เมื่อคืนวันที่ 1 มีนาคม เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมบนสะพานฉิมพลี เมื่อรถบรรทุกพ่วงชนเข้ากับรถขนอุปกรณ์ของคณะลิเกชื่อดัง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะฯ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากรถขนอุปกรณ์จอดเสียและไม่มีแสงสว่างเพียงพอ ทำให้รถบรรทุกพ่วงที่ขับมาตามเลนซ้ายไม่สามารถมองเห็นได้ทันเวลา
เหตุการณ์ครั้งนี้เริ่มต้นเมื่อรถบรรทุกพ่วงขนาดใหญ่พุ่งชนเข้ากับรถขนอุปกรณ์ของคณะลิเกที่จอดอยู่บริเวณเชิงสะพาน มีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายจากการกระเด็นตกจากสะพาน สร้างความเศร้าโศกให้แก่ครอบครัวและทีมงานของคณะลิเก
ในคืนวันที่ 1 มีนาคม ประมาณเที่ยงคืน ได้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงบนสะพานฉิมพลี ระหว่างถนนกาญจนาภิเษก เมื่อรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อพุ่งชนเข้ากับรถบรรทุก 6 ล้อที่จอดเสียอยู่บริเวณเชิงสะพาน ทำให้ผู้ชายอายุ 53 ปี ซึ่งกำลังยืนโบกรถที่ท้ายรถ ถูกกระแทกและกระเด็นตกจากสะพานลงมาด้านล่าง ซึ่งมีความสูงประมาณ 5 เมตร ทำให้เขาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อครอบครัวและทีมงานของคณะลิเก โดยเฉพาะพระเอกลิเกชื่อดังที่แสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสียครั้งนี้
หลังจากเกิดเหตุการณ์ พระเอกลิเกชื่อดังได้เดินทางมาที่เกิดเหตุโดยทันที เพื่อให้ความช่วยเหลือและแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต เขาเผยว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนสำคัญของคณะฯ และมีความผูกพันแน่นแฟ้นเหมือนญาติสนิท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้สอบปากคำผู้ขับขี่ทั้งสองคนเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ขณะที่ร่างผู้เสียชีวิตได้ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลศิริราชเพื่อตรวจพิสูจน์ ก่อนที่จะมอบให้ครอบครัวนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ในช่วงเริ่มต้นปีใหม่ ยอดจำหน่ายยานพาหนะทั่วประเทศประสบภาวะการชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ที่มียอดขายรวมเพียง 48,092 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 12.3% สาเหตุหลักมาจากภาระหนี้สินครัวเรือนที่ยังคงสูง ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่าย นอกจากนี้ การซื้อรถยนต์นั่งและรถกระบะขนาด 1 ตัน ก็ลดลงมากกว่าประเภทอื่น ๆ
แม้ว่าจะมีแนวโน้มการชะลอตัวในเดือนมกราคม แต่ภาคธุรกิจยานยนต์ยังคงหวังว่ามาตรการทางการเงินจากธนาคารกลางจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 2% ต่อปี อาจช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์จำเป็นต้องไปพร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งต้องใช้เวลาและความร่วมมือจากหลายฝ่าย
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการวางแผนทางการเงินและการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างรอบคอบ เพื่อรองรับความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจ การปรับตัวอย่างรวดเร็วและยืดหยุ่นของภาคเอกชน จะช่วยให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างราบรื่น และสร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับอนาคตที่สดใสขึ้น