ่มทักษะและขีดความสามารถให้กับเจ้าหน้าที่ทีม SEhRTทุกระดับในพื้นที่จังหวัดสงขลาในฐานะพื้นที่นำร่องให้สามารถจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม การสุขาภิบาลและดูแลปกป้องคุ้มครองสุขภาพของพี่น้องประชาชนในจังหวัดสงขลาได้อย่างครอบคลุมมากกว่า 1 ล้านคน.
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติ สาธารณภัยและภาวะฉุกเฉินที่มีความรุนแรงมากขึ้น. ทั้งโรคระบาด โรคอุบัติใหม่ อุทกภัย ภัยร้อน ภัยแล้ง ไฟไหม้ ฝุ่นละออง PM2.5 รวมถึงภัยจากสารเคมีรั่วไหล ระเบิด ส่งผลให้ประชาชนเจ็บป่วย บาดเจ็บและเสียชีวิต. จากข้อมูลศูนย์เฝ้าระวังภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขของกรมอนามัย เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 พบเหตุภัยพิบัติมากกว่า 700 พื้นที่ มีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบมากกว่า 160,000 ครัวเรือนและกระทบสุขภาพประชาชนกว่า 1 ล้านคน.
กรมอนามัยจึงมีแนวทางการดำเนินงานเพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขร่วมกับภาคีเครือข่ายมาอย่างต่อเนื่องผ่านการปฏิบัติการของทีม SEhRTระดับศูนย์อนามัยที่มีความพร้อมลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมลดความเสี่ยงของประชาชนโดยเน้นการสำรวจ ประเมิน เฝ้าระวังความเสี่ยงจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม.
สำหรับ การดำเนินงาน 3C อำเภอน้ำประปาสะอาดเป็นการดำเนินงานภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่ต้องจัดหาน้ำดื่มที่สะอาดและเพียงพอให้กับประชาชน. ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDGs ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ. สำหรับประเทศไทย กำหนดเป็นแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมีกรมอนามัยขับเคลื่อนการดำเนินงานพัฒนาคุณภาพน้ำบริโภคเพื่อมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพน้ำประปาให้ได้มาตรฐานทุกแหล่งผลิต. โดยเฉพาะน้ำประปาหมู่บ้านที่มีมากถึง 69,028 แห่งและส่วนมากก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร.
การจัดการคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านให้ได้มาตรฐานเป็นภารกิจที่สำคัญต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย ภายใต้แนวคิดน้ำประปาหมู่บ้านสะอาดด้วยหลักการ 3C Clear Clean Chlorine สนับสนุน ส่งเสริมให้มีการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบประปาหมู่บ้านขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับจังหวัดโดยอาศัยความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและคณะกรรมการบริหารกิจการและดูแลรักษาระบบประปาหมู่บ้านเพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำประปาหมู่บ้านให้ได้มาตรฐานทัดเทียมน้ำประปาในเขตเมือง.