กีฬา
2 ทีมใหญ่ในกลุ่มบี ASEAN Mitsubishi Electric Cup 2024 สรุปผลตอนแรก
2024-12-09
สรุปผลบอลอาเซียนคัพ 2024 เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากสำหรับฟุตบอลแชมป์ในเอเชีย. ในกลุ่มบี นัดแรก มีผลที่น่าสนใจเช่น เมียนมาเสีย 0-1 แก่อินโดนีเซีย และ สปป.ลาวเสีย 1-4 แก่เวียดนาม. ในกลุ่มเอ นัดแรก ทีมชาติไทยได้คะแนนสูงด้วย 3 คะแนนจากประตูได้-เสีย +10.

ผลบอลอาเซียนคัพ 2024 กลุ่มบี

ผลบอลเมียนมา - อินโดนีเซีย

เมียนมา 0-1 อินโดนีเซีย โดยผู้ทำประตูของอินโดนีเซีย คือ 0-1 อัสนาวี มังกูวาลัม ในนาที 76. นี่เป็นผลที่ทำให้เมียนมาเสียครั้งแรกในนัดแรกของกลุ่มบี.

ผลบอลสปป.ลาว - เวียดนาม更是一面倒 สปป.ลาวเสีย 1-4 แก่เวียดนาม โดยผู้ทำประตูของสปป.ลาว คือ 0-1 เหงียน ห่าย ลอง ในนาที 58, 0-2 เหงียน เตี๋ยน ลิง ในนาที 63, 0-3 เหงียน วัน ตว่าน ในนาที 68 และ 0-4 เหงียน วัน หวี ในนาที 82. สุดท้าย บุนพะจัน บุนกอง ได้จุดโทษในนาที 90+5 เพื่อให้ผลลัพธ์เป็น 1-4.

สรุปตารางคะแนนกลุ่มบี

1. เวียดนาม 3 คะแนน (ประตูได้-เสีย +3)

2. อินโดนีเซีย 3 คะแนน (ประตูได้เสีย +1)

3. ฟิลิปปินส์ 0 คะแนน

4. เมียนมา 0 คะแนน (ประตูได้เสีย -1)

5. สปป.ลาว 0 คะแนน (ประตูได้เสีย -3)

ผลบอลทีมชาติไทย - ติมอร์เลสเตในกลุ่มเอ

ทีมชาติไทยได้ชนะติมอร์เลสเต 10-0 ในนัดแรก ซึ่งทำให้คะแนนของทีมชาติไทยสูงขึ้นเป็น 3 คะแนนจากประตูได้-เสีย +10. นี่เป็นผลที่ดีมากสำหรับทีมชาติไทยในรอบแรกของกลุ่มเอ.

กลุ่มเอมีผลที่น่าสนใจเช่น มาเลเซียเสีย 2-2 กับ กัมพูชา. ผลลัพธ์ทำให้ตารางคะแนนล่าสุดมีดังนี้ 1. ทีมชาติไทย 3 คะแนน (ประตูได้-เสีย +10), 2. มาเลเซีย 1 คะแนน (ประตูได้-เสีย 0), 3. กัมพูชา 1 คะแนน (ประตูได้-เสีย 0), 4. สิงคโปร์ 0 คะแนน (ประตูได้-เสีย 0), 5. ติมอร์เลสเต 0 คะแนน (ประตูได้-เสีย -10).

"NCDs" สัมพันธ์กับ "สภาพแวดล้อม" สำหรับปรับปรุงสุขภาพดี
2024-12-09
การขับเคลื่อนเพื่อลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ของประเทศไทยเป็นเรื่องสำคัญที่หลายหน่วยงานและภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข. สถานที่สำคัญคือการปรับสภาพแวดล้อมและดำเนินงานร่วมกันในแต่ละพื้นที่.

ผลกระทบและปัญหา

ในอดีต สถานที่สาธารณสุข (สธ.) ได้เป็นแม่งานหลักในการดำเนินงานเพื่อลดโรค NCDs แต่ยังไม่สามารถให้ผลตามที่ต้องการได้. จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรค NCDs มากกว่า 4 แสนรายต่อปีและยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ. โรค NCDs เป็นโรคที่เชื่อมโยงไปถึงทุกมิติในสังคม เช่นด้านเศรษฐกิจ, รายได้, การศึกษา, การคมนาคมขนส่ง เป็นต้น.

ดังนั้น การจัดการโรค NCDs ในระดับบุคคลอาจไม่สำเร็จได้ เพราะสภาพแวดล้อมของชุมชนและสังคมเป็นปัจจัยสำคัญ. เราต้องเข้าไปจัดการหรือออกแบบเพื่อลดความเสี่ยงของโรคในพื้นที่ของตนเอง.

การปรับปรุงสภาพแวดล้อม

สถาบันนโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ได้กล่าวว่า การปรับสภาพแวดล้อมในพื้นที่เป็นสิ่งที่สำคัญ. ส่วนตัวอปท. (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) จะเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการพื้นที่สาธารณะให้กับประชาชน โดยเฉพาะการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์ของประชาชนในทุกกลุ่มวัยอย่างเท่าเทียม.

กรมอนามัยก็เห็นว่า มาตรการทางกฎหมายมีส่วนสำคัญอย่างมาก. ถ้าสามารถปรับใช้และเชื่อมโยงมายังเรื่องสุขภาพ จะเป็นอีกกลไกที่ทำให้ประชาชนเกิดการเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเฉพาะการใช้กฎหมายสำหรับควบคุมร้านค้าร้านอาหาร.

การสานพลังและร่วมมือ

หลายหน่วยงานและภาคส่วนได้เข้ามาสานพลังและร่วมดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ของพวกเขา. เช่นกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้กำหนดแนวทางมุ่งเน้นลดโรค NCDs และลดความเสี่ยงของโรคในกลุ่มนักเรียน.

สช. (สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ) และภาคีเครือข่ายสมาชิกสมัชชาสุขภาพ ได้ร่วมกันขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วยการสานพลังสร้างสภาวะแวดล้อมทางกายภาพและสังคมเพื่อลดโรค NCDs.

มาตรการและวัตถุประสงค์

มีการตั้งเป้าหมาย 4 ด้านเพื่อชี้วัดความสำเร็จของการดำเนินงานตามแผน. เช่นลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ช่วงอายุ 30 – 70 จากโรค NCDs ต้องลดลง 25% หรือมีค่าเป้าหมาย 11%. ความชุกของโรคความดันโลหิตสูง ในกลุ่มอายุ 18 ต้องลดลง 25% หรือมีค่าเป้าหมาย 16.95% และเช่นกัน.

มีเครื่องมือ 5 อย่างที่ทุกภาคส่วนจะใช้สานพลังและขับเคลื่อนร่วมกัน เช่นร่วมกันจัดระเบียบสังคม ลดการเข้าถึงสินค้า ผลิตภัณฑ์และอาหารที่อันตรายต่อสุขภาพ.

ในปี 2568 สช. และภาคี จะร่วมกับภาคีระดับพื้นที่ดำเนินมาตรการสร้าง Ecosystem เพื่อลด NCDs. ถ้าแต่ละพื้นที่ให้ความสำคัญและขับเคลื่อนอย่างพร้อมเพียงพร้อมกับได้ผลลัพธ์ที่ดี จะทำให้เกิดการขยับขับเคลื่อนในการสร้างนโยบายจากระดับพื้นที่ไปสู่ระดับชาติ.

ความเห็นจากวงเสวนาเช่นนั้นว่า เราต้องร่วมกันกำหนดเพื่อลด NCDs โดยเฉพาะการควบคุมปริมาณน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่มที่จำหน่ายอยู่ในสังคม.

See More
How the Magic School Bus Engages Kids in Science and Grownups Too
2024-12-09
For decades, children around the globe have embarked on extraordinary journeys with a zany teacher named Miss Frizzle. She drives the Magic School Bus, taking kids on a whirlwind of scientific explorations. There are Magic School Bus books, two captivating cartoon television series, and a thrilling video game, all with the aim of inspiring more kids to embrace science.

Unlock the Magic of Science with the Magic School Bus

Exploring Space with Miss Frizzle

For decades, children have accompanied Miss Frizzle as she ventures into the vast expanse of space. They gaze upon the twinkling stars and learn about celestial bodies. In one adventure, they witness a solar eclipse up close, observing how the moon blocks the sun's light. This hands-on experience shows kids that science is not just about reading textbooks but about experiencing the wonders of the universe. They learn about gravity, orbits, and the mysteries of space exploration. Through these adventures, kids develop a sense of wonder and a thirst for knowledge about the cosmos.

Delving into the Human Body with Miss Frizzle

The Magic School Bus also takes kids on a deep dive into the complex world of the human body. They explore the inner workings of organs, learn about the circulatory system, and even witness the magic of digestion. Miss Frizzle shows them how each part of the body works together to keep us alive. For example, they see how blood flows through the veins and arteries, delivering oxygen and nutrients to every cell. This hands-on exploration helps kids understand the importance of taking care of their bodies and makes science come alive in a way that textbooks never could. It instills in them a sense of responsibility for their own health and well-being.

Navigating Dangerous Situations with Miss Frizzle

In many of their adventures, the kids find themselves in precarious situations. They face challenges such as extreme temperatures, high winds, and even being swallowed by a whale. But Miss Frizzle teaches them that taking risks and making mistakes is part of the scientific process. Through these experiences, kids learn to think on their feet and find solutions to problems. They realize that science is not always safe and predictable but that it requires courage and determination. These lessons stay with them long after the adventures end and help them face challenges in their own lives with confidence.Today, the Magic School Bus continues to captivate kids around the world, both in and out of the classroom. Its impact on science education cannot be overstated. The books have sold more than 93 million copies in 13 countries, and the TV show has 80 episodes, including a recent reboot on Netflix. It has inspired countless kids to pursue careers in science and has become a cultural phenomenon. The Magic School Bus shows that science can be fun, exciting, and accessible to everyone.
See More