บริษัท BYD มุ่งมั่นในการขยายธุรกิจในแอฟริกาใต้ด้วยการเปิดตัวยานพาหนะหลากหลายรุ่น โดยเฉพาะรถกระบะปลั๊กอินไฮบริด BYD SHARK ในปี 2025 ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าชาวแอฟริกาใต้ที่ชื่นชอบยานพาหนะประเภทปลั๊กอินไฮบริดมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าล้วน บริษัทยังวางแผนที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดและยานพาหนะสำหรับการพาณิชย์ เพื่อครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ของตลาด

การเปิดตัว BYD SHARK ในแอฟริกาใต้

BYD ได้เตรียมเปิดตัวรถกระบะปลั๊กอินไฮบริด BYD SHARK ในช่วงต้นปี 2025 ซึ่งได้รับการออกแบบมาสำหรับตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะ รุ่นนี้มีความสามารถในการลากจูงสูงถึง 2,500 กก. และมีสมรรถนะที่โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้มีกำลังขับรวมสูงถึง 429 แรงม้า

BYD SHARK สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม DMO ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ทำให้มีกำลังขับรวมทั้งหมดมากถึง 320 kW 429 แรงม้า และแรงบิด 650 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที ยานพาหนะรุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ LFP ความจุ 29.6 kWh สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 100 กม. (NEDC) และระยะทางรวมทั้งหมด (น้ำมันเต็มถัง+แบตเตอรี่เต็ม) 840 กม. แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการใช้งาน

แผนการขยายธุรกิจในแอฟริกาใต้

นอกจากการเปิดตัว BYD SHARK แล้ว BYD ยังมีแผนที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดและยานพาหนะสำหรับการพาณิชย์ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของตลาดแอฟริกาใต้ บริษัทได้ตั้งเป้าที่จะขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเป็น 25 แห่งภายในสิ้นปีหน้า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ

ตามแหล่งข่าว BYD จะเปิดตัวรุ่นใหม่จำนวนมากในแอฟริกาใต้ ไม่ได้มีการเปิดเผยว่ารุ่นใด จะเข้าสู่ตลาดแอฟริกาใต้บ้าง อย่างไรก็ตาม Steve Chang ผู้จัดการทั่วไปของ BYD South Africa กล่าวว่าบริษัทกำลังพยายามเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในตลาดแอฟริกาใต้ด้วยช่วงราคาระหว่าง 300,000 – 350,000 แรนด์แอฟริกาใต้ สื่อคาดว่าเป็น BYD Seagull ซึ่งเป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุดของ BYD ในปัจจุบัน บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มธุรกิจรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เนื่องจากประสบความสำเร็จในการขายรถบัส 120 คัน จากบริษัท Golden Arrow

เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการประชุมสำคัญเพื่อรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากรถสามล้อรับจ้างในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนเยาวราช ซึ่งได้รับการร้องเรียนเป็นจำนวนมาก การประชุมนี้นำโดยสมาชิกสภากรุงเทพฯ และผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อค้นหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว เช่น การจอดรถในพื้นที่ห้ามจอด การดัดแปลงท่อไอเสียทำให้เกิดมลพิษทางเสียง และการคิดค่าโดยสารเกินจริง ผลจากการประชุมนี้จะนำไปสู่มาตรการที่ยั่งยืนและประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้

รายละเอียดของการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหารถสามล้อรับจ้าง

ในวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2568 สมาชิกสภากรุงเทพฯ ได้ร่วมประชุมกับที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. รองปลัดกทม. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ผู้แทนสถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย 2 และจักรวรรดิ เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหารถสามล้อรับจ้างที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ประเด็นสำคัญที่ถูกพูดถึงคือ การจอดรถในพื้นที่ห้ามจอด การดัดแปลงท่อไอเสียทำให้เกิดเสียงดัง และการคิดค่าโดยสารเกินจริง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย

ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจำเป็นต้องแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน โดยเลือกถนนเยาวราชเป็นจุดเริ่มต้นในการทดลองมาตรการใหม่ หลังจากนั้นจะขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ สมาชิกสภากรุงเทพฯ จะรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมและผลักดันประเด็นนี้ไปยังกระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จากมุมมองของผู้เขียน รายงานนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของภาครัฐในการแก้ไขปัญหาที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนและนักท่องเที่ยว การดำเนินการนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยลดปัญหาจราจรและการมลพิษทางเสียงเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศในการต้อนรับนักท่องเที่ยว หวังว่าการแก้ไขปัญหาเหล่านี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและยั่งยืนสำหรับทุกคน