La etapa adolescente presenta desafíos significativos tanto para jóvenes como para adultos. Este período crucial exige un enfoque equilibrado que combine comunicación efectiva, respeto mutuo y una perspectiva comunitaria más amplia. Los expertos destacan la importancia de ver a los adolescentes no como extensiones de sus padres, sino como individuos únicos con potencial por desarrollar. Además, se enfatiza la necesidad de adaptarse a las realidades cambiantes de esta generación, evitando proyectar métodos antiguos que pueden no ser efectivos hoy en día.
Un Enfoque Amplio: Más Allá del Círculo Familiar
Los educadores modernos insisten en que la influencia sobre los adolescentes trasciende los límites familiares. La responsabilidad educativa es una tarea colectiva donde cualquier adulto puede tener un impacto positivo. Sara Desirée Ruiz, autora especializada en adolescencia, propone el concepto de "amivis", o Adolescentes de MI Vida, refiriéndose a todos aquellos jóvenes con quienes interactuamos y podemos influir, independientemente de su relación directa con nosotros. Esta visión expande nuestra comprensión de cómo cada interacción puede moldear vidas.
Este enfoque comunitario sugiere que incluso personas fuera del núcleo familiar tienen el poder de inspirar y guiar a los jóvenes. Por ejemplo, un vecino o maestro puede convertirse en un referente inesperado para un adolescente. Ruiz enfatiza que este papel no está limitado a los progenitores; cualquier figura adulta puede contribuir significativamente al desarrollo de los jóvenes. Al adoptar esta mentalidad, creamos una red de apoyo más robusta y diversificada que beneficia tanto a los adolescentes como a la comunidad en general.
Comunicación y Paciencia: Claves para un Relacionamiento Saludable
Para establecer relaciones sólidas con los adolescentes, es esencial cultivar habilidades de comunicación efectiva y paciencia. Los jóvenes están en pleno proceso de descubrimiento personal y social, lo que a menudo lleva a conflictos y desafíos. En lugar de imponer reglas rígidas, los adultos deben buscar dialogar y argumentar, explicando claramente las razones detrás de las normas y expectativas. Esta aproximación fomenta un entendimiento mutuo y ayuda a los jóvenes a internalizar valores de manera más profunda.
Además, es importante recordar que los adolescentes están en desarrollo y no siempre comprenden completamente sus acciones o emociones. Como adultos, debemos actuar como guías respetuosos, ofreciendo apoyo sin imponer nuestras propias carencias no resueltas. Esto implica aceptar que los jóvenes formularán sus propios valores y creencias, posiblemente distintos a los nuestros. El equilibrio entre proximidad y distancia es crítico; mientras mantenemos roles claros, también debemos estar atentos a señales de problemas de salud mental. Finalmente, en lugar de castigos automáticos, se recomienda promover la reflexión y el aprendizaje de las consecuencias naturales de las acciones.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้เริ่มดำเนินการโครงการใหม่เพื่อให้บริการรถรับส่งฟรีแก่ผู้ป่วยทุพพลภาพและกลุ่มคนที่เดินทางไปโรงพยาบาลด้วยความยากลำบาก ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยโครงการนี้ครอบคลุมการรักษาพยาบาลทั้งหมดภายใต้ระบบบัตรทอง และได้มีการทดลองใช้งานเป็นเวลาสองเดือน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี มีการใช้บริการรวมแล้วกว่า 497 ครั้ง
รายละเอียดของโครงการรับส่งผู้ป่วยทุพพลภาพ
ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา สปสช. ได้เปิดตัวโครงการใหม่เพื่อสนับสนุนผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลด้วยตนเองได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ติดเตียง คนพิการ และผู้ป่วยที่มีภาวะทุพพลภาพ โครงการนี้ถูกนำร่องในเขตกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพกรุงเทพมหานคร
ภายในระยะเวลาสองเดือนแรกของการทดลองใช้งาน มีผู้ป่วยจำนวน 325 คนได้รับบริการรถรับส่งโดยแจ้งผ่านสายด่วน 1330 รวมทั้งหมด 497 ครั้ง โครงการนี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีอุปสรรคในการเดินทางหรือภาระค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังทำให้ผู้ป่วยสามารถรับการรักษาที่โรงพยาบาลตามนัดหมายได้อย่างสะดวกสบาย
กระบวนการขอใช้บริการนี้ค่อนข้างง่าย ผู้ป่วยที่มีนัดหมายกับโรงพยาบาลด้านในกรุงเทพฯ สามารถโทรประสานงานล่วงหน้าได้ที่สายด่วน 1330 อย่างน้อย 7 วันก่อนวันนัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่จัดเตรียมรถรับส่งได้ทันเวลา เมื่อมีการตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนแล้ว จะมีการโทรยืนยันกับผู้ป่วยอีกครั้งอย่างน้อย 1 วันก่อนวันนัดหมาย และจะมี SMS แจ้งทะเบียนรถ ชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของคนขับรถให้ผู้ป่วยทราบ
โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยและญาติที่สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างแน่นอน นับเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยทุพพลภาพในเขตกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 เกิดอุบัติเหตุรถยนต์รุนแรงบริเวณโค้งถนนสุขุมวิท ใกล้โรงงานปลาป่น ในอำเภอเมืองตราด ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 4 คน เป็นหญิงสาววัยรุ่น อายุระหว่าง 25-35 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากสภาพรถที่พังยับจากการเสียหลักตกถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยและพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทันที พร้อมประเมินอาการเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตราด สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้มาจากคนขับที่หลับในขณะขับขี่ ทำให้รถพุ่งลงข้างทาง
ความเร็วและความประมาทเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ
จากการสอบสวนพบว่า การขับขี่ที่ขาดสมาธิและการเหนื่อยล้าจากการเดินทางเป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุครั้งนี้ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งหมดกำลังกลับจากงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงเขาคิชฌกูฏ โดยออกเดินทางจากตราดเวลาประมาณเที่ยงคืน ทำให้สภาพร่างกายไม่พร้อมสำหรับการขับขี่ระยะทางยาว
นายขวัญชัย สุโน พนักงานฉุกเฉินการแพทย์ โรงพยาบาลตราด ที่ขับรถตามหลังได้เล่าว่า เขาเพิ่งเลิกทำงานและกำลังขับรถกลับบ้าน เมื่อถึงที่เกิดเหตุ เขาเห็นรถเก๋งคันหนึ่งพุ่งลงข้างทางทันที จึงจอดรถลงไปช่วยเหลือ ทราบว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนี้มาจากการที่คนขับหลับใน รวมถึงผู้โดยสารทั้งหมดที่ไม่สามารถหลบหนีได้ทัน
การช่วยเหลืออย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด และพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ได้ร่วมกันเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างรวดเร็ว ภายในรถพบหญิงสาววัยรุ่นอายุ 25-35 ปี จำนวน 4 คน ทั้งหมดได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะผู้ที่มีแผลแตกที่ใบหน้าและศีรษะ
นางสาวเบล อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้ประสบเหตุ กล่าวว่า ทั้ง 4 คน เพิ่งกลับจากงานนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงเขาคิชฌกูฏ โดยออกเดินทางจากตราดเวลาประมาณเที่ยงคืน เมื่อเสร็จแล้วก็ขับกลับตราดทันที โดยมีเพื่อนอีก 1 คน ขอกลับมาด้วย รวมเป็น 5 คน แต่ก่อนจะประสบอุบัติเหตุได้ส่งเพื่อนคนนี้ลงจากรถไปก่อน จากนั้นขับรถกลับมุ่งหน้ากลับบ้านที่ตำบลเนินทราย ก่อนรถจะประสบอุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้ทุกคนต้องได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที