En julio de 1212, en la batalla de las Navas de Tolosa, la fortuna pudo haber caído del lado del ejército almohade. Si hubiese sido así, quizás hoy no existirían dos bienes del patrimonio gastronómico universal como son los vinos del Marco de Jerez y el jamón ibérico de bellota. Esto demuestra cómo las decisiones históricas pueden tener un impacto significativo en la cocina.
Particularidades de todo tipo, más allá de los avances tecnológicos, restringen el progreso. La imprenta, que revolucionó la difusión del conocimiento culinario a partir del siglo XV, no fue lo más relevante. Lo auténticamente importante fue la alfabetización de la población, ya que los libros no sirven de nada sin la habilidad de leerlos. A lo largo del tiempo, multitud de hechos han ido perfilando la alimentación actual.
Algunos han tolerado el pronóstico en virtud de las exigencias del momento, como los avances en transporte y refrigeración controlada. Sin embargo, otros no han sido tan receptivos, ya que es más difícil visualizar los impactos fuera del registro del conocimiento.
En resumen, la cocina y la historia están estrechamente relacionadas. Las decisiones y las predicciones han tenido un impacto significativo en cómo somos hoy. Es importante estar atentos a estos factores y a cómo pueden influir en nuestro futuro.
นายณรงค์ศรี (สงวนนามสกุล), ผู้ขับรถบัสอายุ 39 ปี, กล่าวว่าเขาได้ขับรถบัสจากจ.เชียงใหม่ไปจ.ชลบุรีเพื่อไปรับนักเรียนเตรียมทหารที่ฝึกภาคทะเลในจ.ชลบุรีและกลับโรงเรียน. เมื่อเขาได้ขับมาถึงกิโลเมตรที่ 50, มีกลิ่นและควันไฟในรถทำให้เขาจอดรถข้างทาง. ก่อนที่จะพบว่ามีควันและไฟลุกบริเวณเพดานที่เป็นช่องแอร์ตอนหลังของรถบัส,ไฟได้ไหม้ลามมาถึงเบาะด้านล่าง. เขาได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนผู้ขับขี่ที่นำถังดับเพลิงมาช่วยดับไว้ได้ทัน.
จากการตรวจสอบ, เจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาป่อเต็กตึ๊งและเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทองได้เข้ามาช่วยควบคุมเพลิงอย่างรวดเร็วก่อนลุกลามขยายวงกว้างต่อไป.
ผู้รักษาและเจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการจัดการกับเหตุไฟไหม้เช่นนี้. พวกเขาได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันความเสียหายและความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น.
การรวมมือกันของผู้รักษาและเจ้าหน้าที่ได้ช่วยให้สถานการณ์กลายเป็นอย่างดีและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บในขณะแรก. นั่นเป็นผลของความร่วมมือและความรับรู้ของพวกเขา.
ผู้รักษาและเจ้าหน้าที่ควรมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการจัดการกับเหตุไฟไหม้เช่นนี้. พวกเขาควรมีความพร้อมและพร้อมที่จะรับรู้และรักษาในทุกสถานการณ์.
ความรักษาในสถานการณ์ของไฟไหม้รถบัสเป็นตัวอย่างของความร่วมมือและความรับรู้ของชุมชน. มันช่วยสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจในชุมชน.
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งว่าพบไฟไหม้รถบัสบริเวณถนนสายเอเชีย ขาเข้ากรุงเทพ กิโลเมตรที่ 50 ใต้ทางต่างระดับอ่างทอง ตำบลบ้านอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง. กลุ่มควันไฟพวยพุ่งอยู่ภายในรถบัส สีฟ้า หมายเลขทะเบียน 33-4977 กรุงเทพมหานคร. ผู้ขับขี่ใช้ถังเคมีควบคุมเพลิง และเจ้าหน้าที่ช่วยระดมฉีดน้ำควบคุมประมาณ 20 นาที และทุบกระจกด้านในบางส่วน. ควันไฟจึงสงบลง ก่อนลุกลามขยายวงกว้าง และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ.
จากการสอบถาม นายณรงค์ศรี อุทธจันทร์ อายุ 39 ปี คนขับรถ ได้ขับขี่รถบัสเปล่าเดินทางจากเชียงใหม่ไปจังหวัดชลบุรีเพื่อรับนักเรียนเตรียมทหารที่ไปฝึกภาคทะเลในจังหวัดชลบุรีกลับโรงเรียนเตรียมทหารในจังหวัดนครนายก. เมื่อถึงกิโลเมตรที่ 50 ได้มีกลิ่นและควันไฟในรถ. จอดรถข้างทางพบว่ามีควันและไฟลุกบริเวณเพดานที่เป็นช่องแอร์ตอนหลังรถบัส. แม้ลามมาถึงเบาะด้านล่าง แต่ได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนผู้ขับขี่ที่นำถังดับเพลิงมาช่วยดับไว้ได้ทัน. รถน้ำดับเพลิงจาก อบต.บ้านอิฐ เจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาป่อเต็กตึ๊ง และเจ้าสมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง เข้ามาช่วยควบคุมเพลิงอย่างรวดเร็ว ก่อนลุกลามขยายวงกว้าง.
ในสถานการณ์นี้ เจ้าหน้าที่และผู้ช่วยเหลือได้ทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารและร้านค้าในบริเวณนั้น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาป่อเต็กตึ๊งและเจ้าสมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง ได้ช่วยควบคุมเพลิงอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันการขยายของลุกลาม. ผู้ขับขี่ด้วยความรวดเร็วและความรับผิดชอบได้ใช้ถังเคมีควบคุมเพลิงเพื่อควบคุมไฟไหม้และช่วยให้สถานการณ์กลับสงบลง.
การรักษาความปลอดภัยในสถานการณ์นี้เป็นอย่างสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายและความอันตรายให้กับผู้โดยสารและชุมชนในบริเวณอ่างทอง. เจ้าหน้าที่และผู้ช่วยเหลือได้ทำงานอย่างมีความเชื่อถือและมีความรับผิดชอบเพื่อให้สถานการณ์กลับสงบและปลอดภัย.