ในปีที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและการท้าทายมากมาย อุตสาหกรรมภาพยนตร์กำลังเตรียมพร้อมสำหรับคืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฮอลลีวูด ซึ่งอาจเป็นจุดสิ้นสุดของฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความไม่สงบ การแข่งขันชิงรางวัลออสการ์ในปีนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการเฉลิมฉลองความสามารถทางศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงความซับซ้อนและความไม่คาดฝันของชีวิตอีกด้วย คริสโตเฟอร์ วอลเคน ผู้ได้รับรางวัลออสการ์ ได้กล่าวไว้ว่า "ชีวิตไม่สามารถคาดเดาได้เลย" คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนที่อยู่เบื้องหลังการมอบรางวัลครั้งนี้
เมื่อมองไปที่ผู้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ตอนนี้เหลือเพียงสามเรื่องจากที่เคยมีมากกว่า ส่วนภาพยนตร์แนวอาชญากรรมและเพลงเรื่อง Emilia Pérez แม้จะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเสนอชื่อเข้าชิงมากที่สุด แต่ก็เผชิญกับปัญหาจากการทวีตข้อความเหยียดเชื้อชาติของนักแสดงนำหญิง ทำให้โอกาสในการคว้ารางวัลแทบจะหมดลง เนื่องจากบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix ต้องเน้นที่ผู้เข้าชิงอื่นๆ เช่น นักแสดงสมทบหญิงและเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ Anora และ The Brutalist ก็กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะ Anora ที่มีโอกาสชนะจากการคว้ารางวัลจาก Directors Guild of America (DGA) และ Producers Guild of America (PGA)
งานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 97 จะจัดขึ้นในวันที่ 2 มีนาคม ตามเวลาสหรัฐอเมริกา แม้ว่าบางภาพยนตร์อาจเผชิญกับความยากลำบาก แต่คืนนี้ยังคงเป็นการเฉลิมฉลองความสามารถและความสร้างสรรค์ของวงการภาพยนตร์ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร การแข่งขันชิงรางวัลออสการ์ก็ยังคงเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังของความสร้างสรรค์และความพยายามที่ไม่หยุดยั้งของผู้ทำงานในวงการภาพยนตร์ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก
การขยายตัวของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความต้องการคอนเทนต์ไทยในตลาดโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนตร์แนวสยองขวัญและคอมเมดี้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก การร่วมมือระหว่างบริษัท ฉายแสง แอดเวนเจอร์ และ The Ghost Radio ในโครงการ "Ghost Light" เป็นการตอบสนองต่อโอกาสทางธุรกิจในตลาดภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ โปรเจกต์นี้มีเป้าหมายในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่มีเอกลักษณ์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ชมและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
การร่วมมือระหว่าง บริษัท ฉายแสง แอดเวนเจอร์ และ The Ghost Radio ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญในวงการภาพยนตร์ไทย ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันพัฒนาโครงสร้างที่ชัดเจนสำหรับการผลิตภาพยนตร์แนวสยองขวัญ โดยนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากทั้งสองฝ่ายมาใช้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างภาพยนตร์ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โครงการ "Ghost Light" มีเป้าหมายในการสร้างภาพยนตร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยอาศัยฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นของ The Ghost Radio และความสามารถในการวางแผนการตลาดและการจัดจำหน่ายของ ฉายแสง แอดเวนเจอร์ ทั้งสองฝ่ายมองเห็นว่าภาพยนตร์แนวสยองขวัญยังคงเป็นแนวที่ได้รับความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในตลาดอาเซียน การร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้ภาพยนตร์ไทยเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่กว้างขวางมากขึ้น และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในระยะยาว
ภาพยนตร์สยองขวัญไทยยังคงเป็นที่ต้องการของตลาด โดยมีทั้งผลงานที่ได้รับเสียงตอบรับดีและไม่ดี แต่ทุกครั้งที่มีหนังผีเข้าฉาย ก็มักจะได้รับความสนใจเสมอ ความสำเร็จขึ้นอยู่กับตัวหนังว่าจะสามารถตอบโจทย์ผู้ชมได้แค่ไหน โครงการ "Ghost Light" มีโอกาสในการสร้างภาพยนตร์ที่สามารถดึงดูดผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยฐานผู้ฟังของ The Ghost Radio ที่ชื่นชอบเรื่องเล่าสยองขวัญ
การร่วมมือระหว่าง ฉายแสง แอดเวนเจอร์ และ The Ghost Radio ยังเน้นการสร้างภาพยนตร์ที่มุ่งเน้นไปที่เรื่องราวที่น่าสนใจ เช่น เรื่องผี ลี้ลับ หรือฆาตกรรม ซึ่งยังไม่มีค่ายไหนในไทยทำอย่างจริงจัง การโฟกัสไปที่การสร้างภาพยนตร์แนวนี้เป็นหลัก จะช่วยให้ภาพยนตร์ไทยสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าภายใน 2-4 ปีข้างหน้า ตลาดภาพยนตร์สยองขวัญยังคงมีศักยภาพสูง และจำเป็นต้องมีภาพยนตร์ที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ชมและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
ในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูด มีความสังเกตที่น่าสนใจว่าตัวละครตัวร้ายมักไม่ใช้ iPhone ซึ่งปรากฏว่ามาจากนโยบายที่แอปเปิลต้องการควบคุมภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวด ผู้กำกับไรอัน จอห์นสันได้เปิดเผยข้อมูลนี้กับ Vanity Fair ว่าแอปเปิลอนุญาตให้ใช้ iPhone ในภาพยนตร์ แต่มีเงื่อนไขว่าตัวร้ายไม่สามารถถือ iPhone เข้ากล้องได้ ประเด็นนี้ยังมีหลักฐานจากภาพยนตร์และซีรีส์ต่างๆ ที่ใช้โทรศัพท์เป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะและความดีของตัวละคร แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นบางครั้ง แต่โดยรวมแล้วแอปเปิลยังคงใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและน่าสนใจ
เมื่อมองย้อนกลับไปเกือบ 20 ปี นิตยสาร Wired เคยรายงานเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับซีรีส์ 24 ซึ่งตัวละครผู้ร้ายมักใช้คอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows ส่วนตัวเอกใช้ MacBook นี่เป็นตัวอย่างของการที่แอปเปิลให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นในภาพยนตร์ สื่อต่างๆ หรือทีวีซีรีส์ การควบคุมภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ทำให้แอปเปิลมีความโดดเด่นและสร้างความสนใจในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม มีภาพยนตร์และซีรีส์บางเรื่องที่ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎนี้ เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Parasite ที่ครอบครัวชนชั้นสูงใช้ iPhone ขณะที่ครอบครัวชนชั้นล่างใช้ Android ผู้กำกับ พง จุน-โฮ ใช้ Product Placement เพื่อเสริมเรื่องราวที่มีความซับซ้อนทางศีลธรรม นอกจากนี้ ภาพยนตร์ James Bond ก็มีการเปลี่ยนแปลงการใช้อุปกรณ์ตามสปอนเซอร์ในแต่ละภาค ซึ่งสะท้อนถึงการตัดสินใจของผู้กำกับและนักแสดงในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเรื่องราว
แม้ว่าแอปเปิลจะไม่เคยออกมายืนยันหรือปฏิเสธเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่การปล่อยให้เป็น “ความลับ” ที่รู้กันเฉพาะในฮอลลีวู้ดทำให้แบรนด์แอปเปิลยังคงสร้างความสนใจและถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด เพราะทำให้คนพูดถึงแบรนด์แอปเปิลโดยที่บริษัทไม่ต้องเสียเงินมากนัก นอกเหนือจากการให้สตูดิโอต่างๆ ยืมอุปกรณ์ไปใช้งาน การควบคุมภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ทำให้แอปเปิลมีความแข็งแกร่งและน่าสนใจอย่างต่อเนื่อง
การที่แอปเปิลให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ทำให้ภาพยนตร์และซีรีส์ต่างๆ มีแนวทางในการใช้อุปกรณ์ที่หลากหลายและสร้างสรรค์ แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นบางครั้ง แต่โดยรวมแล้วกฎนี้ยังคงทำให้แอปเปิลมีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและสร้างความสนใจอย่างต่อเนื่องในวงการภาพยนตร์