รถ
มหกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี 46th Bangkok International Motor Show
2025-01-28

การจัดงานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 46 ในปี พ.ศ. 2568 มีความคืบหน้าตามแผนงาน โดยได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการยานยนต์ทั้งในยุโรปและเอเชียกว่า 53 ราย พร้อมนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ล่าสุด และสร้างประสบการณ์พิเศษให้กับผู้เข้าชม นอกจากนี้ยังมีการขยายพื้นที่สำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งรถและอะไหล่ยานยนต์ คาดว่าจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ความพร้อมในการจัดงานและการตอบรับจากผู้ประกอบการ

งานมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 46 มีความคืบหน้าตามแผนงานที่กำหนดไว้ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ประกอบการยานยนต์ทั้งในยุโรปและเอเชีย โดยมีผู้เข้าร่วมงานถึง 53 ราย แบ่งเป็นรถยนต์ 40 บริษัท และจักรยานยนต์ 13 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจและความตั้งใจของภาคธุรกิจในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยียานยนต์ล่าสุดภายในงาน

นอกจากนี้ การจัดงานในครั้งนี้ยังเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์สันดาปหรือรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะได้รับข้อเสนอที่คุ้มค่า เข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด และสิทธิพิเศษมากมาย ทำให้งานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้กลายเป็นแหล่งรวมเทคโนโลยียานยนต์และประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ที่สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมได้ไม่แพ่งานในอดีต

ไฮไลต์และการขยายพื้นที่สำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งรถ

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของการจัดงานครั้งนี้คือการเตรียมพื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการออกบูธอุปกรณ์ตกแต่งรถโดยเฉพาะ โดยมีการขยายฐานผู้ออกบูธสู่กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถทั้งประเภทสันดาปและไฟฟ้า ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสและศักยภาพของตลาดยานยนต์ไทย

นอกจากนี้ยังมีการนำสินค้าอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนมาแสดงภายในงาน ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการเชื่อมโยงทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในวงการยานยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทจากประเทศจีนที่นำมาแสดงสินค้ากว่า 80 บูธ บนพื้นที่กว่า 3,800 ตารางเมตร ภายในฟอรั่มฮอลล์ 4 ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้พบกับผู้ผลิตจากต่างประเทศและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ๆ

ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 68: เป้าหมายการผลิตและการส่งออก
2025-01-28

ประเทศไทยมีแผนการผลิตรถยนต์เพื่อตอบสนองทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศในปี 68 โดยคาดว่าจะมียอดผลิตประมาณ 1.5 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย การส่งออกยังคงเป็นจุดสำคัญของภาคอุตสาหกรรม แต่เผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัย เช่น นโยบายการค้าระหว่างประเทศ และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกัน การขายในประเทศได้รับแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ตามรายงานจากที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศไทย ยอดผลิตรถยนต์ในปี 68 มีเป้าหมายที่ 1.5 ล้านคัน ซึ่งมากกว่าปีก่อนหน้าเล็กน้อย แบ่งเป็นการผลิตสำหรับส่งออกประมาณ 1 ล้านคัน และการผลิตสำหรับจำหน่ายในประเทศราว 500,000 คัน อย่างไรก็ตาม การส่งออกยังคงเผชิญความท้าทาย เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการค้าและความเข้มงวดในการปล่อยแก๊สเรือนกระจกของประเทศคู่ค้า ทำให้การส่งออกรถยนต์ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน

สำหรับการจำหน่ายในประเทศ มียอดการผลิตเพิ่มขึ้นเกือบ 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนหนึ่งมาจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาล นอกจากนี้ เศรษฐกิจภายในประเทศที่ขยายตัว และการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมกำลังซื้อของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามผลกระทบจากมาตรการการเงินและการค้าระหว่างประเทศที่อาจส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม

ภาพรวมของการส่งออกและการผลิตรถยนต์ในปี 67 สะท้อนถึงความผันผวน โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่ยอดส่งออกและยอดผลิตลดลง อย่างไรก็ตาม การจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศยังคงเติบโตในช่วงเดือนธันวาคม แม้ว่าจะมีความท้าทายในการอนุมัติสินเชื่อและการแข่งขันจากต่างประเทศ การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 68 จะต้องอาศัยการติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและมาตรการภายในประเทศอย่างใกล้ชิด

แนวโน้มการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในปี 67 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยเฉพาะในประเภทรถไฮบริด (HEV) ที่มียอดจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) และรถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มีการเติบโตที่แตกต่างกัน ซึ่งสะท้อนถึงการยอมรับและการปรับตัวของผู้บริโภคต่อยานยนต์เทคโนโลยีใหม่

โดยสรุป ปี 68 นับเป็นปีที่ท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย แต่ยังคงมีโอกาสในการขยายตัวจากการสนับสนุนภาครัฐและการปรับตัวของผู้บริโภคต่อยานยนต์ไฟฟ้า การดำเนินการตามแผนการผลิตและการส่งออกที่วางไว้ จะต้องพิจารณาถึงปัจจัยภายนอกและภายในประเทศอย่างรอบคอบ

See More
เกิดเหตุรถพลิกคว่ำในคลอง ผู้ขับขี่เสียชีวิตระหว่างทางไปซื้ออาหารเช้า
2025-01-28

เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 28 มกราคม เกิดเหตุการณ์สลดใจในพื้นที่อำเภอลัดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เมื่อรถเก๋งคันหนึ่งพลิกคว่ำลงในคลองพระอุดม ส่งผลให้ผู้ขับขี่เป็นศพ ตามรายงานจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและชาวบ้านในละแวกนั้น สาเหตุของการเกิดเหตุยังอยู่ในการสอบสวน แต่คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับสภาพถนนที่ไม่ดีหรือความประมาทของผู้ขับขี่

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. หลังจากที่นายวินัย ยีมีน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ตำบลคูขวาง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบรถตกคลอง โดยนายวินัยได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครมูลนิธิเพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ในที่สุดพบว่ารถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีแดง พลิกคว่ำอยู่ในคลอง และภายในรถมีผู้เสียชีวิต ทราบชื่อภายหลังว่าเป็นนายณัฐพล อายุ 48 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในตำบลคูขวาง

จากการสอบถามภรรยาของผู้เสียชีวิต เธอบอกว่าสามีออกไปซื้อน้ำเต้าหู้และขนมให้ลูกๆ ตั้งแต่เวลา 04.30 น. โดยปกติเธอจะออกเดินทางไปด้วย แต่วันนี้เธอไม่ได้ไปเพราะเหนื่อยล้า จนกระทั่งได้รับโทรศัพท์จากชาวบ้านแจ้งว่าพบรถตกลงไปในคลอง เมื่อไปตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นรถของสามีและสามีเสียชีวิตแล้ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรคูบางหลวงได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียด รวมถึงรวบรวมข้อมูลจากผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสอบสวน นอกจากนี้ยังประสานงานกับมูลนิธิเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตส่งตรวจที่โรงพยาบาลนิติเวชศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และเตรียมมอบศพให้ญาติทำพิธีทางศาสนาต่อไป

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ความระมัดระวังในการขับขี่บนถนนที่มีความเสี่ยง และความจำเป็นในการตรวจสอบสภาพรถยนต์และการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

See More