journalfront

สัตว์เลี้ยง

งานวิจัยสูตรสเปรย์สมุนไพรกัญชาแมวต้านเชื้อจุลชีพ

2024-11-19

ในยุคที่การดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงสำคัญมาก โรคผิวหนังจากเชื้อจุลชีพยังคงเป็นปัญหาที่ต้องเผชิญเจ้าของสัตว์เลี้ยงและสัตวแพทย์ ซึ่งก็ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงที่รักด้วย

Brighter Future with KKU Research

จุดเริ่มต้นของงานวิจัย

เกิดจากแนวคิดเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสมุนไพรกัญชาแมว ซึ่งไม僅มีสรรพคุณในการทำให้แมวอารมณ์ดี แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ในการรักษาโรคผิวหนังในสัตว์ได้ด้วย.ทีมวิจัยได้นำสมุนไพรกัญชาแมวมาสกัดและพัฒนาเป็นสูตรสเปรย์ที่มีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อจุลชีพ.

ประสิทธิภาพในการต้านเชื้อจุลชีพ

จากการศึกษาและทดลองอย่างละเอียดพบว่า สเปรย์สมุนไพรกัญชาแมวที่พัฒนาขึ้นนี้มีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อจุลชีพที่ก่อโรคผิวหนังอักเสบในสัตว์ได้ถึง 6 ชนิด ได้แก่ เชื้อแบคทีเรียสตาฟิโลค็อกคัส ซูดอินเตอร์มิเดียส เชื้อยีสต์มาลาสซีเซีย พาไคเดอร์มาติส เชื้อราไมโครสปอรัม เคนิส เชื้อไมโครสปอรัม จิปเซียม เชื้อไมโครสปอรัม กัลลิเน และเชื้อไทรโคไฟตัน เมนทาโกรไฟต์ ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยง.ปกติเมื่อสัตว์เป็นโรคผิวหนัง มักจะต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษา ซึ่งนอกจากจะมีราคาแพงแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดการดื้อยาในระยะยาว แต่เมื่อใช้สเปรย์สมุนไพรกัญชาแมวนี้ นอกจากจะช่วยยับยั้งเชื้อจุลชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ อีกทั้งยังช่วยลดการใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาการดื้อยาได้อีกทางหนึ่ง.

มิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นวัตกรรมนี้ไม僅มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคผิวหนังในสัตว์เท่านั้น แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติและกระบวนการผลิตที่ไม่ซับซ้อน ช่วยลดการใช้สารเคมีและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า.ทีมวิจัยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (prototype) ที่พร้อมสำหรับการศึกษาในระดับคลินิกหรือทดลองในสัตว์ โดยมีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์นี้ไปศึกษาวิจัยในสัตว์เพิ่มเติม เพื่อรวบรวมข้อมูลและพัฒนาให้พร้อมสำหรับการผลิตในเชิงพาณิชย์ในอนาคต.นวัตกรรมสเปรย์สมุนไพรกัญชาแมวต้านเชื้อจุลชีพนี้ ไม僅เป็นความหวังใหม่ในการรักษาโรคผิวหนังในสัตว์เลี้ยง แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาต่อยอดด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการวิจัยและพัฒนาในวงการสัตวแพทย์ของประเทศไทย.สำหรับผู้ประกอบการหรือนักลงทุนที่สนใจนวัตกรรมสเปรย์สมุนไพรกัญชาแมวต้านเชื้อจุลชีพนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ รองศาสตราจารย์ ดร.จรีรัตน์ เอี่ยมสะอาด คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ ศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญา มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

ในวันนี้ (19 พ.ย.) ในประเทศจีนเกิดเหตุสะเทือนขวัญอีกครั้ง. มีคนร้ายก่อเหตุโดยขับรถพุ่งชน “เด็กนักเรียน” และคนเดินถนนที่หน้าโรงเรียนประถมศึกษาในเมืองฉางเต๋อ (Changde) มณฑลหูหนาน. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก, รวมถึงเด็กนักเรียน. หลังจากเหตุการณ์ล่าสุดในทำนองนี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วจนมีผู้เสียชีวิตถึง 35 คน.

รายงานข่าวและภาพวิดีโอ

จากรายงานข่าวและภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด เราได้เห็นรถยนต์เอสยูวีสีขาวคันหนึ่งขับพุ่งเข้าหาฝูงชนที่บริเวณหน้าโรงเรียนในตอนเช้าเมื่อเด็กๆ กำลังเดินเข้าโรงเรียน. มีพ่อแม่ผู้ปกครองกำลังมาส่งบุตรหลาน, ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน, รวมถึงเด็กนักเรียน. บางคนลงไปกองกับพื้น, ท่ามกลางเสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ.ภาพวิดีโอยังเผยให้เห็นชายคนหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นผู้ขับรถ “ถูกรุมประชาทัณฑ์” ลงไปนอนกองกับพื้น ก่อนที่ตำรวจจะเข้ามาจับกุมตัวไป. โดยตำรวจระบุว่าคนขับรถคันดังกล่าวเป็นชายวัย 39 ปี แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม.

โรงเรียนในสถานที่เกิดเหตุ

รอยเตอร์สามารถยืนยันโรงเรียนในสถานที่เกิดเหตุตามภาพในกล้องวิดีโอวงจรปิดได้ว่าเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กนักเรียนชั้นประถมอายุระหว่าง 6 - 12 ปี. ซึ่งเป็นข้อมูลตามที่มีรายงานข่าวและแพร่หลายในโลกโซเชียลจริง.

ผลกระทบและความกังวลในโซเชียล

เหตุการณ์ครั้งนี้เพิ่งเกิดขึ้นห่างกันเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้นหลังจากเหตุสะเทือนขวัญชาวจีนทั้งประเทศในเมืองจูไห่ (Zhuhai) มณฑลกวางตุ้งเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 35 คนและบาดเจ็บอีกถึง 43 คน. นับเป็นเหตุความรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 10 ปีของจีน.ด้านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในจีน เช่น เว่ยปั๋ว ต่างเต็มไปด้วยการแสดงความเห็นและความกังวลต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันในช่วงนี้. “ทำไมช่วงนี้เหตุการณ์แบบนี้ถึงเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ทั้งชนแล้วหนี แถมยังเกี่ยวข้องกับเด็กนักเรียนตลอดเวลา เกิดอะไรขึ้นกับสังคมตอนนี้” ผู้แสดงความคิดเห็นรายหนึ่งระบุบนเว่ยปั๋ว.ด้านสำนักงานอัยการสูงสุดของประชาชนจีนได้เผยแพร่ข้อความในเว่ยปั๋วระบุว่า ทีมอัยการระดับสูงได้ประชุมหารือกันทันทีในวันอังคาร เพื่อเพื่อหารือเกี่ยวกับการตัดสินโทษสำหรับ “อาชญากรรมร้ายแรงและรุนแรง” ตลอดจนอาชญากรรมที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยสาธารณะ.

วันที่ 19 พ.ย.67 เมื่อเวลา 16.00 น.พ.ต.ท.ธนัช นครไธสง สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดบนถนน 4 เลน สายบุรีรัมย์-นางรอง. บริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง จึงประสานรถดับเพลิงหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์และรถดับเพลิงใกล้เคียงร่วมระงับเหตุ.

สตริงเกอร์ บุรีรัมย์ไฟไหม้รถตู้โดยสาร

การเกิดเหตุและผู้โดยสาร

ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้รถตู้ประจำทางสีขาว ขนาด 13 ที่นั่ง บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุพบผู้โดยสารเป็นชาย 1 หญิง 5 และมีเด็กนักเรียนรวมอยู่ด้วย 1 คน. ส่วนรถดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำดับไฟใช้เวลา 20 นาทีจึงระงับเพลิงไว้ได้. เบื้องต้นพบว่ารถตู้เสียหายหมดทั้งคัน.จากการสอบถามนายบุญทัน โยโพธิ์ อายุ 62 ปี คนขับรถตู้เล่าว่าปกติตนไม่ได้ขับรถคันนี้แต่คนขับประจำไม่อยู่ไปธุระ ผู้จัดการจึงให้ตนขับแทนเท่าที่ทราบรถคันนี้เพิ่งขับมาจอดยังไม่ได้ตรวจเช็คเครื่องยนต์ ระหว่างทางที่รับผู้โดยสารออกจาก จ.นครราชสีมา มาส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.บุรีรัมย์ ก็ไม่มีสิ่งผิดปกติ. จากนั้นตนเองได้รับผู้โดยสารจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจ.บุรีรัมย์ ปลายทาง จ.นครราชสี. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นควันดันออกมาจากห้องเครื่องยนต์เป็นจำนวนมากจึงตัดสินใจจอดรถเพื่อจะตรวจสอบแต่ไม่ทันไฟเกิดลุกไหม้ขึ้นทันที จึงรีบเปิดประตูให้ผู้โดยสารออกจากรถได้ทันโชคดีเที่ยวนี้มีผู้โดยสารไม่เต็มรถประกอบกับประตูเปิดง่าย พอผู้โดยสารลงจากรถหมดก็ได้ยินเสียงระเบิดหลายครั้งจนลุกไฟไหม้ท่วมรถเสียหายหมดทั้งคัน. ทั้งนี้รถตู้คันดังกล่าวใช้เชื้อเพลิงเป็นแก๊ส NGV.

ความคิดเห็นของผู้โดยสาร

ด้าน นางสาวอัมพร อบเชยรัมย์ อายุ 49 ปี ซึ่งเป็น 1 ในผู้โดยสารเล่าว่าก่อนที่ตนเองจะขึ้นรถตู้เพื่อที่จะกลับบ้านได้ยินคนขับรถ 2 คน คุยกันบอกว่าอะไหล่บางอย่างจะต้องเปลี่ยนแต่ตนไม่รู้ว่าคืออะไร แต่คนขับก็ขับมาเหมือนเดิมจนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว.อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้อย่างละเอียดอีกครั้ง.