วิดีโอล่าสุดที่เผยแพร่โดยบัญชีทางการของ Tesla AI แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบ (FSD) ของรถยนต์ Tesla หลายคัน ซึ่งได้เคลื่อนย้ายจากโรงงาน Fremont ไปยังพื้นที่ขนถ่ายสินค้า โดยไม่มีมนุษย์ควบคุม การเดินทางระยะทาง 1.2 ไมล์นี้ ทำให้เราเห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รถสามารถจอดเมื่อมีสิ่งกีดขวาง เปิดไฟเลี้ยว และจอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เพื่อเตรียมขึ้นรถขนส่ง
วิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นภาพรวมของการใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติในสถานการณ์จริง เผยให้เห็นว่าเทคโนโลยี FSD สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย แม้จะไม่มีมนุษย์ควบคุมภายในรถ การทดสอบครั้งนี้เป็นการทดลองที่สำคัญสำหรับ Tesla ในการพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติแบบไม่ต้องมีคนขับ ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานที่กว้างขวางมากขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ วิดีโอดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า ระบบ FSD สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น การจอดเมื่อมีสิ่งกีดขวาง การเปิดไฟเลี้ยว และการจอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน การทดสอบนี้ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของเทคโนโลยีที่สามารถรองรับการใช้งานในสถานการณ์จริง
วิดีโอดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติที่ Tesla ได้พัฒนาขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานที่กว้างขวางมากขึ้นในอนาคต การทดสอบนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นการยืนยันว่า Tesla มีศักยภาพในการพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 กรมธนารักษ์ได้เปิดให้บริการรับแลกคืนเหรียญกษาปณ์เคลื่อนที่ใน 5 จังหวัด เพื่อส่งเสริมการหมุนเวียนของเหรียญและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการแลกคืนเหรียญทั้งสภาพดีและชำรุด โดยกำหนดสถานที่และเวลาให้บริการอย่างชัดเจน พร้อมจำกัดวงเงินการแลกคืนไม่เกิน 10,000 บาทต่อรายต่อวัน เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่มีเหรียญสะสมไว้
กรมธนารักษ์ได้นำเสนอทางเลือกใหม่ในการแลกคืนเหรียญกษาปณ์สำหรับประชาชนที่ยากต่อการเข้าถึงบริการตามปกติ โดยใช้รถรับแลกคืนเหรียญเคลื่อนที่ ซึ่งจะออกให้บริการในพื้นที่ที่กำหนด ทำให้ประชาชนสามารถนำเหรียญที่มีอยู่มาแลกคืนได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหรียญสภาพดีหรือชำรุด
การให้บริการนี้ครอบคลุมเหรียญทุกชนิดราคา รวมถึงเหรียญที่ชำรุด เช่น เหรียญที่ดำคล้ำ ถูกตัด ถูกตอก ถูกตี เจาะรู หรือบิดงอ การดำเนินการนี้มีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เหรียญที่ถูกเก็บไว้กลับมาเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ที่ต้องการแลกคืนเหรียญโดยไม่ต้องเดินทางไปยังสำนักงานหลัก
กรมธนารักษ์ได้กำหนดแผนการให้บริการแลกคืนเหรียญเคลื่อนที่อย่างชัดเจน โดยระบุวันที่และสถานที่ให้บริการในแต่ละจังหวัด เพื่อให้ประชาชนสามารถวางแผนในการนำเหรียญมาแลกคืนได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมีการจำกัดวงเงินการแลกคืนไม่เกิน 10,000 บาทต่อรายต่อวัน เพื่อป้องกันการใช้บริการอย่างไม่เหมาะสม
ตามแผนการให้บริการ เริ่มจากจังหวัดสุพรรณบุรีในวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์ ที่ปตท.หน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ต่อด้วยจังหวัดสระบุรีในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่สระบุรี ต่อมาในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ศาลหลักเมืองจังหวัดปราจีนบุรี และในวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ ที่องค์พระปฐมเจดีย์จังหวัดนครปฐม ปิดท้ายด้วยจังหวัดฉะเชิงเทราในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ศาลาจตุรมุข การกำหนดระยะเวลาและสถานที่อย่างชัดเจนนี้ช่วยให้ประชาชนสามารถวางแผนการใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัทแกร็บ ประเทศไทย เผยยอดคนขับที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) บนแพลตฟอร์มของตนเองเกิน 10,000 คันแล้ว โครงการนี้ซึ่งดำเนินมาถึงปีที่สาม ได้รับความสนับสนุนจากพันธมิตรหลายราย เพื่อผลักดันนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การขยายเครือข่ายพันธมิตรและการพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะใน 10 จังหวัดหลักทั่วประเทศ
ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา แกร็บได้ประกาศความสำเร็จของโครงการ Grab EV ที่ก้าวเข้าสู่ปีที่สาม โดยมียอดคนขับที่ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเกิน 10,000 คันแล้ว โครงการนี้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดหลัก เช่น กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, ชลบุรี, เชียงใหม่, นครราชสีมา, ขอนแก่น, สุราษฎร์ธานี, สงขลา, อุดรธานี และอุบลราชธานี
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของแกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า ความสำเร็จของโครงการนี้มาจากความร่วมมือระหว่างแกร็บและพันธมิตรใหม่ห้าราย ได้แก่ SUSCO, Whale EV, AGEWAY, SHARGE และ Spark EV ที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโปรแกรมและสิทธิประโยชน์สำหรับคนขับ เช่น โปรแกรมผ่อนขับรับรถ และโปรแกรมเช่าครบจบบนแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์จากสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ช่วยให้คนขับสามารถเข้าถึงยานยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น
การส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจ GrabForGood หรือ "แกร็บ...เพื่อชีวิตที่ดีกว่า" ที่มุ่งลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจ แกร็บไม่เพียงแต่ทำงานร่วมกับพันธมิตรหลากหลายภาคส่วนเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับข้อดีของการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า
สะท้อนผ่านจำนวนคนขับที่หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นนับ 10,000 คัน และจำนวนผู้ใช้บริการที่เลือกใช้รถอีวีเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ซึ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้แกร็บมุ่งมั่นเดินหน้าส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม
ในฐานะผู้ใช้บริการและผู้สนใจด้านสิ่งแวดล้อม การที่แกร็บสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นขั้นตอนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ๆ และการพัฒนาโปรแกรมที่ช่วยให้คนขับเข้าถึงยานยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น เป็นแนวทางที่น่าชื่นชมและควรได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง