รถ
ส.อ.ท. ตั้งเป้าผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ปี 2568
2025-01-28

ในปี พ.ศ. 2568 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้ประกาศเป้าหมายการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าผลิตรถยนต์จำนวน 1,500,000 คัน และรถจักรยานยนต์จำนวน 2,100,000 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์นี้พิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น อัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน และภาวะเศรษฐกิจโลก

รายละเอียดการผลิตและการขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ปี 2568

ในช่วงเวลาที่เปลี่ยนผ่านสู่ปีใหม่ ส.อ.ท. ได้กำหนดแผนการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์สำหรับปี พ.ศ. 2568 ไว้อย่างชัดเจน สำหรับรถยนต์ ตั้งเป้าผลิตรวม 1,500,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.11 จากปีที่แล้ว โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออก 1,000,000 คัน และจำหน่ายภายในประเทศ 500,000 คัน ขณะเดียวกัน รถจักรยานยนต์ตั้งเป้าผลิตรวม 2,100,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.28 ซึ่งแบ่งเป็นการส่งออก 400,000 คัน และจำหน่ายภายในประเทศ 1,700,000 คัน

นอกจากนี้ ส.อ.ท. ยังประเมินว่าปัจจัยบวกที่จะสนับสนุนการผลิตและจำหน่ายในประเทศรวมถึงโครงการรถยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 ที่จะช่วยกระตุ้นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เศรษฐกิจที่ขยายตัว การท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะช่วยเสริมกำลังซื้อของประชาชน ในทางตรงกันข้าม ปัจจัยลบ เช่น ความเข้มงวดในการปล่อยคาร์บอนและภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกและการผลิตในอนาคต

สำหรับยอดขายรถยนต์ในปี พ.ศ. 2567 อยู่ที่ 572,675 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้า เนื่องจากมาตรการควบคุมการปล่อยคาร์บอนในยุโรปและคู่แข่งที่เพิ่มขึ้นในตลาด

บทวิเคราะห์และมุมมอง

จากเป้าหมายการผลิตที่ตั้งไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวรับมือกับนโยบายภาษีนำเข้า การแข่งขันในตลาด และการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี อาทิเช่น การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การตั้งเป้าหมายเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงความหวังในการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่สะอาดและมีประสิทธิภาพ

มหกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี 46th Bangkok International Motor Show
2025-01-28

การจัดงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 46 ในปี พ.ศ. 2568 มีความคืบหน้าตามแผนงาน โดยได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการยานยนต์ทั้งในยุโรปและเอเชียกว่า 53 ราย พร้อมนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ล่าสุด และสร้างประสบการณ์พิเศษให้กับผู้เข้าชม นอกจากนี้ยังมีการขยายพื้นที่สำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งรถและอะไหล่ยานยนต์ คาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ความพร้อมในการจัดงานและการตอบรับจากผู้ประกอบการ

งานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 46 มีความคืบหน้าตามแผนงานที่กำหนดไว้ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ประกอบการยานยนต์ทั้งในยุโรปและเอเชีย โดยมีผู้เข้าร่วมงานถึง 53 ราย แบ่งเป็นรถยนต์ 40 บริษัท และจักรยานยนต์ 13 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและความตั้งใจของภาคธุรกิจในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยียานยนต์ล่าสุดภายในงาน

นอกจากนี้ การจัดงานในครั้งนี้ยังเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์สันดาปหรือรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะได้รับข้อเสนอที่คุ้มค่า เข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด และสิทธิพิเศษมากมาย ทำให้งานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้กลายเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยียานยนต์และประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ที่สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมได้ไม่แพ่งานในอดีต

ไฮไลต์และการขยายพื้นที่สำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งรถ

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของการจัดงานครั้งนี้คือการเตรียมพื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการออกบูธอุปกรณ์ตกแต่งรถโดยเฉพาะ โดยมีการขยายฐานผู้ออกบูธสู่กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถทั้งประเภทสันดาปและไฟฟ้า ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสและศักยภาพของตลาดยานยนต์ไทย

นอกจากนี้ยังมีการนำสินค้าอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนมาแสดงภายในงาน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการเชื่อมโยงทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในวงการยานยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทจากประเทศจีนที่นำมาแสดงสินค้ากว่า 80 บูธ บนพื้นที่กว่า 3,800 ตารางเมตร ภายในฟอรั่มฮอลล์ 4 ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้พบกับผู้ผลิตจากต่างประเทศและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ๆ

See More
ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 68: เป้าหมายการผลิตและการส่งออก
2025-01-28

ประเทศไทยมีแผนการผลิตรถยนต์เพื่อตอบสนองทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศในปี 68 โดยคาดว่าจะมียอดผลิตประมาณ 1.5 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย การส่งออกยังคงเป็นจุดสำคัญของภาคอุตสาหกรรม แต่เผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัย เช่น นโยบายการค้าระหว่างประเทศ และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกัน การขายในประเทศได้รับแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ตามรายงานจากที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศไทย ยอดผลิตรถยนต์ในปี 68 มีเป้าหมายที่ 1.5 ล้านคัน ซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้าเล็กน้อย แบ่งเป็นการผลิตสำหรับส่งออกประมาณ 1 ล้านคัน และการผลิตสำหรับจำหน่ายในประเทศราว 500,000 คัน อย่างไรก็ตาม การส่งออกยังคงเผชิญความท้าทาย เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการค้าและความเข้มงวดในการปล่อยแก๊สเรือนกระจกของประเทศคู่ค้า ทำให้การส่งออกรถยนต์ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน

สำหรับการจำหน่ายในประเทศ มียอดการผลิตเพิ่มขึ้นเกือบ 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนหนึ่งมาจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาล นอกจากนี้ เศรษฐกิจภายในประเทศที่ขยายตัว และการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามผลกระทบจากมาตรการการเงินและการค้าระหว่างประเทศที่อาจส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม

ภาพรวมของการส่งออกและการผลิตรถยนต์ในปี 67 สะท้อนถึงความผันผวน โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่ยอดส่งออกและยอดผลิตลดลง อย่างไรก็ตาม การจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศยังคงเติบโตในช่วงเดือนธันวาคม แม้ว่าจะมีความท้าทายในการอนุมัติสินเชื่อและการแข่งขันจากต่างประเทศ การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 68 จะต้องอาศัยการติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและมาตรการภายในประเทศอย่างใกล้ชิด

แนวโน้มการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในปี 67 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะในประเภทรถไฮบริด (HEV) ที่มียอดจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) และรถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มีการเติบโตที่แตกต่างกัน ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับและการปรับตัวของผู้บริโภคต่อยานยนต์เทคโนโลยีใหม่

โดยสรุป ปี 68 นับเป็นปีที่ท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย แต่ยังคงมีโอกาสในการขยายตัวจากการสนับสนุนภาครัฐและการปรับตัวของผู้บริโภคต่อยานยนต์ไฟฟ้า การดำเนินการตามแผนการผลิตและการส่งออกที่วางไว้ จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยภายนอกและภายในประเทศอย่างรอบคอบ

See More