รถ
ชุมพร: สถานการณ์ที่แปลกประหลาด
2024-11-28
ในชุมพรมีเรื่องที่ดึงดูดความสนใจมาก. ครั้งหนึ่งรถเก๋งหรูถูกดอดมอบตัวโดยคนที่ไม่ใช่เจ้าของรถ. นักข่าวได้ชี้แจงรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับสถานการณ์นี้.

ที่สำคัญและแปลกประหลาด

การดอดมอบตัวรถเก๋งหรู

ชุมพรเป็นที่มีเรื่องที่ดึงดูดความสนใจมาก. สาวขับเก๋งหรูชนดับ 3 ศพ ที่แท้ไม่ใช่เจ้าของรถได้ถูกดอดมอบตัว. นักข่าวได้ชี้แจงรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับสถานการณ์นี้. รถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อ BMW หมายเลขกจ 44 นครศรีธรรมราช ถูกขับมาด้วยความเร็วพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ รุ่นเวฟ 110 ไอ หมายเลข 1 กณ 9257. มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ ซึ่งทั้งหมดเป็นแม่ลูกกัน. ผู้ขับรถ BMW ได้ขอให้ขาวบ้านช่วยหาแมวสายพันธุ์ต่างประเทศจนเจอ แล้วทิ้งรถเก๋งคันหรูอุ้มพาแมวหลบหนีหายไปกับความมืด.

สถานการณ์หลังจากเกิดเหตุ

หลังจากเกิดเหตุนี้ สถานการณ์ในชุมพรเป็นที่ยากลำบาก. นายสุวิทย์ เพชรทองไทย อายุ 60 ปี 46/1 ม.1 ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร เป็นลุงเขยของเด็กทึ่เสียชีวิต. เขาได้กล่าวว่า ตนเองรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมากที่ต้องสูญเสียญาติที่เดียวถึง 3 ราย. นายสถาพร ภิไลวรรณ พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ รพ.สต.วิสัยเหนือ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองจะมาดูแลผู้ป่วยติดเตียงที่มีอายุ มากว่า 80 ปี ที่บ้านของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย. นายดำ แพนุ้ย อายุ 65 ปี 130/1 ม.3 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร เปิดเผยว่า รถยนต์เก๋ง BMW คันที่เกิดเหตุนั้น เป็นของ น.ส.ภารดา แพนุ้ย ลูกสาวของตนเอง.

การตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐาน

ด้านนายดำ แพนุ้ย กล่าวว่า ลูกสาวของตนไม่ได้เป็นคนขับเพราะช่วงนั้นมีงานศพของแม่ยายของตนได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ตำบลนาทุ่ง อ.เมืองชุมพร. น.ส.จิรันธนิน ซึ่งเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของลูกตน ซึ่งเดินทางมาจากจ.นครศรีธรรมราช เพื่อมาร่วมงานได้ขอขับรถคันดังกล่าว. หลังจากเกิดเหตุนั้น น.ส.จิรันธนิน ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่หลบไปอยู่ในที่มืดเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย. ตำรวจได้พิสูจน์หลักฐานและเก็บร่องรอยนิ้วมือในรถคันที่เกิดเหตุ. พบตรงกับ น.ส.จิรันธนิน ประกอบกับพยานแวดล้อมพบว่า น.ส.ภารดา แพนุ้ย เจ้าของรถ นั้นอยู่ที่ภายในงานศพยายที่ตำบลนาทุ่งจริง.

การสอบสวนและประกันตัว

พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้ใช้เวลาสอบนานกว่า 5 ชั่วโมงเพื่อตรวจสอบ น.ส.จิรันธนิน. ก่อนหน้านั้นประมาณ 20 นาที ได้มีตำรวจขับรถควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ติดตู้กรงเหล็กเข้ามาจอดติดเครื่องรออยู่หน้า สภ.เมืองชุมพร. จากนั้นรถตำรวจได้พาตัว น.ส.จิรันธนิน ผู้ต้องหาออกทางประตูหลัง แล้วรีบนำตัวผูต้องหาขึ้นรถยนต์สายตรวจตอนครึ่ง ออกไปทันที. รถตำรวจที่ติดตู้กรงเหล็กติดเครื่องรออยู่ได้ขับออกไปจอดในลาดจอดรถตามปกติ. และผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวในวงเงินจำนวน 1 แสนบาท.
สถานการณ์น้ำท่วมในจ.สงขลา
2024-11-28
ในช่วงเย็นของวันนี้ (28 พ.ย.67) ในจ.สงขลา ได้เกิดเหตุน้ำซัดรถกระบะอีซูซุ. ตอนครึ่ง ทะเบียน ผต 565 สงขลา ตกลงไปในคลองทุ่งงาย หลังตลาดนัดบ้านทุ่งงาย ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่. รถกระบะรวมทั้งคนขับถูกกระแสน้ำพัดพาลอยไปในคลองห่างจากจุดทกลงไปประมาณ 1 กิโลเมตร. ส่วนรถกระบะโผลแค่หลังคา และคนขับชื่อ นายวีรยุทธ วุฒิสันติกุล อายุ 67 ปี ถูกน้ำพัดหายไปและยังไม่พบคาดว่าถูกนำพัดไป. ตอนนี้ยังสูญหาย.

ผลกระทบจากเหตุการณ์

จากการสอบถามผู้ที่เห็นเหตุการณ์得知ว่า ตอนเกิดเหตุ รถกระบะคันนี้ได้ขับฝ่ายกระแสน้ำที่ค่อนข้างลึกและน้ำไหลเชี่ยวและรถเกิดไปดับกลางสะพาน. คนขับได้ลงมาจากรถแล้ว แต่ตอนยืนอยู่ข้างรถถูกกระแสน้ำได้ซัดรถกระบะและพาคนขับลงไปในคลอง. ทั้งคนทั้งรถหายไป.หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีท่งเซียเซี่ยงตึ้งหาดใหญ่ ได้ส่งนักประดาน้ำลงไปงมหาขนขับที่คาดว่าอาจจะติดอยู่ที่รถแต่ก็ไม่พบคาดว่าถูกนำพัดไป. ตอนนี้ยังสูญหาย. เบื้องต้นหน่วยกู้ภัยและชาวบ้านได้ช่วยกันดึงรถกระบะคันนี้ขึ้นมาจากน้ำแล้วและจะค้นหาคนขับอีกครั้ง.

สถานการณ์น้ำในพื้นที่รอบตัวเมืองหาดใหญ่

ในช่วงค่ำที่ผ่านมา มวลน้ำที่เอ่อล้นมาจากคลองหวะได้ทะลักเข้าสู่ตัวเมืองหาดใหญ่ชั้นในทางด้านชุมชนจันทร์วิโรจน์และชุมชนรัตนวิบูลย์แล้วและอยู่ในภาวะเสี่ยงที่น้ำจะไหลเข้าสู่ย่านเศรษฐกิจการค้า. ซึ่งเป็นพื้นที่ไข่แดงใจกลางเมืองหาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลกัน. ทุกฝ่ายกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดว่าจะล้นเข้าสู่ย่านเศรษฐกิจกลางเมืองหรือไม่. น้ำท่วมในพื้นที่นี้มีความเสี่ยงมากและอาจมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อยู่ในบริเวณนี้. เราต้องระวังและเตรียมตัวสำหรับสถานการณ์เช่นนี้.

การรักษาและค้นหาคนขับ

หน่วยกู้ภัยและชาวบ้านได้ช่วยกันดึงรถกระบะคันนี้ขึ้นมาจากน้ำแล้วและจะค้นหาคนขับอีกครั้ง. การค้นหาคนขับนี้เป็นเรื่องสำคัญเพื่อให้คนที่หายไปได้รับการสนับสนุนและรักษา. เราต้องทำความ diligently เพื่อหาคนขับและให้ความรอดให้เขา. ส่วนการรักษาและค้นหาคนขับนี้ยังเป็นกระบวนการยาวและยากลำบาก แต่เราต้องยึดมั่นและไม่ลดความสนับสนุน.
See More
การกระทบของ “สงครามราคารถ” บริษัท โตโยต้า
2024-11-28
โตโยต้าเป็นหนึ่งในบริษัทยานยนต์ที่มีความสำคัญในประเทศไทย. การกระทบของ “สงครามราคารถ” มีผลต่อหลายด้านของบริษัท เช่น โซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์ และลูกค้าที่ต้องการความคุ้มค่าในการใช้งานรถยนต์ในอนาคต.

ผลกระทบของ “สงครามราคารถ” บริษัท โตโยต้า

ผลกระทบต่อโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์

โตโยต้ามองการทำ “สงครามราคารถ” จะกระทบห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมาก. ผู้ผลิตรถ, ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถ, ลีสซิ่ง, ประกันภัย, อู่ซ่อมรถ และร้านประดับยนต์ सभ皆ถูกกระทบ. การลดราคาในระดับของรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อรถยนต์เพื่อรอการลดราคา. แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนมีศักยภาพการแข่งขันค่อนข้างสูง แต่โตโยต้าไม่ได้ต้องการลงไปแข่งขันในตลาดดังกล่าวเพราะยังคำนึงถึงห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมยานยนต์.

ผลกระทบต่อลูกค้า

ลูกค้าซื้อรถยนต์ไปใช้คงจะใช้มากกว่า 10 ปี. การบริหารหลังขายโปรแกรมด้านการเงินจากสถาบันการเงินเป็น Value chain สำคัญที่จะสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นกับลูกค้า. โตโยต้าประกาศว่าจะผลิตและจำหน่ายรถปิกอัพ BEV ในปลายปีหน้า ซึ่งเป็นความท้าทายเป็นอย่างยิ่ง. เราคิดว่าผู้บริโภคจะเป็นผู้เลือกว่าเทคโนโลยีไหนจะเหมาะสม. โตโยต้าสามารถขาย HEV มียอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น 40% ในขณะที่รถ BEV มียอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น 1%. นumeric ทั้งสองนี้คงจะเป็นข้อพิสูจน์ในการเลือกเทคโนโลยีของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี.

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

มิสเตอร์โนริอากิกล่าวว่าภาพรวมสถานการณ์ยานยนต์ในปัจจุบันค่อนข้างมีความยากลำบาก. การผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในประเทศลดลง แต่ยอดส่งออกยังคงทรงตัว. ด้วยเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น GDP ในไตรมาสที่ 3/67 มีการขยายตัว 3% และการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25 % ของธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะทำให้สถานการณ์ค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นอุตสาหกรรมยานยนต์มีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง.โตโยต้าได้สร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน มีรถยนต์จากพลังงานต่างๆ ให้เลือกมากมาย ไม่ได้จำกัดแค่ BEV แต่ยังมีรถ HEV, PHEV รวมถึงรถยนต์ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน. รถปิกอัพเป็นเสาหลักของโตโยต้า ซึ่งจะพัฒนารถปิกอัพไฟฟ้า BEV ใหม่ออกมาให้ได้ดีตอบรับความต้องการของลูกค้า โดยการนำไปใช้ในโครงการรถสองแถวโครงการหนึ่ง เพื่อเก็บข้อมูลเพื่อใช้ประโยชน์ในการศึกษาด้านการใช้งานต่อไป.ดังนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 ถึงแม้ว่ายอดการผลิตโดยรวมของโตโยตาจะลดลง แต่ยอดการส่งออกที่ยังคงทรงตัว และยอดการจำหน่ายในประเทศที่ลดลงร่วม 20% เมื่อเปรียบเทียบกับปี พ.ค. 2562 เช่นเดียวกับการหดตัวของตลาดในประเทศ. เมื่อรวมกับยอดส่งออกแล้ว โตโยตาได้รับผลกระทบเพียงครึ่งหนึ่ง คือมียอดการผลิตที่ลดลงเพียง 10 % เท่านั้น และยอดการจำหน่ายในประเทศทั้งหมดที่ระดับไม่เกิน 600,000 คันนี้ ถือว่าต่ำมาก.
See More