เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ข้อบังคับใหม่จากสำนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้ทางพิเศษในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกำหนดระยะเวลาและการยกเว้นบางประเภทของยานพาหนะ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการสัญจรบนทางพิเศษ
ในวันที่ 28 มกราคม 2568 ข้อบังคับใหม่ที่ออกโดยสำนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้เริ่มมีผลบังคับใช้ ซึ่งครอบคลุมเส้นทางสำคัญหลายสาย เช่น ทางพิเศษเฉลิมมหานคร, ทางพิเศษศรีรัช, ทางพิเศษฉลองรัช, ทางพิเศษอุดรรัถยา, ทางพิเศษประจิมรัถยา และทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ตั้งแต่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษสุขสวัสดิ์ไปจนถึงสะพานทศมราชัน (บางโคล่)
ตามข้อบังคับนี้ รถบรรทุก 6 ล้อจะไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวระหว่างเวลา 06.00-09.00 นาฬิกา และ 16.00-20.00 นาฬิกา ในวันทำงาน ส่วนรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไปและรถพ่วง จะไม่สามารถใช้เส้นทางเหล่านี้ระหว่างเวลา 06.00-09.00 นาฬิกา และ 15.00-21.00 นาฬิกา ในวันทำงานเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นสำหรับรถบรรทุกของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย, รถเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ และรถที่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรในทางพิเศษ
การปรับปรุงข้อบังคับนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรปัจจุบันและเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ทางพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการจราจรหนาแน่น
จากมุมมองของผู้ใช้ทางพิเศษ การออกข้อบังคับใหม่นี้เป็นมาตรการที่ดีในการลดปัญหาการจราจรติดขัดและเพิ่มความปลอดภัยบนทางพิเศษ นอกจากนี้ยังช่วยให้การขนส่งสินค้าสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่ถูกห้ามใช้ทางพิเศษ
รถกอล์ฟอาจดูเหมือนยานพาหนะขนาดเล็กที่มีพวงมาลัยและล้อสี่ล้อ แต่มาตรฐานความปลอดภัยของรถประเภทนี้แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปอย่างมาก เนื่องจากไม่ได้ผ่านการทดสอบการชนหรือมาตรฐานความปลอดภัยแบบเดียวกับรถยนต์ปกติ องค์กร Euro NCAP จึงได้ทำการทดสอบรถกอล์ฟรุ่น Club Car Villager โดยจำแนกเป็น “ยานพาหนะสี่ล้อหนัก” และทำการทดสอบการชนทั้งด้านหน้าและด้านข้างที่ความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่ารถกอล์ฟขาดระบบป้องกันแรงกระแทกและโครงสร้างที่สามารถลดอันตรายจากการชน ทำให้มีโอกาสเกิดบาดเจ็บร้ายแรง แม้ว่าจะมีเข็มขัดนิรภัย การใช้งานรถกอล์ฟบนถนนที่มีจำกัดความเร็วต่ำกว่า 56.32 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในสหรัฐฯ ควรระมัดระวังเนื่องจากอุบัติเหตุที่ความเร็วน้อยๆ ยังคงสร้างความเสียหายร้ายแรงได้
การทดสอบการชนด้านหน้าเผยให้เห็นว่ารถกอล์ฟไม่มีระบบใดๆ ที่สามารถลดแรงกระแทก เช่น แกนพวงมาลัยที่ไม่สามารถพับตัวได้ หรือโครงสร้างที่ไม่สามารถดูดซับแรงกระแทก ส่งผลให้หุ่นจำลองได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงทั้งบริเวณลำตัวด้านบนและบริเวณขาที่ถูกกระแทกระหว่างเบาะนั่งและแผงหน้าปัด เข็มขัดนิรภัยไม่สามารถป้องกันอันตรายได้มากเท่าที่ควร ทำให้เห็นว่ารถกอล์ฟขาดการออกแบบเพื่อรับมือกับการชนอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการทดสอบการชนด้านข้าง รถกอล์ฟไม่มีโครงสร้างป้องกันใดๆ ทำให้หุ่นจำลองถูกกระแทกโดยตรงจากอุปกรณ์ทดสอบ ผลการทดสอบทำให้เห็นว่ารถกอล์ฟไม่สามารถป้องกันการบาดเจ็บร้ายแรงในการชนด้านข้างได้ ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่ารถกอล์ฟไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับมือกับการชนที่ความเร็วสูงหรือกระทบกับวัตถุขนาดใหญ่
ผลการทดสอบจาก Euro NCAP สรุปว่ารถกอล์ฟรุ่นนี้ทำงานได้แย่มากและมีความเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บที่อาจถึงแก่ชีวิต แม้ว่ารถกอล์ฟจะเหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นในพื้นที่ที่จำกัดความเร็ว แต่ผู้ใช้งานควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นหากเกิดอุบัติเหตุ ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่บนถนนที่มีการจราจรหนาแน่นหรือใกล้วัตถุขนาดใหญ่ที่อาจเกิดการปะทะได้ง่าย เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน