เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ในคืนวันที่ 13 มกราคม 2568 เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงบนถนนสายบายพาส ใกล้โรงพยาบาลค่ายวิภาวดี เมืองสุราษฎร์ธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสหลายราย รถตุ๊กๆ ซึ่งกำลังวิ่งบริการรอบเมืองได้พุ่งชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อที่จอดอยู่ข้างทาง ส่งผลให้คนขับรถตุ๊กๆ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 6 คน อีก 1 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทันท่วงที
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เกิดความสูญเสียอย่างยิ่ง ผู้ขับขี่รถตุ๊กๆ ซึ่งเป็นคนขับประจำเส้นทางตลาดเกษตร 2 ถึงรอบเมือง สูญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุจากการชนท้ายรถบรรทุกไม้ยางพาราที่จอดเสียอยู่ข้างทาง สภาพรถตุ๊กๆ พังยับเยินจนคนขับติดอยู่ภายใน
ผู้ขับขี่คนดังกล่าวชื่อนายหมัดเซน หมัดอ่าดัม หรือที่รู้จักกันในชื่อ "บังเซน" มีผู้โดยสารรวม 7 คน ขณะเกิดเหตุ ทั้งหมดมาจากตำบลท่าทองใหม่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีผู้บาดเจ็บสาหัส 6 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลทันที
หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่บาดเจ็บสาหัส 6 คน ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังในการนำตัวออกจากสภาพรถที่พังยับเยิน การตอบสนองที่รวดเร็วนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของผู้บาดเจ็บ
ทีมกู้ภัยได้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของการชนท้ายรถบรรทุก ซึ่งอาจเนื่องมาจากความมืดหรือสภาพถนนที่ไม่ชัดเจน นอกจากนี้ ยังมีประชาชนผู้ใจบุญที่เข้ามาช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย ทำให้การช่วยเหลือดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุและเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบว่ารถบรรทุกพ่วงซึ่งกำลังจะเลี้ยวซ้ายเข้าโกดังเพื่อนำปุ๋ยมาส่ง ถูกชนท้ายโดยรถบรรทุก 6 ล้อที่บรรทุกชิ้นส่วนไก่สด ภายในรถบรรทุก 6 ล้อพบผู้เสียชีวิตเป็นคนขับ ทราบชื่อต่อมาคือนายบุญเลิศ อายุ 57 ปี จากจังหวัดสุพรรณบุรี
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรอยเบรกของรถบรรทุก 6 ล้อทอดยาวจนถึงจุดที่เกิดการชน ขณะเดียวกันชิ้นส่วนไก่สดและถังบรรจุไก่สดกระจัดกระจายอยู่บนถนน แสดงให้เห็นถึงแรงกระแทกอย่างรุนแรง
นายวีรชาติ อายุ 43 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วงที่บรรทุกปุ๋ยมาจากจังหวัดกาฬสินธุ์ เล่าว่า เขาได้ชะลอรถลงเมื่อใกล้ถึงโกดังที่จะนำปุ๋ยมาส่ง ในขณะนั้นได้ยินเสียงดังโครมทำให้รถสะเทือน และพบว่ามีรถบรรทุกมาชนท้ายจนคนขับเสียชีวิต
นายวีรชาติยังกล่าวเสริมว่า เขาไม่คาดคิดว่ารถบรรทุก 6 ล้อจะตามมาด้วยความเร็วสูงขนาดนี้ และไม่มีท่าทีจะชะลอรถลง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการชนท้ายครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด และพบว่ารถบรรทุกพ่วงได้ชะลอรถลงแล้วในขณะที่รถบรรทุก 6 ล้อวิ่งตามหลังมาด้วยความเร็วสูงและพุ่งชนท้ายอย่างแรง ทำให้ชิ้นส่วนไก่สดที่บรรจุอยู่ในกระบะกระจายเกลื่อนถนน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้นำตัวนายวีรชาติ และพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปสอบสวน เพื่อรวบรวมข้อมูลและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
เหตุการณ์นี้ทำให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยบนถนน โดยเฉพาะสำหรับรถบรรทุกที่มีน้ำหนักมากและบรรทุกสินค้าที่อาจสร้างความเสี่ยงหากเกิดอุบัติเหตุ เช่น การใช้ระบบเบรก ABS หรือการตรวจสอบสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ควรเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่บนถนนสายสำคัญที่มีปริมาณรถมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีการขนส่งสินค้าจำนวนมาก เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน
บริษัท BYD มุ่งมั่นในการขยายธุรกิจในแอฟริกาใต้ด้วยการเปิดตัวยานพาหนะหลากหลายรุ่น โดยเฉพาะรถกระบะปลั๊กอินไฮบริด BYD SHARK ในปี 2025 ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวแอฟริกาใต้ที่ชื่นชอบยานพาหนะประเภทปลั๊กอินไฮบริดมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าล้วน บริษัทยังวางแผนที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดและยานพาหนะสำหรับการพาณิชย์ เพื่อครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ของตลาด
BYD ได้เตรียมเปิดตัวรถกระบะปลั๊กอินไฮบริด BYD SHARK ในช่วงต้นปี 2025 ซึ่งได้รับการออกแบบมาสำหรับตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ รุ่นนี้มีความสามารถในการลากจูงสูงถึง 2,500 กก. และมีสมรรถนะที่โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีกำลังขับรวมสูงถึง 429 แรงม้า
BYD SHARK สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม DMO ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ทำให้มีกำลังขับรวมทั้งหมดมากถึง 320 kW 429 แรงม้า และแรงบิด 650 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที ยานพาหนะรุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP ความจุ 29.6 kWh สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 100 กม. (NEDC) และระยะทางรวมทั้งหมด (น้ำมันเต็มถัง+แบตเตอรี่เต็ม) 840 กม. แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการใช้งาน
นอกจากการเปิดตัว BYD SHARK แล้ว BYD ยังมีแผนที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดและยานพาหนะสำหรับการพาณิชย์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของตลาดแอฟริกาใต้ บริษัทได้ตั้งเป้าที่จะขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเป็น 25 แห่งภายในสิ้นปีหน้า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ
ตามแหล่งข่าว BYD จะเปิดตัวรุ่นใหม่จำนวนมากในแอฟริกาใต้ ไม่ได้มีการเปิดเผยว่ารุ่นใด จะเข้าสู่ตลาดแอฟริกาใต้บ้าง อย่างไรก็ตาม Steve Chang ผู้จัดการทั่วไปของ BYD South Africa กล่าวว่าบริษัทกำลังพยายามเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในตลาดแอฟริกาใต้ด้วยช่วงราคาระหว่าง 300,000 – 350,000 แรนด์แอฟริกาใต้ สื่อคาดว่าเป็น BYD Seagull ซึ่งเป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุดของ BYD ในปัจจุบัน บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มธุรกิจรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เนื่องจากประสบความสำเร็จในการขายรถบัส 120 คัน จากบริษัท Golden Arrow