กิจกรรมกีฬาเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเยาวชน การแข่งขันซอฟท์เทนนิสระหว่างโรงเรียนในจังหวัดปทุมธานีถือเป็นเวทีที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักกีฬาอายุระหว่าง 12-18 ปี เพื่อฝึกฝนทักษะและเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ ผู้บริหารจากหลายภาคส่วนได้ร่วมกันวางแผนและดำเนินงานให้การแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างราบรื่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานักกีฬาซอฟท์เทนนิสเยาวชนให้มีความสามารถที่เท่าเทียมกับนักกีฬาระดับนานาชาติ
การแข่งขันนี้ประกอบด้วยหลากหลายประเภท อาทิเช่น ชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว, ชายคู่, หญิงคู่ และคู่ผสม ซึ่งครอบคลุมทุกวัยตั้งแต่ 12 ถึง 18 ปี แม้ว่าบางครั้งจะต้องเผชิญกับปัญหาในการจัดตารางเวลาเนื่องจากตรงกับช่วงสอบปลายภาค แต่กรมพลศึกษาก็ได้ปรับเปลี่ยนแผนการแข่งขันเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากสมาคมกีฬาซอฟท์เทนนิสแห่งประเทศไทย ทำให้นักกีฬาได้รับโอกาสในการสะสมประสบการณ์จากการแข่งขันมากขึ้น
การแข่งขันซอฟท์เทนนิสไม่เพียงแค่เป็นการทดสอบทักษะของนักกีฬาเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างสรรค์และพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในเวทีโลก การมีการแข่งขันที่สม่ำเสมอและการสนับสนุนจากผู้ปกครองและชมรมจะทำให้นักกีฬามีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง นี่คือการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับอนาคตของกีฬาซอฟท์เทนนิสไทย
ในงานมอบรางวัลที่ทรงเกียรติ “กินรีทอง มหาชน ครั้งที่ 10” ได้ยกย่องและเชิดชูผู้ที่มีคุณธรรมและสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมไทย งานนี้เต็มไปด้วยการแสดงความยินดีและการยอมรับผลงานจากนักแสดงและผู้ผลิตละครช่อง 3 หลากหลายคน ซึ่งแต่ละคนได้รับรางวัลจากการทำงานอย่างหนักและความสร้างสรรค์ในการผลิตผลงานที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นละครพีเรียด, ละครโรแมนติก, หรือภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์
การมอบรางวัลเริ่มขึ้นด้วยการยกย่องผู้จัดละครหญิงยอดนิยมปีนี้ ดิว-ปิ่นกมล มาลีนนท์ ซึ่งได้รับรางวัลจากการสร้างสรรค์ซีรีส์แซฟฟิกเรื่องแรกของช่อง 3 “ใจซ่อนรัก” ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ตามมาด้วยละครพีเรียด “หนึ่งในร้อย” ที่คว้ารางวัลถึงสามรางวัล รวมถึงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมและนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม สำหรับต่อ-ธนภพ และญาญ่า-อุรัสยา ตามลำดับ ละครสะท้อนสังคม “โลกหมุนรอบเธอ” ก็ได้รับรางวัลมากมาย เช่น ละครสะท้อนสังคมยอดนิยม, ผู้กำกับละครยอดเยี่ยม และนักแสดงสมทบหญิงดาวรุ่ง สำหรับแอน ทองประสม และแอ้ว-อำไพพร จิตต์ไม่งง
นอกจากนี้ ละครค่ำเรตติ้งแรง “นางนาคพระโขนง” ยังได้รับรางวัลทีมนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม โดยมีนักแสดงหลายท่านขึ้นรับรางวัลร่วมกัน ส่วนภาพยนตร์แห่งปี “ธี่หยด” ที่ช่อง 3 ร่วมกับ M Studio สร้างโปรเจกต์หนังฟอร์มยักษ์ ได้รับรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี, ผู้กำกับภาพยนตร์ดีเด่นยอดนิยม และนักแสดงนำชายยอดนิยม สำหรับณเดชน์ คูกิมิยะ รวมถึงรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, แต่งหน้าเทคนิคพิเศษและออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม ฯลฯ
งานนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของแต่ละบุคคลและทีมงาน แต่ยังเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพจากช่อง 3 ที่จะยังคงนำเสนอสู่สายตาคนไทยต่อไป การมอบรางวัลนี้สะท้อนถึงความสำเร็จและความภาคภูมิใจของทุกคนที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ พร้อมทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานที่ดีในอนาคต
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักแสดงและศิลปินลิเกชื่อดัง โน๊ต สินชัย ได้แบ่งปันประสบการณ์ที่ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวผ่านทางแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขา ขณะที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ในร้านแห่งหนึ่ง โน๊ตได้ประสบกับอาการวูบที่ทำให้เขาหมดสติ และเกือบจะบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่มีผู้คนในบริเวณใกล้เคียงเข้ามาช่วยเหลือทันเวลา ในตอนแรก หลายคนสงสัยถึงสาเหตุของเหตุการณ์นี้ แต่โน๊ตได้อธิบายว่าเป็นผลมาจากความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้เขาเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดังกล่าว
โน๊ต สินชัย เผยว่าขณะนั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้านแห่งหนึ่ง เขาได้รู้สึกว่าภาพเบลอและหายใจไม่ออก ก่อนจะสลบไปในที่สุด หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นแล้วล้มลงจากรถเข็นจนหน้าฟาดพื้น แต่โชคดีที่มีผู้คนในร้านและพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือทันท่วงที โดยเรียกรถพยาบาลนำตัวเขาไปรักษาที่โรงพยาบาล
เหตุการณ์นี้ทำให้แฟนคลับและผู้ติดตามของเขาต่างก็แสดงความเป็นห่วง พร้อมทั้งสอบถามถึงสาเหตุที่ทำให้เขามีอาการดังกล่าว โน๊ตได้ตอบกลับว่าในช่วงเวลานั้น เขามีการทำงานที่เครียดมาก รวมถึงการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากต้องทำงานละคร งานลิเก และงานประจำควบคู่กันไป ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาเหนื่อยล้าและมีโอกาสเกิดอาการวูบได้ง่าย
แม้จะเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่โน๊ต สินชัย ยืนยันว่าในปัจจุบันร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นมากแล้ว เขาได้ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ การพักผ่อน และการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น ทำให้สามารถกลับมาทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง
นอกจากนี้ โน๊ทยังได้แสดงความขอบคุณต่อผู้คนที่ช่วยเหลือเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เมื่อเขาล้มลงในร้านอาหาร หากไม่มีพวกเขา เขาก็อาจจะเผชิญกับอันตรายที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ เขาขอขอบคุณพลเมืองดีทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือและดูแลเขาในวันนั้น ทำให้เขาสามารถกลับมาสู่ชีวิตปกติได้อย่างปลอดภัย