La comunicación entre padres e hijos puede moldear profundamente el desarrollo emocional y social del niño. Un experto en psicología social, quien se especializa en liderazgo y ética, ha destacado que ciertas frases comunes pueden tener un efecto negativo inesperado. En su nuevo libro, explora cómo estas palabras, aunque bien intencionadas, pueden dañar la confianza y el crecimiento personal del pequeño. Algunas expresiones, como aquellas que indican decepción, pueden ser especialmente perjudiciales durante la etapa de formación.
Las palabras tienen un poder significativo, y según diversos estudios, ciertos comentarios pueden generar sentimientos de vergüenza en los niños. Esta emoción, lejos de ser constructiva, tiende a provocar evasión y desestabilización. Los profesionales en psicología infantil enfatizan la importancia de usar lenguaje que fomente resiliencia y aprendizaje. En lugar de señalar errores con frases destructivas, es más beneficioso guiar a los niños hacia soluciones y reflexiones positivas. Este enfoque ayuda a normalizar los errores y promueve una actitud proactiva frente a los desafíos.
Para construir relaciones sólidas y saludables, es crucial optar por un diálogo empático y constructivo. Expresar preocupación de manera calmada y ofrecer apoyo en momentos difíciles fortalece la confianza y la inteligencia emocional del niño. Al evitar frases que generen vergüenza y optar por un enfoque basado en la comprensión y la solución de problemas, se fomenta un entorno donde los errores son vistos como oportunidades para aprender y crecer. Este enfoque no solo mejora la relación entre padres e hijos, sino que también prepara a los niños para enfrentar el futuro con mayor seguridad y adaptabilidad.
โครงการสำคัญที่จะยกระดับระบบขนส่งทางรถไฟของประเทศได้รับไฟเขียวจากคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยแล้ว โครงการนี้มุ่งเน้นการจัดหารถโดยสารรุ่นใหม่จำนวน 184 คัน เพื่อทดแทนรถเก่าอายุกว่า 30 ปี และเพิ่มศักยภาพในการให้บริการผู้โดยสาร โดยเฉพาะในเส้นทางระยะไกลและเส้นทางที่กำลังขยายตัว การลงทุนในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน
การออกแบบรถดีเซลรางปรับอากาศรุ่นใหม่นี้เน้นความทันสมัยและความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร รวมถึงการใช้เทคโนโลยีไฮบริดที่สามารถใช้พลังงานจากเครื่องยนต์ดีเซลและแบตเตอรี่ไฟฟ้า ทำให้ประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ภายในรถยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ระบบ Wi-Fi, เก้าอี้ปรับเอนได้, ห้องน้ำที่สะอาดและถูกสุขลักษณะ รวมถึงเคาน์เตอร์จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารในทุกด้าน
การรถไฟแห่งประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพการให้บริการให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้การเดินทางของประชาชนสะดวกสบายมากขึ้น แต่ยังช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดและการใช้เชื้อเพลิง รวมถึงลดมลภาวะทางอากาศ โครงการนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของภาครัฐในการสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการขนส่งที่ยั่งยืน ทำให้ประเทศไทยพร้อมรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการเดินทางของประชาชนในอนาคต
บริษัท เอ็กซ์ โมบิลิตี้ ประเทศไทย จำกัด ประกาศแผนการขยายธุรกิจและเพิ่มโชว์รูมให้ครบ 20 แห่งภายในปี 2568 ขณะเดียวกันได้ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ 3,000 คันในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากยอดขายในปีที่แล้วราว 1,200 คัน โดยมีการแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด เช่น G6 และ X9 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนี้บริษัทยังเน้นกลยุทธ์ "Customer Centricity" เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอัจฉริยะและการบริการหลังการขายที่ครอบคลุม
เอ็กซ์เผิงยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ รวมถึงการสร้างโชว์รูมต้นแบบที่มีพนักงานขายมืออาชีพและศูนย์บริการมาตรฐาน ที่มีเครื่องมือเฉพาะทางสำหรับบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ความสามารถของทีมช่างที่ผ่านการอบรมจากสถาบันมาสเตอร์ ออโตโมทีฟ เทรนนิง ทำให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การบริหารจัดการอะไหล่ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมคลังอะไหล่ที่รองรับการบริการลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ทำให้เอ็กซ์เผิงสามารถลดเวลาในการรอคอยและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า นอกจากนี้ การมีศูนย์บริการมาตรฐานยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้กับพาร์ตเนอร์ทั่วประเทศ ทำให้เอ็กซ์เผิงสามารถดูแลลูกค้าได้ทั่วถึงและสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในประเทศไทย
เอ็กซ์เผิงวางแผนที่จะขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบ 20 แห่งภายในสิ้นปี 2568 โดยปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนย์บริการเต็มรูปแบบแล้ว 12 แห่ง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 6 แห่ง และต่างจังหวัด 6 แห่ง การขยายเครือข่ายนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นและตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างทันท่วงที
บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าไว้ที่ 3,000 คันในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากยอดขายในปีที่แล้วราว 1,200 คัน โดยมีการแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด เช่น G6 และ X9 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก การขยายเครือข่ายและเพิ่มจำนวนรถรุ่นใหม่จะช่วยให้เอ็กซ์เผิงสามารถครองส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ขึ้นและก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยและระดับโลก ตามวิสัยทัศน์ที่ได้ประกาศไว้ในการประชุม “XPENG Partner Conference 2025”