NETA S Shooting Brake รถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์สไตล์ Wagon มุ่งเน้นความล้ำหน้าและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกไลฟล์สไตล์. นอกจากนี้ยังพร้อมรุ่นยอดนิยม NETA V-II และ NETA X ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีและประสิทธิภาพที่ตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค.
NETA ไม่เพียงแต่สร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรม Super EREV แต่ยังมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือกว่า ผ่านโปรโมชันสุดคุ้ม รับของแถมฟรี สูงสุด 9 รายการ พร้อมจัดแคมเปญ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ “ไมค์ทองคำ”.
NETA V-II รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ City Car มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว หน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย และกุญแจแบบสมาร์ทคีย์พร้อมระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ. NETA V-II รุ่น SMART มาพร้อมระบบช่วยในการขับขี่ ADAS รวม 8 สistem และฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า.
NETA X รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% สไตล์ SUV ได้รับรางวัล“รถยนต์ไฟฟ้าที่เปี่ยมด้วยความคุ้มค่า” ประจำปี 2024. ในเดือน ตุลาคม 2024 NETA X ยังคว้าอันดับ 1 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า 100% ประเภทรถอเนกประสงค์ (SUV).
เนต้า ออโต้ ได้เข้าร่วมงานมหกรรมยานยนต์ (Thailand International Motor Expo) 2024 เพื่อแนะนำเทคโนโลยี EREV นวัตกรรมสุดล้ำของรถยนต์ไฟฟ้า. มีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น NETA X “Intelligent Premium C-SUV” ราคา 799,000 บาท และรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น NETA V-II “True Value City EV” ราคา 569,000 บาท.
ในงานมหกรรมยานยนต์ (Thailand International Motor Expo) 2024 เนต้า ออโต้ ได้จัดให้มีแคมเปญพิเศษให้กับลูกค้าที่จองรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น NETA V-II และรุ่น NETA X. ลูกค้าจะได้รับโปรสุดคุ้มและรับฟรีหลายสิทธิประโยชน์.
Super EREV หรือ EREV เป็นรถยนต์พลังงานแห่งอนาคต ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและมีเครื่องยนต์สันดาปภายใน พร้อมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟ เพื่อเพิ่มระยะการขับขี่ให้มากกว่า. สามารถขับขี่แบบรถ EV และเติมน้ำมันเพื่อความอุ่นใจในทุกเส้นทาง.
Super EREV ของ NETA มีความพิเศษในการผลิตกระแสไฟและจ่ายตรงไปยังมอเตอร์ขับเคลื่อนตัวรถ โดยไม่ต้องผ่านแบตเตอรี่. ในกรณีที่แบตเตอรี่เกิดอุบัติเหตุ หรือได้รับความเสียหาย ยังสามารถนำพาตัวเองและตัวรถออกจากพื้นที่อันตราย เข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยได้.
Intelligent Navigation mode ระบบประเมินเส้นทาง โดยระบบจะแนะนำการใช้พลังงานที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานสูงสุด.
บี. โกวินดาราจัน ราจัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรยัล เอ็นฟีลด์กล่าวว่า โรยัล เอ็นฟีลด์มุ่งมั่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตั้งโรงงานเพื่อขยายตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางในระดับโลก. โรงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการนี้และช่วยให้ผู้ที่หลงใหลในรถมอเตอร์ไซค์ได้สัมผัสกับ DNA ของโรยัล เอ็นฟีลด์.
ยาดิ ยาดวินเดอร์ ซิงห์ กูเลเรีย – ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์โรยัล เอ็นฟีลด์กล่าวว่าตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีศักยภาพและโรงงานนี้เป็นเครื่องยืนยันความเชื่อมั่นของเราที่มีต่อตลาดและชุมชนผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์.
โรงงานใหม่มีพื้นที่กว่า 5,200 ตารางเมตรและมีกำลังการผลิตติดตั้งมากกว่า 30,000 คันต่อปี. โรงงานนี้เป็นศูนย์การผลิตที่ทันสมัยและล้ำหน้าและจะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย. โรงงานนี้จะช่วยให้การส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์แก่ลูกค้ามีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากขึ้นและมอบประสบการณ์ที่ดีอันน่าจดจำยิ่งกว่าเดิม.
สำหรับการเติบโตของเราตลอดหลายปีที่ผ่านมาให้กำลังใจเราเป็นอย่างมาก. เรายังคงตั้งใจที่จะส่งมอบรถมอเตอร์ไซค์และประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมกับชุมชนผู้ขับขี่ในประเทศไทย.
Royal Enfield คือผู้นำระดับโลกในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง. เราได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั่วโลกและสไตล์การขี่ของเราได้รับความนิยม. เรามีรถมอเตอร์ไซค์หลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ผู้ขี่จากทั่วโลก.
ประเทศไทยเป็นตลาดที่แข็งแกร่งสำหรับโรยัล เอ็นฟีลด์และมีแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคง. เรามีลูกค้าและชุมชนผู้รักในแบรนด์ของเราในประเทศไทยและยอดการเติบโตมากกว่า 150%.