ความบันเทิง
ละครเวทีการกุศล "รามาดราม่า" กลับมาอีกครั้งกับการแสดงครั้งที่ 17 "Prim: The Eleventh Clone"
2024-11-01
ละครเวทีการกุศล "รามาดราม่า" ที่จัดขึ้นโดยนักศึกษาแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามมาตลอด ล่าสุดปีนี้กลับมาอีกครั้งกับการแสดงครั้งที่ 17 "Prim: The Eleventh Clone" ที่จะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ ความฝัน และความหมายของชีวิต ผ่านโลกสมมติในแนวละครไซไฟ-ดราม่า

ประสบการณ์การชมละครที่ไม่ควรพลาด

ละครเวทีการกุศล "รามาดราม่า" เพื่อโรงพยาบาลชุมชน

ละครเวทีการกุศล "รามาดราม่า" จัดขึ้นโดยนักศึกษาแพทย์จากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายไปสมทบทุนใน "โครงการรามาธิบดีเพื่อโรงพยาบาลชุมชน" เพื่อให้โรงพยาบาลชุมชนมีความเข้มแข็งในการดูแลสุขภาพของผู้คนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญและมีความหมายต่อสังคมอย่างยิ่ง

ละครเวทีการกุศล "Prim: The Eleventh Clone"

ในปีนี้ "รามาดราม่า" นำเสนอเรื่อง "Prim: The Eleventh Clone" ที่จะสะท้อนความหมายของความเป็นมนุษย์ ความฝัน และความหมายของชีวิต ผ่านโลกสมมติในแนวละครไซไฟ-ดราม่า กำกับการแสดงโดย ดี่ดี๊ – ทอฝัน เทียนบุญ เรื่องราวของ "พริม" โคลนหมายเลข 11 ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นภาชนะต่อชีวิตให้กับ "มาดาม" นักวิทยาศาสตร์เจ้าของธุรกิจร่างโคลน แต่เมื่อพริมได้รู้ความจริงถึงชะตากรรมของตนเอง เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากห้องทดลอง และได้พบกับ "นีล" อดีตนักวิจัยผู้ต่อต้านการโคลนที่ย้ายจิตสำนึกตัวเองลงในหุ่นยนต์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้พริมเริ่มมีความฝันเป็นของตนเองในการมีชีวิตที่เป็นอิสระ และได้มีความสุขกับเรื่องแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นกับเธอในแต่ละวัน แต่พริมยังต้องเผชิญหน้ากับการตามล่าจากมาดามที่ต้องการตัวเธอเป็นอย่างมาก

นักแสดงมากความสามารถ

ละครเวทีการกุศล "Prim: The Eleventh Clone" นำแสดงโดย จิณณ์ – จิณณ์ รัชโน รับบท พริม, เจนนี่ – ภัทรวลัย ลัคนานิธิพันธุ์ รับบท มาดาม, เล้ง – นิธิบดี จงตระการสมบัติ รับบท นีล, นกยูง – ปวรา วิสุทธิรัตนมณี รับบท ซิลเวีย, เพชร – แพทริค รูฟโฟโล รับบท เกล และ โปรเจค – พชรพล พรหมสิรินิมิต รับบท สเวน ซึ่งล้วนแต่เป็นนักแสดงที่มีความสามารถและมีประสบการณ์ในการแสดงละครเวทีมาอย่างยาวนาน

ตารางการแสดง

ละครเวทีการกุศล "Prim: The Eleventh Clone" จะเปิดม่านการแสดงในวันที่ 29 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 ณ หอประชุมอารี วัลยะเสวี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมีรอบการแสดงทั้งหมด 4 รอบ ดังนี้- รอบที่ 1 : 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18:00 – 21:00- รอบที่ 2 : 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13:00 – 16:00- รอบที่ 3 : 1 ธันวาคม 2567 เวลา 13:00 – 16:00- รอบที่ 4 : 1 ธันวาคม 2567 เวลา 19:00 – 22:00ผู้สนใจสามารถจองบัตรได้แล้ววันนี้ ทางเว็บไซต์ Ticketmelon และสามารถติดตามข่าวสารละครเวทีรามาดราม่าได้ที่ IG :Ramadramaplay
ความตื่นเต้นและความท้าทายใหม่ๆ ที่รอคอย 'มะนาว ศรศิลป์' ในละคร 'เพลงลำคำเขื่อนแก้ว'
2024-11-01
หลังจากห่างหายจากวงการบันเทิงไปนาน 'มะนาว ศรศิลป์ มณีวรรณ์' ได้รับโอกาสกลับมาโชว์ฝีมือในละคร 'เพลงลำคำเขื่อนแก้ว' ซึ่งเป็นผลงานใหม่ล่าสุดของช่อง เวิร์คพอยท์ 23 โดยได้รับการกำกับการแสดงจาก 'หม่ำ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา' และประกบคู่กับ 'ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์' ในบทบาทสำคัญ

ความตื่นเต้นและความท้าทายใหม่ๆ ที่รอคอยอยู่

การกลับมาสู่วงการบันเทิงอีกครั้ง

หลังจากห่างหายจากวงการบันเทิงไปนาน 'มะนาว ศรศิลป์' ได้รับโอกาสกลับมาโชว์ฝีมือในละคร 'เพลงลำคำเขื่อนแก้ว' ซึ่งเป็นผลงานใหม่ล่าสุดของช่อง เวิร์คพอยท์ 23 เธอรู้สึกตื่นเต้นและกังวลในตอนแรก เนื่องจากรู้สึกเหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่หมด แต่เมื่อได้อ่านเนื้อเรื่องและบทของตัวละคร 'เขียว' ที่เธอได้รับมอบหมายให้รับบท เธอรู้สึกว่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีเสน่ห์และน่าสนใจ ท้าทายความสามารถหลายอย่าง ทั้งยังได้ร่วมงานกับศิลปินและนักแสดงที่มีฝีมืออีกด้วย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่เธอจะได้พัฒนาและแสดงความสามารถของตัวเองอีกครั้ง

การเตรียมตัวอย่างเต็มที่

เพื่อให้สามารถถ่ายทอดตัวละครออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด 'มะนาว ศรศิลป์' ได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่ ทั้งการทบทวนและทำความเข้าใจกับตัวละครและเนื้อเรื่อง การเรียนการแสดง และการเข้าเวิร์คช็อป นอกจากนี้ เธอยังได้รับคำแนะนำและการสนับสนุนจากทีมงานในกองละครอย่างดี ซึ่งช่วยให้เธอมั่นใจและพร้อมที่จะถ่ายทอดตัวละครออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ความสนุกและเซอร์ไพรส์ที่รอคอย

ละคร 'เพลงลำคำเขื่อนแก้ว' ที่ 'มะนาว ศรศิลป์' รับบทบาทสำคัญนั้น นอกจากจะสนุกและเข้มข้นแล้ว ยังมีเซอร์ไพรส์ที่จะมาสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ 'มะนาว' ฝากให้ผู้ชมติดตามและรอชมอย่างใจจดใจจ่อ ละครเรื่องนี้ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 น. ทางช่อง เวิร์คพอยท์ 23 และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ TrueVisions NOW เวลา 12.00 น.
See More
การท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง: เทรนด์ใหม่ที่กำลังเฟื่องฟูในยุคปัจจุบัน
2024-11-01
สัตว์เลี้ยงคือสมาชิกครอบครัวที่ไม่อาจขาดไปได้การท่องเที่ยวพร้อมเพื่อนซี้สี่ขา: เทรนด์ใหม่ที่กำลังเฟื่องฟูในยุคปัจจุบัน กระแสการเลี้ยงสัตว์เสมือนลูกหรือสมาชิกครอบครัว (Pet humanization) ได้ส่งผลให้ตลาด Pet tourism หรือการท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง กลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยมีปัจจัยสำคัญหลายประการที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของตลาดนี้ ทั้งจำนวนสัตว์เลี้ยงและผู้เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจที่พร้อมให้บริการด้านนี้มากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งส่งผลให้การพาสัตว์เลี้ยงไปท่องเที่ยวได้รับการยอมรับมากขึ้น

เติบโตอย่างก้าวกระโดดในยุคแห่งการเลี้ยงสัตว์เสมือนลูก

กระแส Pet humanization ผลักดันตลาด Pet tourism ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

ในปัจจุบัน กลุ่มผู้มีสัตว์เลี้ยงหันมาเลี้ยงสัตว์เสมือนลูกหรือสมาชิกครอบครัว (Pet parent) มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนโสด ส่งผลให้เจ้าของยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อสัตว์เลี้ยงค่อนข้างมาก ทั้งด้านอาหาร ด้านสุขภาพ รวมถึงการพาสัตว์เลี้ยงออกไปท่องเที่ยวด้วยกัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ตลาด Pet tourism เติบโตอย่างก้าวกระโดด

จำนวนสัตว์เลี้ยงและผู้มีสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนสัตว์เลี้ยงทั้งสุนัข แมว และสัตว์อื่น ๆ เช่น นก ปลา เพิ่มขึ้นราว 2.5% ต่อปี และจำนวนครัวเรือนที่มีสัตว์เลี้ยงก็เพิ่มขึ้นในอัตราใกล้เคียงกัน ซึ่งคาดว่าในช่วงปี 2568-2571 จำนวนสัตว์เลี้ยงจะยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องราว 2.6% ต่อปี ส่งผลให้ตลาด Pet tourism มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจที่พร้อมให้บริการด้าน Pet tourism เพิ่มมากขึ้น

ในช่วงปี 2558-2566 ปริมาณบริษัทจดทะเบียนที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงเติบโตถึง 17% ต่อปี ทั้งในกลุ่มขายปลีกอาหารสัตว์เลี้ยง กลุ่มบริการทางการแพทย์ และกลุ่ม Pet care นอกจากนี้ ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารจำนวนมากยังขยายบริการใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของภาคธุรกิจในการรองรับเทรนด์ Pet tourism

การสนับสนุนจากภาครัฐช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทรนด์ Pet tourism จึงจัดทำโครงการ Amazing Happy Paws เพื่อประชาสัมพันธ์และโปรโมต Pet tourism ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีสัตว์เลี้ยง ควบคู่ไปกับการสร้างฐานข้อมูลธุรกิจ Pet friendly เพื่อกลุ่ม Pet tourist โดยเฉพาะ ซึ่งส่งผลให้การพาสัตว์เลี้ยงไปท่องเที่ยวได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น

4 ธุรกิจที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตจากกลุ่ม Pet tourist

ธุรกิจโรงแรมและที่พัก: มีโอกาสได้รับรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าเข้าพักสำหรับสัตว์เลี้ยง และช่วยส่งเสริมให้อัตราเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่อย่างผู้มีสัตว์เลี้ยงธุรกิจร้านอาหาร: ตอบโจทย์กลุ่มผู้นิยมพาสัตว์เลี้ยงไปรับประทานอาหารมากขึ้น และสามารถเพิ่มรายได้จากการขายเมนูอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงเป็นพิเศษธุรกิจขนส่งและการบิน: จากการที่ผู้มีสัตว์เลี้ยงเริ่มพาสัตว์เลี้ยงเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยมากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้สายการบินสามารถเพิ่มรายได้จากการเรียกเก็บค่าบริการพิเศษในส่วนนี้ได้ธุรกิจ Pet healthcare & Wellness: ให้บริการในหลายด้าน เช่น Pet care, Pet grooming, การตรวจสุขภาพและออกใบรับรองสุขภาพ รวมถึงการให้บริการด้านเวลเนสแก่สัตว์เลี้ยง

ความท้าทายของภาคธุรกิจในการรองรับ Pet tourism

ภาคธุรกิจจะต้องสร้างสมดุลในการให้บริการระหว่างกลุ่มลูกค้ารักสัตว์และกลุ่มที่ไม่คุ้นเคยกับสัตว์/เป็นภูมิแพ้สัตว์ โดยการแบ่งแยกพื้นที่ให้บริการและกำหนดมาตรฐานความสะอาดที่ชัดเจน นอกจากนี้ ธุรกิจยังต้องรับมือกับต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการรองรับกลุ่ม Pet tourist ทั้งในด้านการทำความสะอาด บุคลากร และอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยง

แนวทางการดึงดูด Pet tourism ของภาคธุรกิจ

1. การนำเสนอบริการที่ได้มาตรฐาน มีกฎระเบียบที่ชัดเจนและตรงตามความคาดหวังของกลุ่ม Pet tourist จากการกำหนดค่าบริการและการออกข้อกำหนดของสัตว์เลี้ยงให้ชัดเจนและยุติธรรม2. การเพิ่มการประชาสัมพันธ์ด้วยรูปสัตว์เลี้ยง จะช่วยดึงดูด Online engagement ได้มากขึ้นและสามารถสื่อสารถึงกลุ่มผู้รักสัตว์ได้ตรงจุด3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพดีหรือระดับพรีเมียมเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้ารักสัตว์ที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง
See More