ความบันเทิง
ผู้กำกับภาพยนตร์ไทยเฮลั่น มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล คว้าตำแหน่งนายกสมาคมฯ ด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่
2024-11-01
วงการภาพยนตร์ไทยเฮลั่น เมื่อมะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยคนใหม่ ด้วยคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากสมาชิกสมาคม ซึ่งถือเป็นความไว้วางใจอย่างมากที่ได้รับจากพี่น้องร่วมอาชีพ

ก้าวสำคัญสู่การพัฒนาวงการภาพยนตร์ไทยอย่างยั่งยืน

ก้าวแรกสู่การนำพาสมาคมฯ ให้เติบโตแข็งแรง

มะเดี่ยว ชูเกียรติ เผยความรู้สึกหลังได้รับตำแหน่งนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยคนใหม่ว่า เขาได้อยู่กับสมาคมผู้กำกับมาตั้งแต่เข้าวงการ และเห็นพี่น้องร่วมอาชีพหลายคนมาช่วยกันสร้างและทำให้สมาคมเติบโตแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนต่างรักในอาชีพนี้และอยากช่วยกันผลักดันให้วงการภาพยนตร์ไทยก้าวหน้าในฐานะนายกสมาคมคนใหม่ มะเดี่ยวรู้สึกซาบซึ้งที่ได้รับความไว้วางใจจากเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกสมาคม เพื่อนำพาองค์กรนี้ไปสู่เส้นทางที่ดีขึ้น แม้งานจะไม่ง่าย แต่เขาจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ทุกคนผิดหวัง

ขอบคุณทุกฝ่ายที่ผ่านวิกฤตมาด้วยกัน

มะเดี่ยวยังขอบคุณ ผศ.ดร.อนุชา บุญยวรรธนะ และคณะกรรมการ รวมถึงเลขาสมาคม ที่ช่วยพาพวกเขาผ่านวิกฤติหนัก ๆ อย่างสถานการณ์โควิด-19 มาได้ จนองค์กรนี้เป็นที่ไว้วางใจของสังคมให้ทำงานสำคัญ ๆ มากมายนอกจากนี้ เขายังขอบคุณผู้สมัครทุกคนที่เต็มที่กับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะสัมผัสได้ถึงความตั้งใจที่จะทำให้วงการภาพยนตร์ไทยดีขึ้น หากมีโอกาสเขาก็ยินดีที่จะได้ร่วมงานกับทุกคน

ขอบคุณทุกคะแนนเสียงและสัญญาจะทำงานอย่างเต็มที่

มะเดี่ยวกล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่ทุกคนมอบให้ และสัญญาว่าจะไม่ทำให้ความไว้วางใจของทุกคนสูญเปล่า เขาจะเริ่มดำเนินนโยบายที่วางไว้ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว และทำให้เกิดประโยชน์กับทุกคนให้มากที่สุดเขาหวังว่าทุกคนจะสนุกกับการทำงานร่วมกัน และมีรอยยิ้มให้กันตลอดไป โดยเชื่อว่าโอกาสที่ได้รับจะตอบแทนทุกคนด้วยความโชคดี เฮง ๆ ร่ำรวย และมีความสุขทุกวัน

อดีตนายกสมาคมฯ ยินดีกับความสำเร็จครั้งนี้

ทั้งนี้ บัณฑิต ทองดี อดีตนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย 2 สมัย ก็ได้โพสต์ข้อความยินดีกับ มะเดี่ยว ระบุว่า "ขอแสดงความยินดีกับนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยคนใหม่ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ด้วยครับ ปีนี้คึกคักที่สุดเป็นประวัติการณ์ ช่วงตอนที่มีการเปิดให้ลงสมัครผมเป็นคนเสนอให้ขยายเวลาเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความคึกคักซึ่งก็คึกคักสมใจหมาย คึกคักเกินคาดดดดดดด"
ชวนช้อปสินค้าสัตว์เลี้ยงคุณภาพในงาน Chiangmai Petmart Fair 2024
2024-11-01
ในช่วงวันที่ 31 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2567 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต จะมีการจัดงาน Chiangmai Petmart Fair 2024 ซึ่งเป็นงานมหกรรมสัตว์เลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ โดยมีการรวบรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงกว่า 10,000 รายการจากแบรนด์ชั้นนำมาให้ผู้เข้าร่วมงานได้เลือกช้อปในราคาสบายกระเป๋า พร้อมกิจกรรมพิเศษมากมายที่จะมอบความสนุกและความสุขให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคน

ยกขบวนสินค้าสัตว์เลี้ยงคุณภาพเข้าสู่เชียงใหม่

ขบวนสินค้าสัตว์เลี้ยงคุณภาพ

งาน Chiangmai Petmart Fair 2024 จะเป็นการรวมตัวของสินค้าและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพและความหลากหลายมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของเล่น อุปกรณ์ดูแล และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมาจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับสินค้าที่ตรงกับความต้องการของสัตว์เลี้ยงของตนเองอย่างแน่นอน และยังสามารถเลือกซื้อในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดอีกด้วย

ความหลากหลายของสินค้า

ภายในงาน Chiangmai Petmart Fair 2024 จะมีสินค้าและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว นก กระต่าย หรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับสินค้าที่ตรงกับความต้องการของสัตว์เลี้ยงของตนเองอย่างแน่นอน ซึ่งจะช่วยให้การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของคุณง่ายขึ้นและมีความสุขมากขึ้น

ราคาสบายกระเป๋า

นอกจากความหลากหลายของสินค้าแล้ว ผู้เข้าร่วมงาน Chiangmai Petmart Fair 2024 ยังจะได้รับสิทธิพิเศษในการซื้อสินค้าในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้ผู้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงสามารถจัดสรรงบประมาณในการดูแลสัตว์เลี้ยงได้อย่างเหมาะสม และยังสามารถซื้อสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่ย่อมเยาว์ได้อีกด้วย

กิจกรรมสนุกสนาน

นอกจากการช้อปปิ้งสินค้าสัตว์เลี้ยงแล้ว ภายในงาน Chiangmai Petmart Fair 2024 ยังมีกิจกรรมพิเศษมากมายที่จะมอบความสนุกและความสุขให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกคน อาทิ การร่วมลุ้นรับของรางวัลพิเศษ การแสดงของเหล่าเซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียง และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งจะทำให้การเข้าร่วมงานครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับทุกคน
See More
ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรง
2024-11-01
สังคมไทยต้องเร่งยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ หลังเกิดเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต สภาผู้บริโภคจึงจัดเวทีแลกเปลี่ยนเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยเน้นยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้เทียบเท่าระดับสากล ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพรถโดยสาร

ความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วน

บุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาผู้บริโภค เน้นย้ำว่า สังคมไม่ควรลืมเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้เมื่อเร็วๆ นี้ รวมถึงเหตุการณ์อื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นและส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่หน่วยงานต่างๆ และผู้ที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันหาทางป้องกันปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของรถสาธารณะ ซึ่งไม่ควรมองว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่ต้องถือเป็นความรับผิดชอบของทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพราะความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นหน้าที่ของทุกคน

ต้องยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยรถโดยสารให้เทียบเท่าระดับสากล

พ.ต.อ. อุดมศักดิ์ พาลี เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้และไม่ควรเกิดขึ้น หากผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ช่วยกันแก้ไขปัญหา รถโดยสารที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้ก็จะเป็นเหมือน "ระเบิดเวลา" ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังนั้น จึงต้องมีการควบคุมระบบให้เป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งมาตรฐานของบุคลากรในองค์กรและมาตรฐานของระบบการทำงาน รวมถึงการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยของรถยนต์อย่างเข้มงวด เช่น เรื่องการติดตั้งและความปลอดภัยถังแก๊ส การกำหนดระยะเวลาใช้งานโครงสร้างรถ เพื่อให้มั่นใจว่ารถโดยสารทุกคันมีมาตรฐานความปลอดภัยเทียบเท่าระดับสากล

ควรกำหนดอายุการใช้งานรถโดยสารไม่ประจำทางอย่างชัดเจน

อิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสภาผู้บริโภค กล่าวว่า จากข้อมูลที่รวบรวมพบว่า รถบัสคันที่เกิดเหตุจดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 2513 หรือใช้งานมาแล้วประมาณ 54 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก ขณะที่ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกระบุว่า รถโดยสารประจำทางที่มีระยะทางไม่เกิน 300 กม. กำหนดให้มีอายุการใช้งานของแชสซีรถไม่เกิน 40 ปี แต่สำหรับรถโดยสารไม่ประจำทางกลับไม่มีการกำหนดอายุการใช้งานอย่างชัดเจน ดังนั้น จึงเป็นโจทย์ที่ต้องหารือและทบทวนต่อไปว่า จะแก้ไขช่องโหว่ดังกล่าวอย่างไร และควรใช้เกณฑ์ใดในการกำหนดอายุการใช้งานรถโดยสารไม่ประจำทาง

ต้องเร่งตรวจสอบและปรับปรุงรถโดยสารที่ติดตั้งแก๊ส

ผู้แทนจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ปัจจุบัน ขบ. ได้เร่งนำรถโดยสารที่ติดตั้งแก๊สซีเอ็นจี (CNG) เข้าตรวจสภาพ โดยมีจำนวนทั้งหมด 13,426 คัน ซึ่งเป็นรถที่เป็นเช่าเหมา 956 คัน และรถประจำทาง 2,400 คัน ในจำนวนนี้มีรถที่ไม่ผ่านและพ้นห้ามใช้จำนวน 210 คัน เนื่องจากพบปัญหาต่างๆ เช่น ถังแก๊สหมดอายุ จำนวนถังแก๊สไม่ถูกต้อง เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบชำรุด เกิดแก๊สรั่วซึม น้ำหนักเกินที่จดทะเบียน หรือประตูขึ้นลงฉุกเฉินไม่สามารถใช้การได้ ทั้งนี้ ขบ. ยังกำหนดไม่ให้นำรถบัสโดยสารที่ติดตั้งแก๊สไปใช้ในการรับส่งเด็กหรือนักเรียนในช่วงนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2567

ต้องปรับปรุงมาตรฐานการติดตั้งระบบแก๊สให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น

มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการด้านพลังงาน เสนอให้ยกเลิกมาตรฐาน มอก.-2333 ที่ให้เลือกใช้วาล์วอัตโนมัติหรือวาล์วมืออย่างใดอย่างหนึ่ง และควรกลับไปใช้มาตรฐานต่างประเทศคือ EU Regulation-10 หรือ ISO-15501 ที่กำหนดให้ติดตั้งวาล์วหัวถังอัตโนมัติในทุกรถเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังเสนอให้ควบคุมและกำกับดูแลเรื่องจุดติดตั้งถังแก๊สที่เหมาะสม รวมถึงการติดตั้งเรือนกักแก๊สในตัวถังของรถยนต์ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้แก๊สลอยขึ้นสู่ห้องโดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

เร่งยกระดับมาตรการเพื่อความปลอดภัยนักเรียน

เดชา ปาณะสี รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า สพฐ. และกระทรวงศึกษาธิการมีการวางแผนการเผชิญเหตุและการจัดการภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง โดยโรงเรียนทุกแห่งมีการวิเคราะห์เหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในแต่ละปี และมีการจัดทำแผนเผชิญเหตุและซักซ้อมอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ทาง สพฐ. ได้ปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยในการทัศนศึกษาอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเลือกสถานที่ที่ใกล้โรงเรียนสำหรับนักเรียนในระดับอนุบาล การตรวจสอบความปลอดภัยของรถยนต์โดยสารอย่างเข้มงวด และการจัดการเรียนรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในการเดินทาง
See More