ในอดีต สถานที่สาธารณสุข (สธ.) ได้เป็นแม่งานหลักในการดำเนินงานเพื่อลดโรค NCDs แต่ยังไม่สามารถให้ผลตามที่ต้องการได้. จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรค NCDs มากกว่า 4 แสนรายต่อปีและยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ. โรค NCDs เป็นโรคที่เชื่อมโยงไปถึงทุกมิติในสังคม เช่นด้านเศรษฐกิจ, รายได้, การศึกษา, การคมนาคมขนส่ง เป็นต้น.
ดังนั้น การจัดการโรค NCDs ในระดับบุคคลอาจไม่สำเร็จได้ เพราะสภาพแวดล้อมของชุมชนและสังคมเป็นปัจจัยสำคัญ. เราต้องเข้าไปจัดการหรือออกแบบเพื่อลดความเสี่ยงของโรคในพื้นที่ของตนเอง.
สถาบันนโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ได้กล่าวว่า การปรับสภาพแวดล้อมในพื้นที่เป็นสิ่งที่สำคัญ. ส่วนตัวอปท. (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) จะเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการพื้นที่สาธารณะให้กับประชาชน โดยเฉพาะการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์ของประชาชนในทุกกลุ่มวัยอย่างเท่าเทียม.
กรมอนามัยก็เห็นว่า มาตรการทางกฎหมายมีส่วนสำคัญอย่างมาก. ถ้าสามารถปรับใช้และเชื่อมโยงมายังเรื่องสุขภาพ จะเป็นอีกกลไกที่ทำให้ประชาชนเกิดการเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะการใช้กฎหมายสำหรับควบคุมร้านค้าร้านอาหาร.
หลายหน่วยงานและภาคส่วนได้เข้ามาสานพลังและร่วมดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ของพวกเขา. เช่นกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้กำหนดแนวทางมุ่งเน้นลดโรค NCDs และลดความเสี่ยงของโรคในกลุ่มนักเรียน.
สช. (สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ) และภาคีเครือข่ายสมาชิกสมัชชาสุขภาพ ได้ร่วมกันขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วยการสานพลังสร้างสภาวะแวดล้อมทางกายภาพและสังคมเพื่อลดโรค NCDs.
มีการตั้งเป้าหมาย 4 ด้านเพื่อชี้วัดความสำเร็จของการดำเนินงานตามแผน. เช่นลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ช่วงอายุ 30 – 70 จากโรค NCDs ต้องลดลง 25% หรือมีค่าเป้าหมาย 11%. ความชุกของโรคความดันโลหิตสูง ในกลุ่มอายุ 18 ต้องลดลง 25% หรือมีค่าเป้าหมาย 16.95% และเช่นกัน.
มีเครื่องมือ 5 อย่างที่ทุกภาคส่วนจะใช้สานพลังและขับเคลื่อนร่วมกัน เช่นร่วมกันจัดระเบียบสังคม ลดการเข้าถึงสินค้า ผลิตภัณฑ์และอาหารที่อันตรายต่อสุขภาพ.
ในปี 2568 สช. และภาคี จะร่วมกับภาคีระดับพื้นที่ดำเนินมาตรการสร้าง Ecosystem เพื่อลด NCDs. ถ้าแต่ละพื้นที่ให้ความสำคัญและขับเคลื่อนอย่างพร้อมเพียงพร้อมกับได้ผลลัพธ์ที่ดี จะทำให้เกิดการขยับขับเคลื่อนในการสร้างนโยบายจากระดับพื้นที่ไปสู่ระดับชาติ.
ความเห็นจากวงเสวนาเช่นนั้นว่า เราต้องร่วมกันกำหนดเพื่อลด NCDs โดยเฉพาะการควบคุมปริมาณน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มที่จำหน่ายอยู่ในสังคม.