เมื่อเราไปมองที่สถานการณ์จริงในถนนพหลโยธิน เราได้เห็นภาพที่แปลก不惊. สถานที่ไฟไหม้เกิดอยู่ในช่องทางซ้ายของถนน ซึ่งทำให้รถประจำทางติดกันอย่างมาก. รถเมล์ดูดูดอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สะดวกและลำบาก. นอกจากนี้ยังไม่มีใครที่รู้ว่าความรุนแรงของไฟไหม้จะเป็นอย่างไรและจะมีผลต่อการเคลื่อนที่ของรถในช่วงเวลานี้.
ถ้าเราลองมาสังเกตเพิ่มเติม เราอาจจะเห็นว่าความรุนแรงของไฟไหม้ไม่เพียง止于此. มันอาจจะมีผลต่อการเคลื่อนที่ของรถในช่วงเวลานี้และอาจจะสร้างปัญหาในการจราจร. เราต้องรอเพื่อดูว่าความรุนแรงของไฟไหม้จะมีผลต่อชีวิตประจำทางและการเคลื่อนที่ของรถในช่วงเวลานี้.
การเกิดไฟไหม้ในถนนพหลโยธินจะมีผลกระทบต่อชีวิตประจำทางอย่างมาก. รถที่ติดกันจะทำให้การเคลื่อนที่ของรถ变得ยากลำบากและอาจจะสร้างปัญหาในการจราจร. นอกจากนี้ยังอาจจะมีผลต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารในรถและอาจจะสร้างความลำบากในการเดินทางในช่วงเวลานี้.
เราต้องรู้ว่าความรุนแรงของไฟไหม้จะมีผลต่อชีวิตประจำทางและการเคลื่อนที่ของรถในช่วงเวลานี้. เราต้องทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาและให้ชีวิตประจำทางกลับสู่สภาพปกติ. เราต้องรอเพื่อดูว่าความรุนแรงของไฟไหม้จะมีผลต่อชีวิตประจำทางและการเคลื่อนที่ของรถในช่วงเวลานี้.
ในอนาคตเราต้องคาดหวังว่าความรุนแรงของไฟไหม้จะไม่มีผลต่อชีวิตประจำทางและการเคลื่อนที่ของรถในช่วงเวลานี้. เราต้องรอเพื่อดูว่าความรุนแรงของไฟไหม้จะหายไปและชีวิตประจำทางจะกลับสู่สภาพปกติ. เราต้องทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาและให้ชีวิตประจำทางกลับสู่สภาพปกติ.
เราต้องรู้ว่าความรุนแรงของไฟไหม้จะมีผลต่อชีวิตประจำทางและการเคลื่อนที่ของรถในช่วงเวลานี้. เราต้องทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาและให้ชีวิตประจำทางกลับสู่สภาพปกติ. เราต้องรอเพื่อดูว่าความรุนแรงของไฟไหม้จะมีผลต่อชีวิตประจำทางและการเคลื่อนที่ของรถในช่วงเวลานี้.
พบว่า รถยนต์รุ่นใหม่ของ Avatr E16 มีลักษณะที่ชัดเจนและแสนน่าสนใจ. มีการใช้ไฟ Daytime Running Light และไฟด้านล่างที่วางคู่กันเหมือนกับ Avatr 07. ส่วนบนหลังคาด้านหน้าติดตั้ง LiDAR เพื่อช่วยในการตรวจจับแวดล้อม. ด้านข้าง รถมีมือจับประตูแบบซ่อนและกระจกประตูแบบไร้กรอบ ซึ่งเป็นลักษณะที่แตกต่างจากรุ่นที่แล้ว. และในรุ่นท็อปมันอาจจะใช้กล้องมองข้างแทนกระจกมองข้างแบบธรรมดา ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าและช่วยให้แอโรไดนามิกดีขึ้น.
ยังมีหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่ 15.6 นิ้วและหน้าจอยาวด้านหลังแผงหน้าปัด 35.4 นิ้ว. ในรุ่นที่มีกล้องมองข้างจะมีหน้าจอแสดงผล 6.7 นิ้วทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถได้รับข้อมูลมากขึ้นและมีความสะดวกในการใช้งาน.
Avatr E16 จะสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม CHN ที่พัฒนาโดย Changan, Huawei และ CATL. สysteมขับเคลื่อนของรถใช้ HarmonyOS 4.0 ของ Huawei ซึ่งทำให้การควบคุมและการใช้งานของรถ变得更加顺滑และมีความแม่นยำ. ส่วนสำหรับเวอร์ชัน BEV ในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า กำลัง 252 kW ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD จะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า กำลัง 188 kW เข้ามา.
และรถรุ่นใหม่นี้คาดว่าจะใช้แบตเตอรี่ 4.5C ขนาด 82.16 kWh จาก CATL ซึ่งทำให้รถมีระยะที่เดินได้ยาวและประสิทธิภาพดี.
ใน Avatr 07 ยังมีเวอร์ชัน EREV ซึ่งในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า กำลัง 231 kW และในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD จะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้า กำลัง 131 kW ที่ล้อหน้า. รถใช้เครื่องยนต์ JL469ZQ1 Turbocharge 1.5L มีกำลังสูงสุด 115 kW และน่าจะใช้แบตเตอรี่ขนาด 39.05 kWh โดยเป็นแบตเตเตอรี่โซเดียมไอออน Freevoy ตัวใหม่ของ CATL.
คาดว่า Avatr จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าซีดานรุ่นใหม่นี้ช่วงครึ่งแรกของปี 2025 และราคาน่าจะต่ำกว่า Avatr 07 เล็กน้อย ซึ่งมีราคา 219,900 – 289,900 หยวน.
Toyota เคยแค่ไว้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า Lexus รุ่นใหม่นี้จะมีแบตเตอรี่ที่สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กม. (621 ไมล์) ตามมาตรฐาน WLTP และมีระบบชาร์จเร็วจาก 10-80% ในเวลาเพียง 20 นาที. แต่ล่าสุด รายงานจากสื่อญี่ปุ่น NHK เผยว่า Toyota ได้เลื่อนการเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Lexus ออกไปจนถึงกลางปี 2027 เนื่องจากกำลังพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตแบบใหม่ที่รวมถึงการผลิตแบบ Giga-Casting เพื่อลดต้นทุนและเร่งการผลิตที่รวดเร็วมากขึ้น.
การเปลี่ยนแผนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากสื่อ Nikkei เผยว่า Toyota กำลังเลื่อนการผลิตรถ SUC ไฟฟ้า 3 แถวในสหรัฐอเมริกาออกไปจนถึงครึ่งแรกของปี 2026 โดยคาดว่าจะเริ่มประกอบรถ SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่โรงงานในรัฐเคนตักกี้ ในปี 2025 และคาดว่าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ประมาณ 1 ล้านคันภายในปี 2026 ซึ่งลดจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 1.5 ล้านคัน.
การเลื่อนแผนรถยนต์ไฟฟ้านั้นไม่ได้มีเพียงแค่ Toyota เท่านั้น. ก่อนหน้านี้มีผู้ผลิตอีกหลายราย เช่น Ford, GM, Volkswagen และบริษัทอื่น ๆ ก็เลื่อนแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกไปเช่นกัน. สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาและการเปิดตัวของรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและหลายบริษัทกำลังทำความพยายามเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปัจจุบันและอนาคต.
สำหรับแฟน ๆ Toyota ก็อาจจะต้องอดใจรออีกประมาณ 2 ปี ที่อาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Toyota กับรถยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งระยะทางกว่า 1,000 กม. สิ่งนี้อาจจะสร้างความคาดหวังและความสนใจในการติดตามความก้าวหน้าของ Toyota ในด้านของรถยนต์ไฟฟ้า.