รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงว่าการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2565 เป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล. ทีมชาติไทยได้รับนิยมจากคนไทยและทั่วโลก. ประเทศไทยจะมีรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาชมการแข่งขัน มูลค่าด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียไปทั่วโลก. คาดว่าจะมีผู้ชมโดยรวมประมาณ 1.3 พันล้านคน และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจภายในประเทศ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 8.5 พันล้านบาท. ในขณะที่เราประมาณการค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ไว้จำนวน 1.1 พันล้านบาท.
ยังเป็นการแสดงความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาด้วย. นอกจากนี้ยังให้มีการรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน ( Green Heart Event ) โดยเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นสมาคมกีฬา นำร่องต้นแบบด้วย.
สำหรับการแข่งขันรอบแรกจะกระจายไปจัดตามหัวเมืองหลักด้านการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวน 4 เมือง ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร. แต่ละเมืองจะมีทีมวอลเลย์บอล จำนวน 2 สาย 8 ทีม. ส่วนจะมีทีมใด สายไหนบ้างจะทราบหลังจากมีการจับฉลากแบ่งสายเรียบร้อยแล้ว.
ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบก่อนรองชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะจัดที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก กรุงเทพมหานคร.
ในการแถลงข่าวครั้งนี้มี “โค้ชอ๊อต” นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอน และนักกีฬาชุด 7 เซียน นำโดย วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, วรรณา บัวแก้ว, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, มลิกา กันทอง และ อรอุมา สิทธิรักษ์ ซึ่งเคยเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ เดินทางมาร่วมงานด้วย.
การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีก รือ VNL 2025 ในปี 2568 สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และ Volleyball World ขอให้งดจัดการแข่งขันไปก่อน เพราะต้องรับผิดชอบการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลกที่มีความสำคัญมากกว่า. ซึ่งจัดในเวลาที่ใกล้เคียงกัน เกรงจะไม่มีเวลาในการเตรียมงานสำคัญให้ดีที่สุดได้ และยืนยันว่า ในปี 2569 จะให้ประเทศได้กลับมาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีก อีกครั้ง.
มันมีเป้าหมายเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมโรงเรียน, โรงเรียนพื้นที่นวัตกรรม และ 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของบวร (บ้าน วัด โรงเรียน), และพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชนเป็นวิถีชีวิตตามนโยบายของสมาชิกวุฒิสภา.
สำนักงานประธานวุฒิสภาและผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีในฐานะประธานคณะกรรมการกีฬาจังหวัด สอดคล้องกับประเด็นการพัฒนาที่ 2. การส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชนเป็นวิถีชีวิต, และน้อมนำแนวทางดำเนินงานตามโครงการ TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี. มุ่งเน้นกิจกรรมสร้างสรรค์และปลูกฝังทัศนคติ “การเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด”.
จัดกิจกรรมที่มีประโยชน์เพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็ก เยาวชน ในรูปแบบที่จะใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์. สามารถสร้างบุคลิกภาพที่ดี รวมไปถึงสร้างวินัยให้เยาวชนเป็นคนดีอย่างมีคุณภาพไปตลอดชีวิต.
ด้วยการจัดกิจกรรมนี้, เด็กและเยาวชนจะได้รับโอกาสที่จะออกกำลังกายและเล่นกีฬาในระดับชุมชน. ส่งเสริมความร่วมมือและความร่วมมือในชุมชน, และสร้างความรู้สึกของความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงในตนเอง.