ADVERTISMENT
TOYOTA ได้ยอดจอง 7,080 คัน ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์ที่มียอดขายสูงสุดในงานนี้. BYD ได้ยอดจอง 5,239 คัน. HONDA ได้ยอดจอง 4,170 คัน. AION ได้ยอดจอง 3,068 คัน. MG ได้ยอดจอง 2,502 คัน.
ในงานนี้ยังมีค่ายรถบางแบรนด์ยังไม่ได้ส่งยอดจองอย่างเป็นทางการให้กับผู้จัดงาน แต่ยอดดังกล่าวที่ได้มาจึงเป็นผลจากการที่ผู้ซื้อรถเข้าร่วมกิจกรรม ซื้อรถ…ชิงรถและซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิ๊กไบก.
ZONTES ได้ยอดจอง 1,607 คัน. YAMAHA ได้ยอดจอง 950 คัน. EM ได้ยอดจอง 556 คัน. PAPID ได้ยอดจอง 517 คัน. DECO ได้ยอดจอง 359 คัน.
นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไปงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งนี้ 41 เปิดเผยว่า ยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ดังกล่าวภายในงานมีค่ายรถบางแบรนด์ยังไม่ได้ส่งยอดจองอย่างเป็นทางการให้กับผู้จัดงาน.
ยอดจองที่เหลือในวันนี้ (10 ธ.ค.) ที่ยังมียอดจองเข้ามาเพิ่มเติม น่าจะผลักดันให้ยอดจองที่ผู้จัดงานตั้งเป้าไว้ที่ รถยนต์ที่ 53,248 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์ทำได้ 7,373 คัน และมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 72,000 ล้านบาทเท่ากับปี 2566 นั้นมีความเป็นไปได้สูง.
สำหรับงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 จัดระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-10 ธ.ค. 2567 นี้ ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ เมืองทองธานี.
รถคันแรกของวู่หลิงที่ประกอบในประเทศ ได้ออกจากสายพานการประกอบของเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว. โรงานแห่งนี้ เราลงทุนไปประมาณ 200 ล้านบาทภายใต้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของทีมงานวิศวกรของ วู่หลิง จาก SAIC-GM-Wuling (SGMW). มีกำลังการประกอบสูงสุด 10,000 คันต่อปี.
โรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าวู่หลิง ในประเทศไทย ใช้ชิ้นส่วนในประเทศหรือ Local Content ประมาณ 50% และมีแผนจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง. มีเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นให้ได้มากกว่า 60-70% ภายใน ปี พ.ศ. 2569.
หลังจากเปิดตัว, วู่หลิง บิงโก อีวี และ วู่หลิง แอร์ อีวี ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวไทย. จนถึงขณะนี้, อีวี ไพรมัส ได้ส่งมอบรถทั้งสองรุ่นไปแล้วมากกว่า 1,800 คัน. รถทั้งสองรุ่น ได้สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ใช้ทุกรายในคุณภาพของรถ และการออกแบบ. ตอกย้ำความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ WULING ในฐานะที่เป็น รถเล็กพรีเมียมพลังงานไฟฟ้า ได้เป็นอย่างดี.
ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา, มียอดคำสั่งซื้อเข้ามาประมาณ 800 คันและคาดว่าจะได้ครบ 1,000 คันตามเป้าหมายที่วางไว้ในเร็ว ๆ นี้.
ในประเภทท่ารำบุคคลหญิง คาราเต้ ที่หอประชุมโรงเรียนศรียานุสรณ์ไฮไลต์อยู่. มนสิชา สกุลรัตนธารา เจ้าของเหรียญทองแดงกีฬาเอเชียนเกมส์ 2018 และแชมป์เก่ากีฬาแห่งชาติ 5 สมัย ได้ทำงานดีและโชว์การร่ายรำที่แข็งแกร่ง. เหรียญทองของเธอได้มาครองเป็นสมัยที่ 6 โดยคะแนน 38.9 คะแนน ซึ่งมากพอสำหรับชนะ. ในประเภทท่ารำบุคคลชาย เหรียญทองเป็นของ ภาณุเดช ขนานเภา จากนครศรีธรรมราช โดยคะแนน 38.9 คะแนน ด้วยการแข่งขันอย่างแข็งแกร่ง.
ยกน้ำหนักในรุ่น 45 กก.หญิง ได้เป็นทาง “เหมย” สุฑาสิณี แก้วสิงขรณ์ ยกเหล็กสาวน้อยวัย 17 จากสุราษฎร์ธานี. เหรียญทองของเธอได้ครองทั้ง 3 เหรียญ โดยในท่าสแนตช์ ยกได้ 71 กก. ทำลายสถิติของ เปรมศิริ บุญพิทักษ์ จากอุดรธานี ที่ทำไว้ 70 กก. ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์ค ยกได้ 85 กก. ทำลายสถิติของ เปรมศิริ บุญพิทักษ์ จากอุดรธานี ที่ทำไว้ 83 กก. และ น้ำหนักรวม ยกได้ 156 กก. ทำลายสถิติของ เปรมศิริ บุญพิทักษ์ จากอุดรธานี ที่ทำไว้ 152 กก.
ในวันที่ 10 ธ.ค.67 ฟุตบอลชาย ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี รอบแรก กลุ่ม ง ตรัง ชนะ สมุทรสาคร 3-1, จันทบุรี ชนะ ภูเก็ต 3-0, กลุ่ม ค ศรีสะเกษ ชนะ ฉะเชิงเทรา 5-3, นครสวรรค์ ชนะ ยะลา 2-0. ในรักบี้ฟุตบอล ที่มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี ประเภท 15 คน กลุ่มเอ นครปฐม ชนะ กรุงเทพมหานคร 33-13 จุด, กลุ่มบี นครราชสีมา ชนะ พิษณุโลก 48-3 จุด, กลุ่มซี ชลบุรรี ชนะ เชียงใหม่ 50-3 จุด, กลุ่มดี สุรินทร์ ชนะ ราชบุรี 28-6 จุด.
สรุปเหรียญรางวัลกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 49 “จันท์เกมส์” ประจำวันที่ 10 ธ.ค.67 ณ เวลา 18.00 น. โดยใน 5 อันดับแรกนั้น กรุงเทพมหานคร แชมป์เก่า แซงเจ้าภาพขึ้นมาเป็นอันดับที่ 1 ของตารางแล้ว ด้วยผลงาน 7 เหรียญทอง 11 เหรียญเงิน 18 เหรียญทองแดง. ส่วนอันดับ 2 เจ้าภาพจันทบุรี คว้าไป 7 ทอง 7 เงิน 12 ทองแดง, อันดับ 3 ชลบุรี 7 ทอง 6 เงิน 5 ทองแดง, อันดับ 4 ม malamืดอย่าง หนองบัวลำภู คว้ามาได้ 4 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง และ อันดับ 5 สุพรรณบุรี คว้าได้ 3 ทอง 3 เงิน 5 ทองแดง.