เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2568 เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าในจังหวัดระยอง เมื่อยานพาหนะชนเสาริมทางและตกลงไปในบ่อดินเก่าที่มีน้ำลึกถึง 30 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและหน่วยกู้ภัยเร่งดำเนินการค้นหาผู้ประสบภัย โดยยืนยันว่ามีผู้ขับขี่อย่างน้อยหนึ่งคนภายในยานพาหนะ แต่จำนวนผู้โดยสารยังไม่ชัดเจน ขณะนี้กำลังเตรียมความพร้อมในการนำยานพาหนะขึ้นจากพื้นที่เกิดเหตุ
สถานที่เกิดเหตุอยู่ในหมู่ 2 ตำบลทับมา อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ในบริเวณบ่อดินเก่าที่มีสภาพเป็นบ่อขนาดใหญ่เต็มไปด้วยน้ำ ทีมงานพบชิ้นส่วนของยานพาหนะที่หลุดออกจากรถและเสาปูนที่หักเนื่องจากการชน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของเหตุการณ์ ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองระยองและหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศลจังหวัดระยองได้ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
นายจุมพล พูลนิน สมาชิกหน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศลจังหวัดระยอง เปิดเผยว่า การตรวจสอบเบื้องต้นยืนยันว่ายานพาหนะที่ตกลงไปมีผู้ขับขี่แน่นอน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีผู้โดยสารเพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากสภาพภายในรถยังไม่ชัดเจน เขาเสริมว่าทีมกู้ภัยกำลังวางแผนเพื่อทำการยกยานพาหนะขึ้นจากบ่อดิน
ทีมกู้ภัยทางน้ำของสว่างพรกุศลจังหวัดระยองได้นำเรือเข้าพื้นที่แล้ว เพื่อเตรียมการยกยานพาหนะขึ้นจากน้ำ หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นการตอบสนองฉุกเฉินที่สำคัญ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่อาจอยู่ภายในยานพาหนะและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชนในบริเวณใกล้เคียง
การเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2568 เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางโค้งบนถนนสาย 3193 ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 4 และ 5 ในเขตอำเภโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี รถตู้โดยสารที่กำลังมุ่งหน้าไปยังตลาดชายแดนผักกาดประสบปัญหายางระเบิดและเสียการควบคุมจนพลิกคว่ำ
ทันทีที่ทราบข่าวอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่จากหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน อาสาสมัครกู้ภัย และทหารจากค่ายเทวาพิทักษ์ได้ร่วมกันเร่งเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะผู้หญิงอายุประมาณ 60 ปีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกแรงเหวี่ยงออกข้างกระจกรถและถูกรถทับ ส่วนผู้โดยสารอีก 7 คนจากทั้งหมด 13 คนที่อยู่ในรถตู้ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ทุกคนถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลโป่งน้ำร้อนเพื่อรับการรักษาทันที
การตรวจสอบสภาพรถพบว่า ยางหน้าด้านขวาของรถตู้อาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ แม้ว่าผู้ขับขี่จะยืนยันว่าได้ทำการตรวจสภาพรถและเปลี่ยนยางใหม่ก่อนเดินทาง แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบสภาพรถยนต์ก่อนการเดินทาง การเตรียมตัวสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินและการมีระบบความปลอดภัยที่ดีในการขนส่งสาธารณะเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
ในยุคที่ความปลอดภัยของอาหารเป็นประเด็นสำคัญ มาตรฐานการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีได้ถูกกำหนดขึ้นโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อยกระดับคุณภาพและการปฏิบัติงานในฟาร์มสัตว์น้ำ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การเลี้ยง การจับ และการขนส่งสัตว์น้ำไปจนถึงกระบวนการหลังการจับ มีการกำหนดข้อกำหนดสำคัญ 9 ข้อ เช่น การจัดการคุณภาพสัตว์น้ำ การใช้ยาสัตว์ และการเก็บข้อมูล ทำให้เกษตรกรสามารถขอรับรองสัตว์น้ำหลายชนิดภายใต้มาตรฐานเดียว สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและธุรกิจแปรรูป
ฟาร์มปูนาแห่งแรกที่เข้าสู่มาตรฐานใหม่
ในเมืองหลวงที่พลุกพล่าน ในเขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ฟาร์มหนึ่งได้กลายเป็นที่สนใจของวงการเกษตร นั่นคือ "ฟาร์มแคร๊บเฮ้าส์" ซึ่งตั้งอยู่ในแขวงท่าข้าม ที่นี่ได้ก้าวเข้าสู่มาตรฐานการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อการบริโภค หรือ มกษ. 7436-2563 เป็นแห่งแรก ฟาร์มแห่งนี้เริ่มต้นจากโครงการทดลองเลี้ยงปูนาในบ่อดินและบ่อปูน แต่ผลผลิตไม่เป็นที่น่าพอใจ จึงเปลี่ยนมาใช้วิธีการเพาะเลี้ยงในกระชังพลาสติก เพื่อลดปัญหาการปนเปื้อนดินโคลนและปรสิต ซึ่งวิธีการนี้ได้รับการขนานนามว่า "การเพาะเลี้ยงปูนาในกระชังน้ำใส"
ปัจจุบัน ฟาร์มแคร๊บเฮ้าส์ได้มีการนำปูนาไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น ปูนาน้ำใสดอง หลนปูนา และลาบปูนา ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก แต่เนื่องจากผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ ฟาร์มได้ขยายเครือข่ายลูกฟาร์มทั่วประเทศ และจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ปูนาแบบครบวงจร เพื่อสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยในการเพาะเลี้ยงปูนาเชิงการค้า ตอบสนองความต้องการของตลาดที่มีตลอดทั้งปี
จากมุมมองของผู้สื่อข่าว มาตรฐานใหม่นี้ไม่เพียงแค่ยกระดับคุณภาพสินค้า แต่ยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการแปรรูปสินค้า นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความไว้วางใจให้กับผู้บริโภค ที่จะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพและปลอดภัย นับเป็นการยกระดับภาคการเกษตรไทยในระดับสากล