ในอินเดียหลังชาย 3 คนเสียชีวิตเนื่องจากรถของพวกเขาเบี่ยงขึ้นสะพานที่ยังสร้างไม่เสร็จและตกลงไปในก้นแม่น้ำ. ตำรวจยังคงสืบเหตุการณ์และเชื่อว่ากูเกิลแมปนำทางให้กลุ่มชายใช้เส้นทางที่ไม่เหมาะสม. ส่วนหนึ่งของสะพานพังถล่มเนื่องจากน้ำท่วมและผู้เสียชีวิตไม่ทราบข้อมูลดังกล่าว.
ตำรวจได้ระบุชื่อวิศวกร 4 คนและเจ้าหน้าที่ของกูเกิลแมปที่ไม่ได้เปิดเผยนามในการแจ้งข้อหาตามฐานความผิดเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม. แอปพลิเคชันกูเกิลแมปเป็นแอปพลิเคชันนำทางที่ได้รับความนิยมมากในอินเดีย แต่หลังจากพบว่ามีการนำทางไม่ถูกต้องบางครั้งจะนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงเช่นชายคนหนึ่งจากรัฐมหาราษฏระจมน้ำตายและแพทย์หนุ่ม 2 คนในรัฐเกรละเสียชีวิต.
สัญญาณจีพีเอส (GPS) จากแอปพลิเคชันของผู้ใช้จะติดตามการเปลี่ยนแปลงของการจราจรตลอดเส้นทางและแนะนำเส้นทางที่บ่งชี้ว่ามีการใช้งานน้อยกว่า. แอปพลิเคชันยังได้รับข้อมูลที่อัปเดตจากหน่วยงานของรัฐบาลและผู้ใช้งานว่าเส้นทางใดมีการจราจรติดขัดหรือปิดเส้นทาง.
อาชิช แนร์บอกว่าการร้องเรียนเกี่ยวข้องกับการจราจรหนาแน่นหรือการแจ้งเตือนที่มาจากหน่วยงานโดยตรงจะถูกจัดลำดับความสำคัญไว้อันดับต้นเนื่องจากกูเกิลไม่มีกำลังคนเพียงพอที่จะจัดการกับข้อร้องเรียนหลายล้านรายการทุกวัน. ผู้ให้บริการแผนที่จะใช้ภาพถ่ายดาวเทียม, กูเกิลสตรีทวิวและการแจ้งเตือนของรัฐบาลเพื่อยืนยันการเปลี่ยนแปลงและทำการอัปเดตแผนที่.
อินเดียไม่มีระบบที่แข็งแกร่งสำหรับการรายงานปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าวได้ทันเวลา. ข้อมูลยังคงเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในอินเดียและไม่มีระบบสำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานที่จะเข้าสู่ระบบเว็บอินเทอร์เฟส. ด้วยประชากรจำนวนมากและการพัฒนาที่รวดเร็ว ทำให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่แม่นยำนั้นเป็นเรื่องท้าทายมากกว่าเดิม.
แผนที่ที่ไม่ดีจะคงมีอยู่จนกว่ารัฐบาลจะกระตือรือร้นมากขึ้นในการเก็บรวบรวมข้อมูลและแบ่งปันข้อมูล. ส่วนทางทนายความยังเสียงแตกว่าแอปพลิเคชันจีพีเอสต้องรับผิดชอบตามกฎหมายหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนหรือไม่.
ไซมา ข่านทนายความกล่าวว่ากำลังให้สถานะแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างกูเกิลแมปว่าเป็น “ตัวกลาง”และได้รับความคุ้มครองจากการรับผิด. แต่ถ้าแพลตฟอร์มไม่ได้แก้ไขข้อมูลอย่างทันท่วงทีแม้จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง แอปพลิเคชันก็ต้องรับผิดชอบต่อความประมาทเลินเล่อดังกล่าว.
จากรายงานผู้สื่อข่าว, หลังจากฝนหยุดตกหนักจากวานนี้ 30 พ.ย 67 จนถึงเช้าวันนี้ 1 ธ.ค 67, ปริมาณน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ได้ลดลงแต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติเต็มที่. ในบางพื้นที่, รถยนต์ของประชาชนที่หนีน้ำไม่ทันและพลิกด้วยความแรงของกระแสน้ำ, ซึ่งเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งหนักสุดในรอบกว่า 30 ปี.
ในชุมชนบ้านร่ม, ชุมชนสะเตง, ชุมชน สาย 15 และอื่นๆ, บางพื้นที่น้ำลดจนเข้าสู่ภาวะปกติแล้วแต่บางจุดยังมีน้ำท่วม. ชาวบ้านต่างเร่งฟื้นฟูและทำความสะอาดบ้านหลังโดนน้ำท่วมขังนานถึง 4 วัน.
ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยวาตภัยและดินถล่มของจังหวัดยะลาได้รายงานว่ากลับจากฝนตกหนักในพื้นที่จากวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567, บ้านเรือน,ทรัพย์สินของประชาชน,สถานศึกษาและสิ่งสาธารถประโยชน์ได้รับความเสียหาย. จำนวน 8 อำเภอ 58 ตำบล 358 หมู่บ้าน 45 ชุมชนประชาชนได้รับผลกระทบ 43,168 ครัวเรือน 181,797 คน. เสียชีวิต 2 ราย อพยพ 1,644 ครัวเรือน 5,375 คน (ยะหา รามันและเมืองยะลา).
ถนน 196 สายและสะพาน 10 แห่งเสาไฟฟ้า 41 ต้นและโรงเรียน 169 แห่งก็ได้รับความเสียหาย. ในขณะนี้, ฝนในพื้นที่เริ่มหยุดตกหนักและระดับน้ำเริ่มลดลง.
ในพื้นพื้นที่เริ่มคลี่คลายแล้ว 5 อำเภอ คือ อำเภอบันนังสตา, กาบัง, กรงปินัง, ธารโตและอำเภอเบตง. ส่วนอำเภอยะหา, เมืองยะลาและอำเภอรามันยังคงมีน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่.
จังหวัดยะลาได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ. จำนวน 8 อำเภอ 58 ตำบล 352 หมู่บ้าน 46 ชุมชน 1 เทศบาลตำบล. แนวโน้มสถานการณ์ฝนเริ่มหยุดตกหนักและระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำปัตตานีและคลองสาขาเริ่มลดระดับลง.