XE
Xe Range Rover điện thử nghiệm trên sa mạc ở nhiệt độ 50⁰C
2024-11-30
Sau những thành tích vĩ đại khi đã chinh phục khu vực mặt hồ đóng băng -40⁰C ở Vòng Bắc Cực, chiếc xe Range Rover thuần điện gần đây tiếp tục chứng kiến khả năng vượt trội của mình. Các thử nghiệm ở sa mạc dưới nhiệt độ cao đến 50⁰C là một bước quan trọng trong quá trình phát triển của nó.

“Range Rover Electric: Chinh phục Khí Hậu Nóng và Đường Cát”

Chinh phục Khí Hậu Nóng

Các Tiểu vương quốc Ả-rập Thống nhất (UAE) đã trở thành nơi Land Rover thử nghiệm hiệu suất và khả năng tiết kiệm năng lượng của xe Range Rover thuần điện. Đây là một thử nghiệm khó khăn do khí hậu nóng là một thách thức lớn đối với bất kỳ xe điện nào. Nhà sản xuất phải làm mát khoang cabin và tối ưu hóa hiệu suất pin đồng thời. Ông Thomas Muller, Giám đốc điều hành bộ phận Kỹ thuật sản phẩm của Range Rover, cho biết rằng hệ thống kiểm soát lực kéo và quản lý nhiệt mới đã chứng minh khả năng của xe trong điều kiện nhiệt độ lên đến 50⁰C và độ ẩm 90%. Khi lái xe với độ dốc tương đương 100m trên cát mịn, Range Rover Electric không chỉ đạt hiệu suất ngang bằng, thậm chí còn vượt trội hơn.

Đường Cát: Chinh phục Đụn Cát “Big Red”

Tại trung tâm sa mạc Al Badayer, chiếc xe điện Range Rover phải chinh phục đụn cát “Big Red” cao 300ft (hơn 90m). Cân bằng trọng lượng tốt và hệ thống treo tiên tiến giúp xe duy trì kiểm soát và ổn định một cách dễ dàng qua cát. Hệ thống quản lý mô-men xoắn mới phân phối lực kéo đến từng bánh xe với tốc độ phản ứng chỉ 1 mili giây thay vì khoảng 100 mili giây như trước, cải thiện đáng kể khả năng kiểm soát lực kéo khi lái xe trên cát mịn. Tất cả các xe đã hoàn thành 5 lần leo đồi liên tiếp mà không suy giảm hiệu suất, sẵn sàng bước vào các giai đoạn thử nghiệm tiếp theo.

Độ Bền và Kỷ Năng Thoại Mái

Quy trình thử nghiệm độ bền và khả năng chịu đựng của Range Rover nhằm khẳng định danh tiếng “đi đến mọi nơi” của nó. Trong quá trình thử nghiệm, xe phải chứng kiến mọi thử thách và vẫn thể hiện được độ bền cao và khả năng hoạt động tốt. Với hệ thống quản lý mô-men xoắn mới và các công nghệ tiên tiến, Range Rover Electric đã thể hiện ra khả năng vượt trội trong mọi điều kiện. Đây là một chứng tỏ về chất lượng và sự chuyên nghiệp của thương hiệu.
LEAPMOTOR C10 สี 5 ที่นั่ง ชาร์จไฟ 477 กม. ราคา 1.098 ล้านบาท
2024-11-30
ในงาน Motor Expo 2024, กลุ่มพระนครยนตรการ (PNA Group) ได้ใช้เวทีเพื่อเปิดตัวแบรนด์ LEAPMOTOR พร้อมกับ LEAPMOTOR C10 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกในตลาดเมืองไทย. รถนี้มีรูปแบบเอสยูวี 5 ที่นั่งและสามารถชาร์จไฟได้ไกลถึง 477 กม. มีราคา 1.098 ล้านบาท (ในช่วงแนะนำ 200 คันแรกจะได้รับแคมเปญพิเศษมูลค่า 120,000 บาท).

คุณภาพและบริการที่มีค่า

LEAPMOTOR C10 ได้รับรางวัลการออกแบบระดับนานาชาติ เช่น International CMF Design Award 2023 และ French Design Award 2024. ด้านหน้ามากับไฟหน้า LED แบบ “Angel-Wing” พร้อม DRL แบบ Sequential และระบบ Active Grille Shutter (AGS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแอโรไดนามิก. ด้านข้างตัวรถออกแบบให้มีความเรียบหรูและดูแพง มือเปิดประตูเป็นแบบราบเรียบและมีหลังคารถแบบแขวนเพื่อทำให้ดูกว้างและใหญ่ขึ้น. ด้านท้ายมีแถบไฟ LED ที่วางเต็มพื้นที่ส่วนท้ายและสปอยเลอร์หลังคา พร้อมไฟเบรดวงที่ 3.

ภายในห้องโดยสาร, แผงแดชบอร์ดมีรูปแบบมินินอลเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความไฮเทค. ไม่มีปุ่มสั่งงานใด ๆ แต่มีแผงหน้าปัด LCD ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 10.25 นิ้วที่วางแบบลอยตัวอยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบก้านคู่ท้ายตัด. หน้าจอส่วนกลางมีขนาด 14.6 ความคมชัดระดับ 2.5K พร้อมกับชิป Qualcomm Snapdragon 8155 และระบบปฏิบัติการ Leapmotor OS 4.0. สามารถรับรู้การโต้ตอบด้วยเสียงและรองรับการอัปเดทแบบ OTA.

ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่

ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่ของ LEAPMOTOR C10 ได้รับกล้อง 360 องศาและระบบ ADAS ขั้นสูงเช่น Adaptive Cruise Control (ACC), Automatic Emergency Braking (AEB), และ Lane Keeping Assist (LKA). เพื่อให้ผู้ขับมีความปลอดภัยในการขับรถ.

เทคโนโลยีและการชาร์จไฟ

LEAPMOTOR C10 ถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม LEAP 3.0 และขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% มากับมอเตอรืไฟฟ้าตัวเดียวที่วางอยู่คู่ล้อหลังให้กำลัง 218 แรงม้าและแรงบิด 320 นิวตันเมตร. อัตราเร่ง 0 -100 กม./ชม. ในเวลา 7.5 วินาทีและความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. มีโหมดการขับขี่ทั้ง Easy/Sport/Custom และ Chill. รองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC 84 kW ที่ให้กำลังไฟ 30-80% ภายใน 30 นาทีและรองรับการชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6.6 kW ที่ชาร์ไฟเต็มภายในเวลา 5 ชม. มีระบบเบรกเพื่อชาร์จไฟกลับ Braking Energy Regeneration System พร้อมฟังก์ชันการปล่อยไฟฟ้าภายนอก V2L (Vehicle to Load).

คุณภาพและการใช้งานของเบาะและพื้นที่เก็บสัมภาะ

เบาะที่นั่งของ LEAPMOTOR C10 เป็นเบาะซิลิโคนที่ผ่านการรับรอง OEKO-Tex Standard 100® ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายต่อเด็กทารก. เบาะคนขับออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์และมีระบบระบายอากาศ. พื้นที่เก็บสัมภาะระด้านท้ายสามารถรองรับกระเป๋าเดินทางขนาด 20 นิ้วได้ถึง 7 ใบและสามารถขยายได้ถึง 1,410 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง.

คุณภาพและการเลือกสี

C10 มีตัวถัง 5 สี ได้แก่ สีเขียว Glazed Green, สีขาว Pearly White, สีเทา Canopy Grey, สีเทา Tundra Grey และสีดำ Metallic Black. ส่วนเฉดสีภายในห้องโดยสารจะมีให้เลือก 2 สี ได้แก่สีน้ำตาล Criollo Brown และสีดำ Midnight Aurora.

สำหรับผู้สนใจ สามารถเข้าไปชมและสัมผัส C10 ที่โชว์รูม Leapmotor สาขาลาดพร้าวและสาขา รัชโยธิน หรือเข้ามาทดลองขับรถ C10 ที่งาน Motor Expo 2024 ที่บูธ Leapmotor B15 ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2567.

See More
สุดสลด: รถกระบะชนเสาไฟฟ้า 4 รายเสียชีวิตจากความเร็วสูง
2024-11-30
เมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักหลุดโค้งชนเสาไฟฟ้า บริเวณถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) ฝั่งขาออกเมือง โค้งปั๊มน้ำมันบ้านดงหมู หมู่ 10 ต.ท่าค้อ อ.เมืองนครพนม ซึ่งมีผู้เสียชีวิตติดในรถยนต์ จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม เจ้าหน้าที่กู้ชีพ 1669 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม จุดเมือง วีอาร์กู้ภัยลำโขงเฟรนด์ชิพ กู้ภัยศรีสัตตนครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุและภาพหลักฐาน

พบสภาพรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ 4 ประตู สีขาว สภาพเสียหลักชนเสาไฟฟ้าแรงสูงขนาดใหญ่ พังเสียหายทั้งคัน แถบรถด้านขวาพับงอเข้ากับเสาหม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูง มีผู้เสียชีวิตเป็นชายลักษณะศีรษะโผล่ออกมานอกรถ

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้น ทราบชื่อคนขับที่เสียชีวิตติดคาซากรถยนต์ คือ นายปวริศ ทันหอ อายุ 30 ปี หรือ อาร์ ชาวบ้านหนาด ต.นากลาง อ.เมือง นครพนม โดยก่อนเกิดเหตุ ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ในตัวเมืองนครพนม รวม ทั้ง 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน ขากลับ จากข้อมูลหลักฐานกล้องหน้ารถยนต์ พบว่าขับด้วยความเร็วสูง พอถึงโค้งจุดเกิดเหตุ เชื่อว่าคนขับไม่ชินทาง เนื่องจากเป็นโค้งอันตราย ทำให้รถยนต์เสียหลัก ลักษณะท้ายสะบัดหลุดโค้ง เป็นเหตุให้พุ่งชนเสาไฟฟ้า จนเสียชีวิตคาที่

ผู้เสียชีวิตและสถานการณ์

นอกจากนี้ ยังพบมีผู้โดยสาร เสียชีวิตติดในซากรถ รวม 4 ราย ทั้งคนขับ เป็นชาย 2 ราย และหญิง 2 ราย เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องตัดถ่าง และอุปกรณ์อื่นๆ พยายามนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถยนต์ ใช้เวลา นับ 2 ชั่วโมง เพราะร่างถูกอัดจนติดคาด้วยโครงเหล็ก โดยประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นำรถเครนมาช่วยตัดเสาไฟฟ้า เพื่อให้กู้ภัยทำงานได้สะดวก จนนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถกระบะได้

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้น สามารถได้ชื่อและสถานการณ์ของผู้เสียชีวิตได้ คนขับที่เสียชีวิตคือ นายปวริศ ทันหอ อายุ 30 ปี หรือ อาร์ ชาวบ้านหนาด ต.นากลาง อ.เมือง นครพนม โดยก่อนเกิดเหตุ ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ในตัวเมืองนครพนม รวม ทั้ง 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน ขากลับ จากข้อมูลหลักฐานกล้องหน้ารถยนต์ พบว่าขับด้วยความเร็วสูง พอถึงโค้งจุดเกิดเหตุ เชื่อว่าคนขับไม่ชินทาง เนื่องจากเป็นโค้งอันตราย ทำให้รถยนต์เสียหลัก ลักษณะท้ายสะบัดหลุดโค้ง เป็นเหตุให้พุ่งชนเสาไฟฟ้า จนเสียชีวิตคาที่

ผลการตรวจสอบและความคิดเห็น

ตรวจสอบหลักฐาน พบภาพหลักฐานจากกล้องหน้ารถยนต์ กระบะ อีซีซุ 4 ประตู บันทึกชัดเจน ก่อนเกิดเหตุ เสียหลักหลุดโค้ง ชนกับเสาไฟฟ้า แรงสูงขนาดใหญ่ เชื่อว่าสาเหตุมาจากการใช้ความเร็วสูง ไม่ชินทาง ทำให้รถยนต์เสียหลักขณะเข้าโค้ง พุ่งชนเสาไฟฟ้า จนพังเสียหาย และมีผู้เสียชีวิต ถึง 4 ราย

จากการตรวจสอบและการศึกษาในระดับหลักฐาน สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุหลักของเหตุการณ์นี้คือการใช้ความเร็วสูงไม่ชินทาง ซึ่งทำให้รถยนต์เสียหลักและพุ่งชนเสาไฟฟ้า จนเกิดความเสียหายและผู้เสียชีวิต ถึง 4 ราย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องระวังและดูแลอย่างดี

See More