journalfront

ความบันเทิง

ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง "มะเดี่ยว" รับตำแหน่งนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย พร้อมผลักดันวงการสู่ระดับสากล

2024-11-02

วงการภาพยนตร์ไทยเฮลั่น เมื่อ "มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล" ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยคนใหม่ ด้วยคะแนนโหวตสูงสุด จากการเลือกตั้งที่มีผู้กำกับภาพยนตร์ไทยเข้าร่วมกว่า 199 คน

ผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นนำของวงการ พร้อมผลักดันวงการภาพยนตร์ไทยให้ก้าวไกล

ความท้าทายใหม่สำหรับ "มะเดี่ยว" ในการนำสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยก้าวไปสู่ระดับสากล

"มะเดี่ยว" ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังที่มีผลงานโดดเด่นมากมาย เช่น "คน ผี ปีศาจ", "13 เกมสยอง", "รักแห่งสยาม" และ "ดิว ไปด้วยกันนะ" ล่าสุดกับภาพยนตร์เรื่อง "ตาคลี เจเนซิส" ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยให้เป็นนายกสมาคมคนใหม่ ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหม่ในการนำพาสมาคมไปสู่ระดับสากล"มะเดี่ยว" กล่าวว่า เขาได้เห็นพี่น้องร่วมอาชีพมากมายที่ร่วมกันสร้างและพัฒนาสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยมาตั้งแต่เข้าวงการ จนทำให้สมาคมแข็งแรงและเป็นที่ไว้วางใจของสังคม ซึ่งเขารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกให้เป็นผู้นำองค์กรนี้ไปสู่เส้นทางที่ดีขึ้นแม้ว่างานนี้จะไม่ง่าย แต่ "มะเดี่ยว" ก็ตั้งใจที่จะทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง และจะเริ่มดำเนินนโยบายต่างๆ ที่วางไว้อย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสมาชิกและวงการภาพยนตร์ไทย

ความสำเร็จของ "มะเดี่ยว" ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นนำ

"มะเดี่ยว" เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงและผลงานโดดเด่นมากมาย ซึ่งได้รับการยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับสากลผลงานที่โดดเด่นของ "มะเดี่ยว" ได้แก่ ภาพยนตร์เรื่อง "คน ผี ปีศาจ" ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญที่ดีที่สุดของไทย, "13 เกมสยอง" ที่สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ชม, "รักแห่งสยาม" ที่สะท้อนความรักและวัฒนธรรมไทย, และ "ดิว ไปด้วยกันนะ" ที่ได้รับการชื่นชมจากทั้งในและต่างประเทศนอกจากนี้ ล่าสุดในปี 2567 "มะเดี่ยว" ยังได้ฉายภาพยนตร์เรื่อง "ตาคลี เจเนซิส" ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากความสำเร็จของ "มะเดี่ยว" ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ชั้นนำ ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยให้เป็นนายกสมาคมคนใหม่ ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหม่ในการยกระดับวงการภาพยนตร์ไทยให้ก้าวไกลไปอีกขั้น

ความมุ่งมั่นของ "มะเดี่ยว" ในการพัฒนาสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย

"มะเดี่ยว" แสดงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ความไว้วางใจของสมาชิกสมาคมไม่สูญเปล่า โดยจะเริ่มดำเนินนโยบายต่างๆ ที่วางไว้อย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสมาชิกและวงการภาพยนตร์ไทย"มะเดี่ยว" ยังกล่าวขอบคุณ ดร.อนุชา บุญยวรรธนะ และคณะกรรมการ รวมถึงเลขาสมาคม ที่ช่วยพาสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยผ่านวิกฤตต่างๆ อย่างโควิด-19 จนเป็นที่ไว้วางใจของสังคม และได้รับมอบหมายให้ทำงานสำคัญมากมายนอกจากนี้ "มะเดี่ยว" ยังขอบคุณผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกคน ที่แสดงความตั้งใจจะพัฒนาวงการภาพยนตร์ไทยให้ดีขึ้น และหวังว่าจะได้ร่วมงานกันในอนาคต"มะเดี่ยว" ยังเน้นย้ำว่า เขาจะไม่ทำให้ความไว้วางใจของสมาชิกสูญเปล่า และจะเริ่มดำเนินนโยบายต่างๆ ที่วางไว้อย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกคน พร้อมหวังให้ทุกคนมีความสุขและโชคดีในการทำงานร่วมกัน

ในยุคที่ความบันเทิงแบบตะวันตกเข้ามามีบทบาทเป็นที่ชื่นชอบในเมืองไทยอย่างแพร่หลาย เสด็จพระองค์ชายใหญ่จึงมีความคิดที่จะใช้ภาพยนตร์เพื่อเผยแพร่ความบันเทิงแบบไทยที่ได้รับความนิยมลดลงนี้ให้กลับมาอยู่ในความคิด และความรู้สึกของคนไทยอีกครั้ง

ย้อนรอยอดีตสู่การสร้างสรรค์ในปัจจุบัน

ฟื้นชีวิตพื้นที่อัศวิน

เวลาผ่านไปกว่า 50 ปี ศิลปะและความบันเทิงรูปแบบใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงบริบททางสังคมและวัฒนธรรม การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ไปอย่างสิ้นเชิง การชุบชีวิตพื้นที่ 'อัศวิน' ขึ้นมาอีกครั้งในปี 2567 นี้ จะเป็นการนำรากมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมในอดีต มาตีความ สื่อสารใหม่โดยศิลปินร่วมสมัย 'พิเชษฐ กลั่นชื่น' เพื่อเชื่อมเรื่องราวจากอดีตถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดการถกเถียง ครุ่นคิด สร้างสรรค์ทางศิลปะและวัฒนธรรมต่อยอดสู่คนรุ่นต่อไป

ละครเร่สู่การแสดงร่วมสมัย

เล่าเรื่องเมืองอัศวิน "เงาะรจนา"การแสดงละครนอก ในภาพยนตร์เรื่องละครเร่ของคณะพ่อครูทับ จะถูกสร้างใหม่ในวิธีการของคณะละครเร่พ่อครูพิเชษฐ โดยมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาประกอบในกระบวนการแสดง ตั้งแต่การถ่ายภาพนักเต้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อปรับแต่งและแสดงผลในรูปแบบแกลเลอรีสามมิติ ซึ่งผู้ชมจะสามารถเข้าร่วมชมและสัมผัสกับนิทรรศการที่แสดงควบคู่กับการแสดงสดได้ภายในพื้นที่เดียวกัน เพื่อค้นหาเนื้อคู่ที่แท้จริง ระหว่างโลกเสมือนจริงกับโลกความเป็นจริง

ความร่วมมือระหว่างศิลปินชั้นนำ

'อัศวิน' ร่วมกับ 'พิเชษฐ กลั่นชื่น' และ Pichet Klunchun Dance Company ภูมิใจเสนอการแสดงที่จะนำทุกคนย้อนอดีตกลับมาสัมผัสกับบรรยากาศแห่งการสร้างสรรค์บนพื้นที่ที่เคยสร้างเรื่องราวแห่งยุคสมัย ด้วยเรื่องเล่าที่ถูกผสมผสานข้ามกาลเวลาจาก 'ละครเร่' ภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นโดยบริษัทอัศวินภาพยนตร์ กำกับโดย พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ ยุคล เมื่อ พ.ศ. 2512

ตารางการแสดง

กำหนดการแสดงวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. 2567 เวลา 19.00 น.วันเสาร์ที่ 16 พ.ย. 2567 เวลา 19.00 น.วันอาทิตย์ที่ 17 พ.ย. 2567 เวลา 19.00 น.ราคาบัตร 1,000 บาทซื้อบัตรเข้าชมได้ที่https://shop.line.me/@asvinสถานที่ : พื้นที่ศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัยอัศวิน เลขที่ 9 ถนนนาคราช แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานครสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : Line @Asvin

กรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมออกข้อบัญญัติใหม่เพื่อควบคุมการเลี้ยงและปล่อยสัตว์ในพื้นที่ โดยจะบังคับให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องฝังไมโครชิป เพื่อระบุตัวตนและความรับผิดชอบ รวมถึงมีมาตรการเฉพาะสำหรับสุนัขพันธุ์ดุ เพื่อป้องกันปัญหาความเดือดร้อนรำคาญและอันตรายจากสัตว์เลี้ยง

ข้อบัญญัติใหม่ กทม. ควบคุมการเลี้ยงสัตว์อย่างเข้มงวด

ห้ามเลี้ยงสัตว์ในที่สาธารณะ

ร่างข้อบัญญัติฉบับใหม่ของ กทม. ระบุห้ามมิให้ผู้ใดเลี้ยงสุนัขและแมวในที่หรือทางสาธารณะ หรือในที่ของบุคคลอื่นโดยปราศจากความยินยอม เพื่อป้องกันปัญหาความเดือดร้อนรำคาญและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยเจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องรับผิดชอบดูแลสัตว์ของตนอย่างเคร่งครัด

จำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงตามขนาดพื้นที่

ข้อบัญญัติใหม่ยังกำหนดจำนวนสุนัขและแมวที่สามารถเลี้ยงได้ตามขนาดพื้นที่ เช่น อาคารชุดหรือห้องเช่าขนาด 20-80 ตารางเมตร เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว หากเกินต้องไม่เกิน 2 ตัว และที่ดินขนาด 20-50 ตารางวา เลี้ยงได้ไม่เกิน 3 ตัว เป็นต้น เพื่อป้องกันปัญหาความแออัดและความเดือดร้อนรำคาญ

ฝังไมโครชิประบุตัวตนเจ้าของ

ข้อบัญญัติใหม่ยังกำหนดให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงทุกตัวต้องนำสัตว์ไปฝังไมโครชิปเพื่อระบุตัวตนและความรับผิดชอบ โดยต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุขหรือสำนักงานอื่นที่ กทม. กำหนด ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสัตว์จรจัดและเพิ่มความรับผิดชอบของเจ้าของ

ควบคุมสุนัขพันธุ์ดุเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ ข้อบัญญัติยังกำหนดมาตรการเฉพาะสำหรับสุนัขพันธุ์ดุ เช่น พิทบูล บูลเทอร์เรีย รอทไวเลอร์ ฯลฯ โดยเมื่อออกนอกสถานที่เลี้ยง ต้องใส่อุปกรณ์ครอบปาก ใช้สายจูงที่มั่นคงแข็งแรง และจับสายจูงห่างจากคอสุนัขไม่เกิน 50 เซนติเมตร เพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้อื่น

ลดจำนวนสัตว์จรจัด

จากการสำรวจ กทม. พบว่า ในปี 2567 มีสุนัขและแมวทั้งหมด 198,688 ตัว โดยเป็นสุนัขและแมวจรจัดรวม 28,870 ตัว ดังนั้น ข้อบัญญัติใหม่จะช่วยให้ กทม. สามารถควบคุมจำนวนสัตว์จรจัดได้ดีขึ้น โดยมีหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการทำหมันสัตว์จรจัดในแต่ละพื้นที่

ผู้ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนข้อบัญญัติดังกล่าวจะมีโทษตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยให้ กทม. สามารถแก้ไขปัญหาจรจัดและสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ