เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 67 ครั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “บิ๊กบอย” ได้ประกาศว่า นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025. คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบและสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ได้มอบหมายให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการ. รอบแรกจะกระจายไปใน 4 จังหวัดเชียงใหม่, ภูเก็ต, นครราชสีมาและกรุงเทพมหานคร โดยแต่ละจังหวัดมีทีมวอลเลย์บอล 2 สาย 8 ทีม. รอบ 16, รอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศจะจัดที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก กรุงเทพฯ.

ประโยชน์จากการจัดแข่งขัน

นอกจากให้โอกาสชมฝีมือของนักกีฬาระดับโลกให้กับคนไทย尤其是ที่สนใจกีฬาวอลเลย์บอลแล้ว, การจัดแข่งขันนี้ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลก. ผู้ชมจากทั่วโลกจะมีโอกาสเดินทางมาชมและทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจภายในประเทศประมาณ 8.5 พันล้านบาท. ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดแข่งขันประมาณ 1.1 พันล้านบาท. รมต.บอยยืนยันว่าคุ้มค่ากับการเป็นเจ้าภาพงานระดับโลกอย่างแน่นอน.

การจัดแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025

การจัดแข่งขันเป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลและเป็นโอกาสสำคัญสำหรับประเทศไทย. นักกีฬาระดับโลกจะมาชมและแสดงความสามารถของตนเอง. สำหรับประเทศไทยแล้ว, การจัดแข่งขันเป็นวิธีเพิ่มความรู้จักและเสริมการท่องเที่ยวในด้านกีฬา. มันจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนนานาชาติ.

ยังมีผู้ชมจากทั่วโลกที่จะมาชมการแข่งขันและสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ. ความสำคัญของการจัดแข่งขันไม่เพียง止于此 แต่ยังเป็นการแสดงความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬา.

การจัดแข่งขันวอลเลย์บอลเนชันลีก 2025

ในปี 2568 สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติและ Volleyball World ขอให้งดจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชันลีกก่อนเพราะต้องรับผิดชอบการจัดแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ที่มีความสำคัญมากกว่า. การจัดในเวลาที่ใกล้เคียงกันอาจทำให้ไม่มีเวลาเตรียมงานสำคัญให้ดีที่สุด. แต่ในปี 2569 จะให้ประเทศกลับมาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอีกครั้ง.

การจัดแข่งขันในปีต่างๆเป็นประการสำคัญสำหรับประเทศไทยและการท่องเที่ยวและกีฬา. มันจะสร้างประโยชน์และชื่อเสียงให้กับประเทศ.

จังหวัดนครราชสีมาได้เป็นที่ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตและการกีฬาแห่งประเทศไทยในการจัดการแข่งขันวิ่งโคราชลอยฟ้ามาราธอนครั้งที่ 13. นักวิ่งเกือบ 3,000 คนได้เข้าร่วมประลองฝีเท้าและท้าลมหนาวในอ่างพักน้ำตอนบนและทุ่งกังหันลมโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุมเป็นประธานในพิธีเปิดและนายชวลิต กันคำเป็นผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน. การแข่งขันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสนับสนุนกีฬาแต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา.

ประเด็นหลักของการแข่งขัน

ประเภทการแข่งขัน

การแข่งขันแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ฮาล์ฟมาราธอนระยะทาง 21.1 กิโลเมตร, มินิมาราธอนระยะทาง 10.5 กิโลเมตรและฟันรันระยะทาง 5 กิโลเมตร. แต่ละประเภทมีการแบ่งกลุ่มอายุ (Age Group Winner) ทั้งชายและหญิง. ผู้แข่งขันประเภทฮาล์ฟมาราธอนรุ่นทั่วไปที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับแรกจะได้รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินสดคนละ 12,000 บาท และผู้แข่งขันประเภทมินิมาราธอนรุ่นทั่วไปที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับแรกจะได้รับถ้วยรางวัลพร้อมเงินสดคนละ 10,000 บาท.สำหรับประเภทฮาล์ฟมาราธอน–ประเภทรุ่นทั่วไป (Overall) ชาย ได้แก่ คุณชุติเดช ถนอมทรัพย์ สถิติ 1 ชั่วโมง 20 นาที 8 วินาทีและประเภทรุ่นทั่วไป (Overall) หญิง ได้แก่ คุณกอบกาญจน์ ภูอาราม สถิติ 1 ชั่วโมง 35 นาที 6 วินาที.สำหรับประเภทมินิมาราธอน–ประเภทรุ่นทั่วไป (Overall) ชาย ได้แก่ คุณธีระยุทธ กิ่งคำ สถิติ 35 นาที 52 วินาทีและประเภทรุ่นทั่วไป (Overall) หญิง ได้แก่ คุณเปรมกมล วงค์วิชัย สถิติ 41 นาที 4 วินาที.

รางวัลสำหรับผู้เข้าแข่งขันประเภทแต่งกายแฟนซี

ผู้ที่ได้รับยอดกด Like มากที่สุดในคอนเซ็ปต์ “Korat Monogram” จะเป็นผู้ชนะเลิศการประกวดนักวิ่งแฟนซี. ผู้ชนะลำดับที่ 1 จะได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท, ลำดับที่ 2 จะได้รับเงินรางวัล 2,000 บาทและลำดับที่ 3-5 จะได้รับเงินรางวัล 1,000 บาท.

ประโยชน์จากการแข่งขัน

นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุมเปิดเผยว่า จังหวัดนครราชสีมาได้รับการประกาศเป็นเมืองกีฬาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ. การจัดการแข่งขัน “โคราชลอยฟ้ามาราธอน 2024” ครั้งที่ 13 จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนสนใจหันมาออกกำลังกาย, เสริมสร้างความแข็งแรงและภูมิคุ้มกัน. มันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชนรอบพื้นที่.

บรรยากาศภายในงาน

ผู้ร่วมงานและนักวิ่งจะได้สุขภาพที่ดี อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข. ยังมีกิจกรรม “ชุมชนเข้มแข็งสีคิ้วมีแต่ของดีดี” ชอป ชิมอย่างจุใจกับสินค้าชุมชนเช่นผลิตภัณฑ์เกษตรปลอดสารพิษ, อาหารดีอำเภอสีคิ้ว, วากิวโคราช, ขั่วหมี่โคราชกรอบและอื่น ๆ.